Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTVผู้จัดการรายวัน28 มิถุนายน 2553
สอบหุ้นเป๊ปซี่!ตลท.หวั่นอินไซด์ดันราคาพุ่งแต่ไม่ติดใจยกเลิกเทนเดอร์ฯ             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท เสริมสุข จำกัด (เป๊ปซี่)
โฮมเพจ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

   
search resources

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เสริมสุข, บมจ.
Stock Exchange




ตลาดหลักทรัพย์ฯเผย อยู่ระหว่างการตรวจสอบอินไซด์หุ้น เสริมสุข หลังราคาหุ้นพุ่งแรง73% ตั้งแต่ประกาศซื้อหุ้น พร้อมแจงไม่ติดใจการยกเลิกเทรนเดอร์ ออฟเฟอร์ และการซื้อขายหุ้นบิ๊กล็อต เหตุสามารถทำได้ ด้าน“ศักรินทร์”เตรียมส่งผลศึกษาระยะเวลาให้หุ้นกลุ่มNPG ปรับปรุงแก้ไขสถานะการเงินให้บอร์ดพิจารณา หลังพบตลาดหุ้นอื่นๆให้เวลาแค่ 1-3ปี ชี้เพื่อรองรับการแข่งในอนาคต และกระตุ้นบจ.ที่มีปัญหาเร่งแก้ไขตัวเอง

นาย ศักรินทร์ ร่วมรังษี ผู้ช่วยผู้จัดการ สายงานกำกับตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯอยู่ระหว่างการตรวจสอบการซื้อขายหุ้น บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) หรือ SSC ว่ามีการใช้ข้อมูลภายใน (อินไซด์)หรือไม่ เนื่องจากราคาหุ้นมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงหลังจากที่มีข่าวบริษัท สตราทีจิค เบฟเวอร์เรจเจส (ประเทศไทย) จำกัด จะเข้ามาควบรวมกิจการ โดยได้มีการประกาศทำคำเสนอซื้อหุ้น (ทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์)

ทั้งนี้เมื่อมีการควบรวมกิจการเกิดขึ้นนั้นก็จะมีผลต่อราคาซื้อขายหุ้นในกระดาน ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบต่อไปว่ามีการใช้ข้อมูลภายในหรือไม่ ส่วนในเรื่องการที่ทางสตราทีจิค เบฟเวอร์เรจเจส มีการยกเลิกทำคำเสนอซื้อหุ้นเสริมสุขนั้นก็ไม่มีประเด็นอะไรที่จะต้องไปตรวจสอบ เพราะปกติในเรื่องควบรวมกิจการนั้นมีโอกาสที่จะสำเร็จและไม่สำเร็จได้ ส่วนในเรื่องการที่มีการซื้อขายหุ้นในกระดานรายใหญ่ (บิ๊กล็อต)นั้นเป็นเรื่องที่สามารถทำได้เช่นกันแต่จะต้องทำตามกฎเกณฑ์และไม่ผิดกฎหมาย

"เรื่องการควบรวมนั้นเป็นเรื่องปกติที่เกิดในตลาดทุนจากที่มีผู้เห็นโอกาสในการลงทุนก็เข้ามาซื้อหุ้นและมีการควบรวมกิจการกันได้ ซึ่งมีโอกาสทั้งสำเร็จและไม่สำเร็จ ซึ่งอยู่กับการเจรจา ส่วนการมีการซื้อขายบิ๊กล็อตนั้นเขาสามารถที่จะทำได้เช่นกัน แต่ต้องทำตามกฎเกณฑ์ที่ถูกต้อง "นายศักรินทร์ กล่าว

สำหรับความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บมจ.เสริมสุข (SSC)ตั้งแต่วันที่ 19 เมษายนซึ่งเป็นวันที่บริษัทแจ้งหยุดการซื้อขายช่วงบ่าย โดยราคาปิดวันดังกล่าวอยู่ที่ 20.20 บาท/หุ้น หลังจากนั้น วันที่ 21 เม.ย. เมื่อเปิดการซื้อขาย ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 10.05 บาท หรือ 49.75% ปิดที่ 30.25 บาท/หุ้น และเมื่อ สตราทีจิค เบฟเวอร์เรจเจส แจ้งยกเลิกการทำเทรนเดอร์เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ราคาหุ้นปิดที่ 30.00 บาท นับว่าตั้งแต่มีการทำคำเสนอซื้อหุ้น(19เม.ย.)จนถึงวันยกเลิก ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 9.80 บาท หรือ 48.51% และหากนับตั้งแต่ช่วงเวลาทำคำเสนอซื้อหุ้นถึงวันยกเลิก พบว่าราคาหุ้นSSC ปรับตัวสูงสุดเมื่อวันที่3มิถุนายน โดยปิดที่ 35.00 บาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น(จาก19เม.ย.) 14.80 บาท หรือ 73.26% และเมื่อวันที่24มิ.ย.ราคาหุ้นSSCปรับตัวสูงสุดตั้งแต่ต้นปีที่ 35.75 บาท หากคำนวณตั้งแต่วันทำคำเสนอซื้อหุ้นพบว่าปรับตัวเพิ่มขึ้น 15.55 บาท หรือ 76.98% และล่าสุดวันที่ 25มิ.ย. ราคาปิดที่ 34 .75 บาท

นายศักรินทร์ กล่าวว่า สำหรับในเรื่องมาตรการกำกับดูแลบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในกลุ่มที่เข้าข่ายถูกเพิกถอนจากสถานะทางการเงินและผลดำเนินงานที่อยู่ในกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่แก้ไขการดำเนินงานไม่ได้ภายในกำหนด (NPG) ซึ่งจากการศึกษาข้อมูลการกำกับดูแลของตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียนั้น จะให้ระยะเวลาแก้ไขปัญหาให้ฐานะการเงินกลับมาเป็นบวกนั้น 1 ปี 6 เดือน บางแห่ง 2 ปี และ3 ปี โดยทางสายงานอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะเสนอคณะกรรมการบอร์ด (ตลท.)ว่าจะให้ระยะเวลาบริษัทในกลุ่มNPGในการแก้ไขสถานะการเงินเท่าไร จากก่อนหน้านี้เสนอไป7 ปี

ทั้งนี้เพื่อให้เกณฑ์การกำกับดูแลบริษัทจดทะเบียนของตลาดหุ้นไทยเป็นทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศจากอนาคตที่ตลาดหุ้นไทยจะต้องมีการแข่งขันกับตลาดหุ้นต่างประเทศ ซึ่งการปรับปรุงเกณฑ์การดูแลนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นให้บริษัทเร่งในการแก้ไขปัญหา เพราะ บางบริษัทที่อยู่ในNPGนานถึง 12 ปี โดยตลาดหลักทรัพย์ฯไม่ได้มีเป้าหมายในการที่จะเพิกถอนบริษัทดังกล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us