|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เรียลตี้เวิลด์ฯ แจงไตรมาสแรกตลาดรวมโตกระฉูดก่อนยอดขายชะงักในไตรมาสที่2เหตุการเมืองปะทะรุนแรงฉุดการตัดสินใจซื้อลูกค้าแม้รัฐบาต่ออายุมาตรการกระตุ้นผู้บริโภคส่งผลครึ่งปีแรกตลาดรวมดหตัวกว่า10% เชื่อแนวโน้มปรับดอกเบี้ย-หมดมาตรการภาษี-โครงการบ้านเพื่อผู้ประกันตน กระตุ้นกำลังซื้อลูกค้าช่วงปลยปีดันยอดขายตลาดรวมทั้งปีโตไม่เกิน3% เผยคอนโดมิเนียม-ในเมืองแนวรถไฟฟ้า 2-3ล้านบาทยังครองแชมป์ขายดีต่อเนื่อง
นายวิศิษฐ์ คุณาทรกุล ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เรียลตี้ เวิลด์ อัลไลแอนซ์ จำกัด กล่าวว่า ไตรมาสแรกที่ผ่านมาตลาดบ้านมือสองคึกคักมาก เพราะได้รับประโยชน์จากมาตรการลดหย่อนภาษีของภาครัฐ ที่เข้ามากระตุ้นกำลังซื้อ ทำให้ผู้บริโภคที่ตั้งใจซื้อที่อยู่อาศัยตัดสินในเลือกเร็วขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเดือนมี.ค.ที่ผ่านมายอดการตัดสินใจซื้อ และโอนมีจำนวนสูงมาก ทำให้ยอดการซื้อและโอนในช่วงไตรมาสแรกเติบโตจากปีที่ผ่านมาสูงมาก
อย่างไรก็ตามในช่วงต้นไตรมาส2 ทิศทางการตัดสินใจกลับชะงักลงแม้ว่ารัฐบาลจาะไม่การต่ออายุมาตรการออกไปอีก2เดือนก็ตาม เนื่องจากปัจจัยลบทางการเมืองที่เข้ามากระทบโดยเฉพาะเหตุกาณณืความรุนแรงที่เกิดขึ้นในช่วงเดือน เม.ย. - พ.ค. ซึ่งส่งผลให้ผู้บริดภคชะลอการตัดสินใจซื้อออกไป เพราะไม่มั่นใจต่อสถานการณืด้านการเมือง ซึ่งส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อ และความั่นคงของรายได้ของผู้บริโภค ทำให้ยอดขายในช่วงดังกล่าวหดตัวลงอย่างแรง
ทั้งนี้ จากปัจจัยดังกล่าวที่ทำให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อในช่วงไตรมาส2นั้น คาดว่าในช่วงต้นไตรมาส3จะเริ่มปรับตัวดีขึ้นและจะทยอยดีขึ้นเลื่อยๆ อย่างไรก็ตามปัญหาวามรุนแรงจากเหตุการณ์ด้านการเมืองที่เกิดขึ้นนั้น ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการตัดสินใจซื้อทำให้ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ตลาดเติบโตติดลบจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 10% แต่ทั้งนี้ตัวเลขของยอดขายจะสามารถสรุปได้ชัดเจนว่าติดลบมากน้อยเท่าใดนั้นต้องรอให้จบไตรมาส2ก่อน
ส่วนแนวโน้มตลาดรวมบ้านมือง2 ในช่วงครึ่งปีที่เหลือจากนี้ คาดว่าจะได้รับปัจจัยบวกจากแนวโน้มการปรับอัตราดอกเบี้ยของสถาบันการเงิน และการสิ้นสุดมาตรการอสังหาฯของภาครัฐ เนื่องจากแนวโน้มการปรับตัวของอัตราดอกเบี้ยนั้นจะส่งผลต่อกำลัซื้อของผู้บริโภคที่จะซื้อบ้านใหม่ ในขณะที่ราคาและทำเลขของที่อยู่อาศัยบ้านมือ2นั้นจะเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ผู้บริโภคนำมาเปรียบเทียบกับบ้านใหม่ก่อนตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย อย่างไรก็ตามแนวโน้มการปรัตัวของอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายปีนี้ คาดว่าจะไม่ส่งผลต่อกำลัซื้อของผู้บริโภคมากนัก เนื่องจากเชื่อว่าการปรับอัตราดอกเบี้ยจะมีการปรับแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ปรับตัวแบบก้าวกระโดด
