“เอพี” เชื่อครึ่งปีหลัง 53 เศรษฐกิจไทยยังดี ลุยเปิด 15 โครงการใหม่ มูลค่าเกือบ 24,000 ล้านบาท หลังครึ่งปีแรกทำยอดขาย 5,400 ล้านบาท ตุนยอดขายในมือ 14,000 ล้านบาท ด้านโบรกเกอร์ฯฟันธง การแข่งขันครึ่งปีหลังดุเดือด ผู้ประกอบการรายใหญ่แห่ปั๊มโครงการใหม่ชดเชยครึ่งปีแรก
นายวิทการ จันทวิมล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์การตลาด บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ เอพี เปิดเผยว่า ในปัจจุบันตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มฟื้นตัวอีกครั้ง หลังจากที่ชะลอตัวไปในช่วงเดือนเมษายนที่มีวันหยุดยาว ต่อเนื่องด้วยความไม่สงบทางการเมือง ทำให้ยอดขายของผู้ประกอบการลดลง โดยในส่วนของบริษัทเองลดลงเล็กน้อยจากเป้าหมายยอดขายทั้งปีตั้งไว้ที่ 18,000 ล้านบาท ส่วนยอดรับรู้รายได้ 14,000 ล้านบาท ซึ่งยอดขาย ณ วันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา มียอดขายแล้ว 5,400 ล้านบาท มียอดขายแล้วรอส่งมอบ (แบล็กล็อค) จำนวน 14,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดขายบ้านเดี่ยวแบรนด์ เดอะ เซ็นโทร 2 โครงการ ในย่านรามอินทราและรัตนาธิเบศน์ ราคาขายตั้งแต่ 3-7 ล้านบาท ซึ่งยอดขายเป็นที่น่าพอใจ ทำให้บริษัทยังเชื่อว่ามีกำลังซื้ออยู่แม้สถานการณ์การเมืองรุนแรง
ล่าสุด บริษัทได้เปิดขายโครงการบ้านกลางกรุง สาทร อย่างไม่เป็นทางการเมื่อวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา โครงการดังกล่าวเป็นทาวน์เฮาส์จำนวน 90 ยูนิต ราคา 9-20 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 900 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 83 ยูนิต ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก สะท้อนให้เห็นว่ากำลังซื้อยังมีอีกมากแม้ว่าภาวะเศรษฐกิจและการเมืองยังคงอยู่
“ทางกลุ่มเอพียังมองเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังไปในทางบวก การลงทุนทั้งของต่างชาติและคนไทยเองก็ยังคงมีอย่างต่อนเอง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ปัญหาการเมืองจะไม่เกิดขึ้นอีก เพราะเมื่อไม่มีปัญหาทางการเมืองมาสะดุด จึงเชื่อว่าตลาดอสังหาฯในช่วงครึ่งปีหลังจะมีอัตราการเติบโตที่ดี” นายวิทการกล่าวและว่า
ดังนั้นในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทจึงวางแผนเปิดตัวโครงการใหม่อย่างน้อย 15 โครงการ มูลค่าเกือบ 24,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเปิดจำนวนมากเมื่อเทียบกับในช่วงครึ่งปีแรกที่เปิดเพียง 5 โครงการ โดย 15 โครงการดังกล่าวแบ่งเป็น บ้านเดี่ยว 5 โครงการ ประมาณ 1,000 ยูนิต มูลค่า 7,000 ล้านบาท, ทาวน์เฮาส์ 7 โครงการ จำนวน 1,300 ยูนิต มูลค่า 7,000 ล้านบาท และคอนโดฯ 3 โครงการ ประมาณ 2,300-2,400 ยูนิต มูลค่า 9,600 ล้านบาท
***โบรกฯคาดครึ่งหลังแห่เปิดแนวราบ
ขณะที่บมจ.หลักทรัพย์ เอเซีย พลัส วิเคราะห์ถึงภาพรวมของผลประกอบการบริษัทอสังหาฯในตลาดหลักทรัพย์ เชื่อว่าผลประกอบการ 2 ไตรมาสที่จะประกาศออกมาน่าจะเห็นการชะลอตัวอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกที่ผ่านมา เนื่องจากได้รับแรงกดดันสำคัญ 2 ประการคือ 1. แรงกดดันด้านการบันทึกรายได้จากการขาย ที่คาดว่าจะชะลอตัวหลังผ่านช่วงการเร่งบันทึกรายได้เพื่อประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นอสังหาฯที่ครบถ้วน และสถานการณ์รุนแรงทางการเมือง ส่วนแรงกดดันที่ 2 ได้แก่ การหมดอายุของมาตรการภาษีธุรกิจเฉพาะ ทำให้ต้องกลับมาจ่ายในอัตรา 3.3% (จาก 0.11%ในงวดไตรมาสแรก) ผลดังกล่าวจะทำให้ Norm Profit Margin หดตัวลง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าน่าจะเห็นการดีดตัวกลับของผลประกอบการในงวดครึ่งหลังของปี 53 อย่างมีนัยสำคัญ จากการแรงหนุนของการบันทึกรายได้จากแบ็กล็อค ที่มียอดกว่า 94,000 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาสแรกของปีนี้ และการบันทึกรายได้จากโครงการแนวราบที่จะมีการเปิดตัวเพิ่มอย่างมากในครึ่งปีหลัง
โดยผู้ประกอบการ 14 รายในครอบคลุมของฝ่ายวิจัย มีแผนงานที่จะเปิดตัวโครงการใหม่ 200 โครงการ มูลค่า 2.4 แสนล้านบาท โดยที่งวดไตรมาสแรกเปิดตัวเพียง 15% ของเป้าหมาย ดังนั้น ในครึ่งปีหลัง น่าจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ ซึ่งจะมีส่วนที่สามารถขายและบันทึกรายได้ทันภายในปี 53 ซึ่งจะเป็นผลดีต่อผลประกอบการ และยังน่าที่จะสร้างบรรยากาศที่ดีในการซื้อบ้าน.
|