ทัวร์โวยค่าตั๋วเครื่องบินในประเทศไม่เอื้อท่องเที่ยว ชี้โลว์คอสต์ไทยไม่ถูกจริงสมโฆษณา ขณะที่การบินไทยปรับค่าตั๋วแพงลิ่ว หวั่นคนไทยหนีเที่ยวนอก จี้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ นัดหารือผู้ประกอบการธุรกิจสายการบินขอความร่วมมือ เผยโครงการบินไปบินกลับขับรถเที่ยวของ ททท.ยังต้องปรับขึ้นราคาทุกปี เหตุค่าตั๋วเครื่องบินปรับขึ้นราคาด้าน”ชุมพล” รับทราบ ระบุเปรยกับ รมว.กระทรวงคมนาคมแล้ว แต่ตอนนี้ขอดันมาตรการช่วยเหลือฯให้ผ่านก่อน
น.ส.มัยรัตน์ พีระญาณ์โกเศส นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ(สทน.) เปิด เผยว่า อุปสรรคของการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศขณะนี้คือปัญหาตั๋ว เครื่องบินเส้นทางในประเทศ(โดเมสติก)มีราคาแพง บางเส้นทางเมื่อเทียบกับการเดินทางไปต่างประเทศ เช่น ไปสิงคโปร์ ยังมีราคาที่ถูกกว่าตั๋วเดินทางไปภูเก็ต ส่งผลให้ไม่เกิดการจูงใจในการท่องเที่ยวเท่าที่ควร
ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบโดยภาพรวม ทั้งการบินไทย(TG) ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติ และสายการบินต้นทุนต่ำ(โลว์คอสต์แอร์ไลน์) เฉพาะเส้นทางในประเทศ มีราคาแพงกว่าการเดินทางไปประเทศเพื่อนบ้าน โดยสายการบินโลว์คอสต์ของไทยแท้จริงแล้วไม่ได้โลว์คอสต์สมชื่อ เหมือนกับสายการบินโลว์คอสต์ของต่างประเทศอย่างเจ็ทสตาร์ และไทเกอร์แอร์ มีเพียงใช้กลยุทธ์ทางการตลาด
สร้างราคาเปิดให้ดูน่าสนใจแต่พอเข้าไปจองจริงๆแล้วมีเพียงไม่กี่ที่นั่งต่อ เที่ยวบินเท่านั้นที่มีราคาถูก ขณะเดียวกันการกำหนดเพดานราคาสูงสุดยังเกือบเท่ากับราคาของสายการบินระดับ พรีเมี่ยม ทำให้บริษัทนำเที่ยวไม่สามารถนำไปจัดแพกเกจทัวร์ในในราคาที่น่าสนใจ หรือแม้แต่นักท่องเที่ยวที่เดินทางเอง หากไม่จัดโปรแกรมการเดินทางล่วงหน้านานก็จะไม่ได้ราคาถูกเช่นกัน
ซึ่งต่างจากสาย การบินโลว์คอสต์ของต่างประเทศที่บินจากกรุงเทพไปยังจุดหมายปลายทางประเทศของ ตัวเอง เช่น เจ็ทสตาร์ ไทเกอร์แอร์ ที่มีราคาถูกกว่า แม้กระทั่งสายการบินระดับพรีเมียมอย่างสิงคโปร์แอร์ไลน์ หรือสายการบินอื่นๆก็มีราคาที่ถูกกว่าเส้นทางโดเมสติกของสายการบินในประเทศ ไทย
ที่ผ่านมา สทน. เคยเสนอด้วยวาจาต่อพณฯท่านชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว และเตรียมยื่นเป็นจดหมาย เพื่อขอให้รัฐมนตรีช่วยเชิญผู้ประกอบการสายการบินที่มีเส้นทางบินในประเทศ ไทย มาหารือว่ามีความเป็นไปได้แค่ไหน กับการปรับลดราคาตั๋วเครื่องบินให้สอดคล้องกับภาวะวิกฤตการท่องเที่ยว
