นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการ ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม หมอชิต-สะพานใหม่ ระยะทาง 13 กิโลเมตร , สีเขียวอ่อน แบริ่ง-สมุทรปราการ ระยะทาง 14 กิโลเมตร , สีชมพู แคราย-ปากเกร็ด-มีนบุรี ระยะทาง 36 กิโลเมตร ว่า ล่าสุด การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ปรับแบบก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว โดยช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ ได้ปรับแบบเนื่องจากกรุงเทพมหานคร (กทม.) ไม่ให้ใช้พื้นที่บริเวณสำนักงานเขตบางเขน ไปบริเวณอนุสาวรีย์วงเวียนหลักสี่แทน

โดยรฟม.ได้หารือกับกรมศิลปากรในการปรับแบบดังกล่าวแล้ว และได้รับอนุญาตจากกรมศิลปากรให้ก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าได้ เนื่องจากไม่กระทบกับโครงสร้างและภูมิทัศน์อนุสาวรีย์ และการปรับแบบดังกล่าวทำให้สถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียวสามารถเชื่อมต่อกับสายสีชมพู ซึ่งทำให้ประหยัดงบประมาณในการดำเนินการสายสีเขียวไปได้อีกกว่า 1,000ล้านบาทเนื่องจากไม่ต้องปรับปรุงอาคารที่สำนักงานเขตบางเขนให้ กทม. ส่วนสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการนั้น ล่าสุดกรมทางหลวงได้ยุติแผนก่อสร้างสะพานข้ามแยกบริเวณถนนศรีนครินทร์เข้าสู่ตัวเมืองสมุทรปราการ เนื่องจากแนวเส้นทางทับซ้อนกับแนวเส้นทางสายสีเขียว ซึ่งจะทำให้การก่อสร้างสายสีเขียวมีความคล่องตัวมากขึ้น

“ในส่วนของรฟม.นั้นจะยึดมติคณะรัฐมนตรี และเดินหน้าเนินการก่อสร้างงานโยธา รถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้ง 2 ช่วง โดยคาดว่าจะสามารถเปิดประมูลพร้อมกันภายในปีนี้แน่นอน และเริ่มก่อสร้างในปี 2554 เปิดให้บริการได้ไม่เกินกลางปี 2558 ส่วนการเดินรถนั้นต้องพิจารากันอีกครั้งว่าจะเป็นหน้าที่ของกระทรวงคมนาคมหรือกทม. แต่ตอนนี้ งานก่อสร้างต้องทำไปเลย จะรอให้เจรจาว่าใครจะเดินรถจบแล้วค่อยก่อสร้างไม่ได้ เพราะโครงการมีความล่าช้ามา 1 ปีแล้ว และรฟม.ตั้งงบประมาณดำเนินการไว้ตั้งแต่ปี 2552 ” นายสุพจน์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 15 มิ.ย. กระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) , รฟม. จะประชุมหารือความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม และสีเขียวอ่อน รวมถึง สีชมพู แคราย-ปากเกร็ด-มีนบุรี ระยะทาง 36 กิโลเมตร และสายสีส้ม ช่วงตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม ระยะทาง 17.5 กิโลเมตรและช่วงศูนย์วัฒนธรรม-บางกะปิ-มีนบุรีระยะทาง 20 กิโลเมตร

สำหรับสายสีชมพู เป็นอีกเส้นทางที่ต้องเร่งดำเนินการเพื่อรองรับศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ โดยขณะนี้ รฟม. ปรับแบบก่อสร้างเสร็จแล้ว เพื่อแก้ปัญหาแบบเดิมที่เสาตอม่อรุกล้ำเข้าไปในพื้นที่วัดพระศรีมหาธาตุ เขตบางเขน จึงปรับแบบให้เสาตอม่อไปอยู่ที่แขวงการทางเขตบางเขน ของกรมทางหลวงแทน ส่วนสายสีส้มนั้น ล่าสุด รฟม.ได้ออกแบบไปแล้วประมาณ 50% คือ ช่วงตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม ระยะทาง 17.5 กิโลเมตร และอยู่ระหว่างออกแบบช่วงศูนย์วัฒนธรรม-บางกะปิ-มีนบุรี ระยะทาง 20 กิโลเมตร ซึ่งสายสีส้มนี้จะมาเชื่อมต่อกับส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ กับหัวลำโพง-บางแค บริเวณสามแยกไฟฉาย

สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม หมอชิต-สะพานใหม่ มีค่าก่อสร้างงานโยธา 18,725 ล้านบาท,ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 2,390 ล้านบาท และค่างานระบบกับรถไฟฟ้า 14,283 ล้านบาท ค่าจ้างที่ปรึกษาบริหารโครงการอีก 1,287 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการ 36,685 ล้านบาท ส่วนสีเขียวอ่อน แบริ่ง-สมุทรปราการ มีค่าก่อสร้างงานโยธา 17,230 ล้านบาท และค่างานระบบกับรถไฟฟ้า 9,207 ล้านบาทค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 675 ล้านบาท และค่าจ้างที่ปรึกษาบริหารโครงการ 1,035 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการ 28,147 ล้านบาท เมื่อรวม 2 สายทาง มีมูลค่า 64,832 ล้านบาท

นอกจากนี้กระทรวงคมนาคม ยังมีแผนว่า จะเร่งดำเนินการช่วงบางปิ้ง-บางปู ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายจากสายสีเขียวอ่อน แบริ่ง-สมุทรปราการ (บางปิ้ง) ระยะทาง 7 กิโลเมตรด้วย จากตามแผนเดิมช่วงเส้นทางนี้จะดำเนินงานในปี 2572 เนื่องจาก สนข. เห็นว่า ควรดำเนินการต่อเนื่องกับงานก่อสร้างสายสีเขียวอ่อนทันที เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นแหล่งโรงงานอุตสาหกรรม โครงการมีแค่ 4 สถานี เป็นแบบยกระดับทั้งหมด วงเงินก่อสร้างงานโยธาประมาณ 6,000 ล้านบาท และมีมูลค่าการลงทุนรวม 10,700 ล้านบาท อีกทั้งไม่ต้องจัดหาขบวนรถเพิ่มเพราะสามารถใช้รถไฟฟ้าของสายสีเขียวอ่อนวิ่งต่อมาถึงบางปิ้งได้