|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
นางสาวณัฐรินทร์ ตาลทอง ประธานกรรมการบริหาร บล.กสิกรไทย กล่าวว่าแผนขยายสาขาใหม่นี้เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่จะผลักดันยอดบัญชีลูกค้าของบริษัทให้เติบโตเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่มีอยู่ 13,000 บัญชี เป็น 22,000 บัญชีภายในสิ้นปีนี้ เฉลี่ยคิดเป็น 500 บัญชี/สาขาใหม่ อีกทั้งจะช่วยผลักดันเป้าหมายการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์)ของบริษัทให้ถึง 4%ตามเป้าจากปัจจุบัน ณ ในเดือนมิถุนายนอยู่ที่ประมาณ 3.95% แล้ว
" เราเชื่อว่าสาขาที่เพิ่มขึ้น และการลงทุนที่ผ่านมาจะช่วยให้ผลประกอบการของบริษัทในปีนี้ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาซึ่งมีรายได้ประมาณ 750 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 220 กว่าล้านบาทได้ โดยในช่วง 1- 2เดือนที่ผ่านมาจากสถานการณ์ความรุนแรงทางการเมืองที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯนั้น เราขอยืนยันว่าไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด เห็นได้จากวอลุ่มเทรดเมื่อเดือนที่ผ่านมา และเดินนี้ยังเติบโตในระดับสูง ขณะที่อัตราการเทรดผ่านะบบอินเทอร์เนต ซึ่งเป็นเป้าหมายที่สำคัญของบริษัทก็เติบโตขึ้นอยู่ที่ 17% "
พร้อมกันนี้ผู้บริหารใหญ่ของ บล.กสิกรไทย ยังกล่าวยืนยันว่า หากแม้ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยจะไม่เอื้ออำนวยหรือสร้างความน่าสนใจต่อนักลงทุนได้มากนัก เรื่องนี้ก็ไม่มีผลต่อต้นทุนค่าใช้จ่ายของสาขาของบริษัท เนื่องสินค้าที่นำมานำเสนอให้ลูกค้านั้น ไม่ได้มุ่งเน้นแต่การลงทุนในหลักทรัพย์เพียงอย่างเดียว บริษัทยังมีสินค้าอื่นของเครือกสิกรไทยมานำเสนอให้ลูกค้า เลือกลงทุนให้เหมาะสมกับสภาพการ เช่น ตราสารนี้ กองทุนรวมฯ เป็นต้น
สำหรับการปิดสาขาใหม่ของบล.กสิกรไทยในครั้งนี้ เป็นไปตามแผน KS Jump Forward ที่มุ่งขยายสาขาไปกับธนาคารแม่ ที่มีโอกาสและศักยภาพในการทำตลาด เพื่อตอบโจทย์คอนเซ็ปต์ KS More ..REACH หรือการเพิ่มช่องทางให้บริการด้านการลงทุนในหลักทรัพย์อย่างครบวงจรและเข้าถึงลูกค้ามากที่สุด
โดยกลยุทธ์ที่จะผลักดันให้แผนนี้ประสบความสำเร็จ คือ อาศัยความแข็งแกร่งของการทำงานร่วมกันกับบริษัทในเครือ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการให้บริการทางการเงินการลงทุนแบบครบวงจร และเป็นการเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ไปยังลูกค้าในเครือของธนาคาร ที่มาใช้บริการสาขาและมีความต้องการด้านการลงทุนเพิ่มเติม
นายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ สายงานการจัดงานเงินลงทุนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์ ( บล. ) กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KS กล่าวถึงแนวโน้มตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ว่าดัชนีหุ้นมีโอกาสที่จะขึ้นไปถึงระดับ 810 – 820 จุด จากมุมมองว่าวิกฤตการเงินในยุโรปน่าจะดีขึ้น ขณะที่กระแสเงินลงทุนยังมีให้เห็นอยู่ อย่างไรก็ตามในช่วงสิงหาคม -กันยายน ดัชนีหุ้นไทยอาจปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 700-720 จุด จากผลประกอบการไตรมาสของบริษัทจดทะเบียนที่จะประกาศออกมาในลักษณะลดลง จนฉุดดัชนีตลาดหุ้นให้ปรับลดตามไปด้วย