สำหรับปัจจัยบวกที่จะส่งผลให้บ้านมือเติบโตได้ขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังนี้ คือโครงการบ้านเพื่ผู้ประกันตน เนื่องจากเงินกู้ในโครงการดังกล่าวจัดเก็บดอกเบี้ยต่ำระยะยาว2.5% ซึ่งส่งผลต่อดีกำลังซื้อของผู้บริโภค ดังนั้นโครงการดังกล่าวจึงน่าจะเข้ามาช่วยกระตุ้นให้ตลาดบ้านมือ2มีอัตราการเติบโตที่ดีในช่วงครึ่งปีที่เหลือได้ โดยประมาณการว่าแนวโน้มดอกเบี้ยที่ปรับขึ้น การหมดอายุมาตรการ และโครงการบ้านเพื่อผู้ประกันต้นจะเข้ามากระตุ้นให้ตลาดในช่วงปลายปีเติบโตได้ดี และผลักดันให้ตลาดรวมบ้านมือ2 เติบโตจากปี52ได้ประมาณ 3%
“ปัจจัยลบที่เข้ามากระทบตฃาดบ้านมือ2 ในปีนี้คงเป็นซับพลายบ้านใหม่ และตลาดรีเซลที่มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น โดยเพาะตลาดบ้านชาญเมืองที่มีอายุมากกว่า10ปีขึ้นไป ในขณะที่บ้านมือสองที่มีอายุ5ปียังมีอัตราการระบายออกที่ดี ทั้งนี้การเข้ามาของซับพลายบ้านใหม่ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้าเพราะเทคโนโลยี วัสดุก่อสร้างและแบบบ้านใหม่ๆ ค่อนข้างส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อของผูบริโภค”
นายวิเศษฐ์ กล่าวว่า สำหรับที่อยู่อาศัยมือสอบที่ขายดีในปีนี้ยังคงเป็นที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมย่านกลางเมือง และคอนโดมิเนียมใกล้แนวรถไฟฟ้า ระดับราคา -23 ล้านบาท เนื่องจากกลุ่มลูกค้าที่ต้องการที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จแล้วมีจำนวนมากขึ้นประกอบกับการหมุนเวียนของซับพลายในตลาดมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นและรอบการหมุนเวียนค่อนข้างเร็วโดยเฉลี่ยอัตราการหมุนเวียนต่อยูนิตจะอยู่ที่2-3เดือน
ในขณะที่ทาวน์เฮาส์ในเมืองและในทำเลรอยต่อขอเมืองราคา 2-3ล้านบสาท เป็นที่อยู่อาศัยที่มีความต้องการรองลงมา ส่วนบ้านเดี่ยวชาญเมืองราคา 3-5 ล้านบาท เป็นกลุ่มที่อยู่อาศัยที่มีการระบายออกเป็นอันดับถัดมา โดยทำเลที่ขายดีจะอยู่ในโซนลาดพร้าว บางกะปิ รัตนาธิเบศร์ ราชพฤกษ ชัยพฤกษ และ กัลปพฤกษ์ ตอวานนท์
ทั้งนี้ ในส่วนของการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้ตั้งเป้าว่าจะมียอดขายรวม 3,000 ล้านบาทจากพอร์ตที่อยู่อาศัยมือ2และที่ดินรอการขายในมือรวม 16,000 ล้านบาท โดยในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาบริษัมียอดขายเติบโตจากปีที่แล้วดีมาก ส่วนในไตรมาส2นั้นยอดขายชะลอตัวตามภาวะตลาด อย่างไรก็ตามคาดว่าตลอดทั้งปีบริษัทจะมียอดขายเติบโตเท่าๆ กับปีที่ผ่านมา
“ในปีนี้ตลาดรวมที่อยู่อาศัยมือ2 คาดว่าจะมีซับพลายรวมในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริฒรฑลหมุนเวียนอยู่ประมาณ 150,000 ล้านบาท และคาดว่ายอดขายตลาดรวมในปีนี้จะเติบโตเท่าๆกับปีที่ผ่านมา”
|
|
|
|
|