Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTVผู้จัดการรายวัน24 มิถุนายน 2553
'เอพี'เชื่อครึ่งปีหลังศก.ไทยรุ่ง ลุยปั๊ม15โครงการกว่า2.4หมื่นล้าน             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด

   
search resources

เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์, บมจ.
วิทการ จันทวิมล
Real Estate




“เอพี” เชื่อครึ่งปีหลัง 53 เศรษฐกิจไทยยังดี ลุยเปิด 15 โครงการใหม่ มูลค่าเกือบ 24,000 ล้านบาท หลังครึ่งปีแรกทำยอดขาย 5,400 ล้านบาท ตุนยอดขายในมือ 14,000 ล้านบาท ด้านโบรกเกอร์ฯฟันธง การแข่งขันครึ่งปีหลังดุเดือด ผู้ประกอบการรายใหญ่แห่ปั๊มโครงการใหม่ชดเชยครึ่งปีแรก

นายวิทการ จันทวิมล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์การตลาด บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ เอพี เปิดเผยว่า ในปัจจุบันตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มฟื้นตัวอีกครั้ง หลังจากที่ชะลอตัวไปในช่วงเดือนเมษายนที่มีวันหยุดยาว ต่อเนื่องด้วยความไม่สงบทางการเมือง ทำให้ยอดขายของผู้ประกอบการลดลง โดยในส่วนของบริษัทเองลดลงเล็กน้อยจากเป้าหมายยอดขายทั้งปีตั้งไว้ที่ 18,000 ล้านบาท ส่วนยอดรับรู้รายได้ 14,000 ล้านบาท ซึ่งยอดขาย ณ วันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา มียอดขายแล้ว 5,400 ล้านบาท มียอดขายแล้วรอส่งมอบ (แบล็กล็อค) จำนวน 14,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดขายบ้านเดี่ยวแบรนด์ เดอะ เซ็นโทร 2 โครงการ ในย่านรามอินทราและรัตนาธิเบศน์ ราคาขายตั้งแต่ 3-7 ล้านบาท ซึ่งยอดขายเป็นที่น่าพอใจ ทำให้บริษัทยังเชื่อว่ามีกำลังซื้ออยู่แม้สถานการณ์การเมืองรุนแรง

ล่าสุด บริษัทได้เปิดขายโครงการบ้านกลางกรุง สาทร อย่างไม่เป็นทางการเมื่อวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา โครงการดังกล่าวเป็นทาวน์เฮาส์จำนวน 90 ยูนิต ราคา 9-20 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 900 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 83 ยูนิต ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก สะท้อนให้เห็นว่ากำลังซื้อยังมีอีกมากแม้ว่าภาวะเศรษฐกิจและการเมืองยังคงอยู่

“ทางกลุ่มเอพียังมองเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังไปในทางบวก การลงทุนทั้งของต่างชาติและคนไทยเองก็ยังคงมีอย่างต่อนเอง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ปัญหาการเมืองจะไม่เกิดขึ้นอีก เพราะเมื่อไม่มีปัญหาทางการเมืองมาสะดุด จึงเชื่อว่าตลาดอสังหาฯในช่วงครึ่งปีหลังจะมีอัตราการเติบโตที่ดี” นายวิทการกล่าวและว่า

ดังนั้นในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทจึงวางแผนเปิดตัวโครงการใหม่อย่างน้อย 15 โครงการ มูลค่าเกือบ 24,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเปิดจำนวนมากเมื่อเทียบกับในช่วงครึ่งปีแรกที่เปิดเพียง 5 โครงการ โดย 15 โครงการดังกล่าวแบ่งเป็น บ้านเดี่ยว 5 โครงการ ประมาณ 1,000 ยูนิต มูลค่า 7,000 ล้านบาท, ทาวน์เฮาส์ 7 โครงการ จำนวน 1,300 ยูนิต มูลค่า 7,000 ล้านบาท และคอนโดฯ 3 โครงการ ประมาณ 2,300-2,400 ยูนิต มูลค่า 9,600 ล้านบาท

***โบรกฯคาดครึ่งหลังแห่เปิดแนวราบ

ขณะที่บมจ.หลักทรัพย์ เอเซีย พลัส วิเคราะห์ถึงภาพรวมของผลประกอบการบริษัทอสังหาฯในตลาดหลักทรัพย์ เชื่อว่าผลประกอบการ 2 ไตรมาสที่จะประกาศออกมาน่าจะเห็นการชะลอตัวอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกที่ผ่านมา เนื่องจากได้รับแรงกดดันสำคัญ 2 ประการคือ 1. แรงกดดันด้านการบันทึกรายได้จากการขาย ที่คาดว่าจะชะลอตัวหลังผ่านช่วงการเร่งบันทึกรายได้เพื่อประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นอสังหาฯที่ครบถ้วน และสถานการณ์รุนแรงทางการเมือง ส่วนแรงกดดันที่ 2 ได้แก่ การหมดอายุของมาตรการภาษีธุรกิจเฉพาะ ทำให้ต้องกลับมาจ่ายในอัตรา 3.3% (จาก 0.11%ในงวดไตรมาสแรก) ผลดังกล่าวจะทำให้ Norm Profit Margin หดตัวลง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าน่าจะเห็นการดีดตัวกลับของผลประกอบการในงวดครึ่งหลังของปี 53 อย่างมีนัยสำคัญ จากการแรงหนุนของการบันทึกรายได้จากแบ็กล็อค ที่มียอดกว่า 94,000 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาสแรกของปีนี้ และการบันทึกรายได้จากโครงการแนวราบที่จะมีการเปิดตัวเพิ่มอย่างมากในครึ่งปีหลัง

โดยผู้ประกอบการ 14 รายในครอบคลุมของฝ่ายวิจัย มีแผนงานที่จะเปิดตัวโครงการใหม่ 200 โครงการ มูลค่า 2.4 แสนล้านบาท โดยที่งวดไตรมาสแรกเปิดตัวเพียง 15% ของเป้าหมาย ดังนั้น ในครึ่งปีหลัง น่าจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ ซึ่งจะมีส่วนที่สามารถขายและบันทึกรายได้ทันภายในปี 53 ซึ่งจะเป็นผลดีต่อผลประกอบการ และยังน่าที่จะสร้างบรรยากาศที่ดีในการซื้อบ้าน.   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us