" เรายังมองว่ายังมีโฟว์อยู่ ซึ่งแต่ก่อนยังแนะนำให้ลงทุนในหุ้นเพื่อรับข่าว เช่น กลุ่มพลังงาน รับเหมาก่อสร้าง แต่ตอนนี้ต้องเปลี่ยนไปนักลงทุนควรมองหาหุ้นที่ไม่ลดลงตามสภาวะเศรษฐกิจ นั่นคือหุ้นกลุ่มโรงพญาบาล โดยช่วงที่ผ่านมาพบว่ากลุ่มโรงพญาบาลของไทยหลายตัวมีค่า P/E ลดลงเมื่อเทียบกับระดับภูมิภาค เช่น BH อย่างไรก็ภาพรวมแล้วในช่วงไตรมาส 4 ของปีหุ้นไทยจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ตามสัญญาฯการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาส1/54 โดยคาดว่าช่วงปลายนี้น่าจะอยู่ที่ 910 จุดได้ "
นอกจากนี้ กรรมการผู้จัดการสายการจัดการเงินลงทุน บล.กสิกรไทย กล่าวเพิ่มเติม ให้นักลงทุนควรติดตามเรื่องสถานการณ์ค่าเงินหยวนของจีนให้ดี หากจีนยอมยืดหยุ่นค่าเงินสกุลหยวนของตนลง 3% จุดนี้จะมีต่อหุ้นที่ส่งออกสินค้าไปจีนและต่างประเทศ เช่น STA HANA SVI ที่จะได้รับผลดี และน่าลงทุน
ขณะเดียวกัน นายเผดิมภพ กล่าวถึง แผนงานของบริษัทว่า KS จะใช้เงินประมาณ 25 ล้านบาทเพื่อเปิดสาขาใหม่อีก 23 แห่งภายในเดือนกันยายนนี้ จากปัจจุบันนอกจากสำนักงานใหญ่อาคารกสิกรไทย ถนนพหลโยธินแล้ว บริษัทมีสาขาเพียงแห่งเดียวคือที่เสือป่า จุดนับเป็นการลงทุนขยายสาขาครั้งแรกในรอบ 5ปี
โดยการเพิ่มสาขาครั้งนี้ จะทำให้ บล.กสิกรไทย มีสาขามาที่สุดเป็นอันดับ 3 ในอุตสาหกรรมกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ด้วยกัน นอกเหนือจาก บล.คันทรี่ กรุ๊ป และบล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ที่มีสาขา 50 แห่งและ 42 แห่งตามลำดับ อีกทั้งสาขาใหม่ของบริษัทจะมีสองรูปแบบ รูปแบบแรก (K Investment Corner)ในกรุงเทพจะเป็นสาขาที่ตั้งอยู่ธนาคารกสิกรไทย เพื่อให้ลูกค้าของเครือกสิกรไทยได้รับความสะดวกสบายในบริการที่ครบครัน ประเดิมที่แรกคือ ธนบุรี ดาวคะนอง พัฒน์พงษ์ สมุทรปราการ
ขณะที่รูปแบบที่สอง (Business Service Center ) จะเป็นการเปิดสาขาในต่างจังหวัดที่แรกได้แก่ สาขาเชียงใหม่ ซึ่งจะเป็นการตั้งสาขาที่แยกจากตัวธนาคารกสิกรไทย โดยตั้งอยู่ที่ชั้น 3 เซ็นทรัลพลาซ่า แอร์พอร์ต เริ่มเปิดให้บริการ 25 มิ.ย.นี้ ส่วนสาขาที่2ในต่างจังหวัดคือ สาขาพัทยา จะเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาสสุดท้ายของปี
"จากข้อมูลที่เราศึกษาพบว่า หากไม่นับรวมกทม.ที่มีปริมาณการเทรดสูงสุดแล้ว รองลงมาจะเป็น นนทบุรี สงขลา ชลบุรี และพัทยา ทำให้เรามีความสนใจที่จะเข้าไปเปิดสาขาเพิ่มเติมในจังหวัดเหล่านี้จึงเริ่มที่ภาคเหนือและตะวันออกของประเทศก่อน "
ทั้งนี้ บล.กสิกรไทยยืนยันว่า ในส่วนเจ้าหน้าที่การตลาดที่จะประจำในสาขาต่างของบริษัทนั้น จะผ่านการฝึกฝนและอบรมในด้านต่างเป็นอย่างดีจากสำนักงานใหญ่ก่อนเป็นเวลาร่วม 4- 5เดือน โดยปัจจุบันบริษัทมีมาร์เก็ตติ้งมืออาชีพ 110 คน และกำลังพัฒนาขึ้นมาอีก 30 คน โดยสิ้นปีตั้งเป้าจะมีทีมมาร์เก็ตติ้งสำหรับคอยให้บริการลูกค้าได้ถึง 200 คน
|
|
|
|
|