เพื่อช่วยกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ เพิ่มขึ้น ลดอัตราการเดินทางออกไปเที่ยวต่างประเทศ ที่สำคัญ เราอยากเห็น การบินไทยซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติมีบทบาทในการช่วยกระตุ้นท่องเที่ยวไทยใน ภาวะเช่นนี้ เพราะเป็นช่วงที่สถานการณ์นักท่องเที่ยวอินน์บาวนด์ยังไม่กลับสู่ภาวะปรกติ เราจึงจำเป็นต้องพึ่งนักท่อเที่ยวภายในประเทศ
***ททท.จำต้องดึงTGร่วมโครงการเปิดเป็นทาง เลือก****
ด้านแหล่งข่าวจากวงการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า ล่าสุด โครการ “บินไป บินกลับ ขับรถเที่ยว” ซึ่งจัดโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นปีที่4 โดยปีนี้ เริ่มต้นราคาที่ 5,999 บาท ต่อคน โดยมีเงื่อนไขต้องเดินทางเป็นคู่ขึ้นไป ดังนั้นต่อหนึ่งแพกเกจนี้ผู้บริโภคต้องจ่ายค่าแพกเกจทัวร์ที่ เกือบ 12,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ปรับเพิ่มขึ้นทุกปีจากปีแรก เปิดราคาที่3,999 บาท ต่อคน
ปีที่ผ่านมา ราคาอยู่ที่ 4,999 บาทต่อคน โดยสาเหตุที่ต้องปรับขึ้นราคาเป็นเพราะค่าตั๋วเครื่องบินมีการปรับ ขึ้นทุกปีเฉลี่ยปีละ 1,000 บาท ทั้งนี้หากนักท่องเที่ยวต้องการเดินทางโดยสายการบินไทยหรือ TG จะต้องจ่ายเงินเพิ่ม โดยปีนี้จะต้องจ่ายเพิ่มขึ้น ถึงคู่ละ 3,000-10,000 บาท ขึ้นกับเส้นทางที่จะเดินทางไป โดยต้นทุนค่าตั๋วเครื่องบินสำหรับแพกเกจนี้คิดเป็นสัดส่วนกว่า 40%ส่วน ค่าที่พักและค่ารถเช่าอีกเฉลี่ยที่อย่างละเกือบ 30%
“การจัดแพกเกจทัวร์ในโครงการนี้เป็นการเตรียม การณ์ล่วงหน้า แต่ยืนยันว่ายังเป็นราคาที่ถูกกว่า เมื่อเทียบกับกับนักท่องเที่ยวจองเอง เพราะสามารถกำหนดงบประมาณเดินทางได้แน่นอน ไม่ต้องรอลุ้นกับการจองตั๋วเครื่องบินเอง ส่วนโรงแรมที่ททท.จัดไว้ให้ จะเน้นที่มีมาตรฐานและเพิ่มมูลค่าให้คุ้มค่าเงินแน่นอน
ส่วนการที่ต้องดึงการบินไทยเข้ามาร่วมโครงการด้วยเพราะเป็นสายการบินแห่ง ชาติ ดังนั้นควรที่จะเข้าร่วมในโครงการที่หน่วยงานรัฐทำเพื่อประเทศ และเพื่อเป็นทางเลือกให้แก่นักท่องเที่ยวที่ยังต้องการเดินทางด้วยการบินไทย” แหล่งข่าวกล่าว
*** ”ชุมพล”รับทราบ เผยคุยกับ”โสภณ”ให้แล้ว*****
ทางด้าน นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ได้รับความความเดือดร้อนในเรื่องนี้แล้ว และมองว่าเป็นปัญหาที่สะสมมานาน ซึ่งเคยหารือกับ นายโสภณ ซารัมย์ รมว.กระทรวงคมนาคม ขอให้ช่วยพิจารณาในระดับนโยบายเพื่อให้การบินไทยได้ปรับลดราคาค่าตั๋วโดยสาร เพื่อช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงนี้ และขอให้กวดขันกับสายการบินโลว์คอสต์ที่ใช้กลยุทธ์ราคาในการโฆษณามากเกินจริง ซึ่งการเรียกประชุมผู้ประกอบการสายการบิน คงเป็นภาระกิจรอง เพราะตอนนี้กระทรวงต้องช่วยแก้ปัญหาให้แก่ภาคท่องเที่ยวที่เดือดร้อนมากกว่า โดยเฉพาะการกระตุ้นตลาดอินบาวนด์เพื่อสร้างรายได้เข้า ประเทศ
|