|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
นายวรวุฒิ อุ่นใจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออฟฟิศเมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการขออนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปจำนวน 20 ล้านหุ้น คิดเป็น 25 % ของทุนจดทะเบียนหลังเข้าตลาดหลักทรัพย์ มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถเข้าระดมทุนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในเดือนกรกฎาคมนี้
ทั้งนี้ บริษัทเป็นผู้ประกอบการประเภท Distance Trade ในธุรกิจสินค้าเครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงานที่ไม่มีหน้าร้านเป็นของตนเองแต่จะขายผ่าน 2 ช่องทางหลัก คือการขายผ่านระบบแค็ตตาล็อก ภายใต้ตราสินค้าของผู้ผลิตชั้นนำและตราสินค้าของบริษัท (House Brand) โดยจะรับคำสั่งซื้อทางระบบ Call Center และอีกช่องทางหนึ่งจะขายทางออนไลน์หรือระบบ E-Commerce ผ่านเว็บไซต์ www.officemate.co.th ที่เน้นให้บริการกลุ่มลูกค้าองค์กรซึ่งปัจจุบันมีกว่า 70,000 องค์กรทั่วประเทศ
ล่าสุดบริษัทฯยังได้ขยายธุรกิจไปสู่กลุ่ม Home Use โดยเปิดเว็บไซต์ www.trendyday.com ในปี 52 เพื่อจำหน่ายสินค้า Life Style ทันสมัยที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน และยังมีสินค้าอุปกรณ์สำนักงานที่อินเทรนด์ รวมถึงสามารถสื่อสารและรับความบันเทิงผ่านสังคมออนไลน์รูปแบบลักษณะพิเศษที่หลากหลายตอบสนองกลุ่มผู้ใช้บริการ
นายวรวุฒิกล่าวว่าวัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต ตลอดจนการพัฒนาเว็บไซต์ trendyday.com อย่างเต็มรูปแบบ โดยตั้งเป้าหมายที่จะผลักดันสู่รูปแบบห้างสรรพสินค้าออนไลน์ที่ครบวงจรรายแรก เพราะเล็งเห็นศักยภาพของธุรกิจ E-Commerce ในประเทศไทยที่มีอัตราเติบโตสูงถึง 30% ต่อปี จากฐานผู้ใช้อินเตอร์เน็ต 16-17 ล้านคน ที่มีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ในการซื้อสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ตมากขึ้น ซึ่งธุรกิจดังกล่าวเป็นตลาดที่น่าสนใจและมีช่องทางการเติบโตที่ค่อนข้างสูง แต่ปัจจุบันยังไม่มีใครเป็นผู้นำตลาดได้ชัดเจน ขณะออฟฟิศเมทมีจุดแข็งที่รายอื่นทำไม่ได้ อาทิ ความชำนาญทางด้านการจัดการสินค้า ความรวดเร็วในการจัดส่ง ความปลอดภัยและน่าเชื่อถือในการรับบริการชำระเงิน ทั้งเงินสดหรือบัตรเครดิตที่พนักงานให้บริการถึงบ้าน
" ปัจจุบันออฟฟิศเมท เป็นผู้ประกอบรายแรกและรายเดียวที่มีการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่เกิดจากการวิจัยและการพัฒนาซอฟแวร์ของตนเองเข้ามาบริหารจัดการในทุกส่วนงาน ซึ่งถือว่าเป็นจุดแข็งในการดำเนินธุรกิจ อาทิ การสั่งซื้อสินค้าผ่าน Call Center ระบบบริหารสินค้าคงคลัง ระบบจัดซื้อ ระบบการจัดส่งระบบบัญชีและการเงิน รวมถึงการพัฒนาระบบงานภายนอกเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานให้กับลูกค้า เช่น ระบบ e-Procurement และการสั่งซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ www.officemate.co.th และ www.trendyday.com " นายวรวุฒิ กล่าว
นายวรวุฒิกล่าวว่า ในปี 53 บริษัทฯ ตั้งเป้าอัตราการเติบโตของรายได้ไว้ที่ 20% จากปี 52 ที่มีรายได้รวมเท่ากับ 914 ล้านบาท คาดว่าน่าจะอยู่ที่ระดับเกิน 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากฐานลูกค้าเดิมและ ลูกค้าใหม่ที่บริษัทฯวางแผนเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดด้วยการนำระบบ e-Procurement เข้ามาช่วยในการสั่งซื้อพิเศษเฉพาะองค์กร รวมทั้งลูกค้ากลุ่ม trendyday.com
สำหรับผลการดำเนินในไตรมาส 1 ปี 53 บริษัทฯ มีรายได้รวมเท่ากับ 282 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% จากช่วงเดียวกันของปี 52 และมีกำไรสุทธิ 14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 86% จากช่วงเดียวกันของปี 52 ซึ่งเป็นผลมาจากทิศทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นประกอบกับนโยบาย " สั่งซื้อเพียง 499 บาท รับบริการส่งฟรีทั่วไทย " ทำให้ได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างมาก
|
|
|
|
|