Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา มิถุนายน 2553
KBANK ตั้งเป้าผู้นำตลาดทุน             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารกสิกรไทย

   
search resources

ธนาคารกสิกรไทย, บมจ.
Banking and Finance




จากภาวะอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในปี 2552 ภาคธุรกิจมีการระดมทุนด้วยการออกหุ้นกู้เป็นจำนวนมาก คาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 347,100 ล้านบาท ในจำนวนนี้มีธนาคารกสิกรไทยทำหน้าที่เป็นผู้จัดจำหน่ายประมาณ 63,160 ล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่งประมาณ 18%

“นอกจากการจัดจำหน่ายตราสารหนี้ในตลาดแรกแล้ว ธนาคารฯ ยังให้ความสำคัญในการเปิดตลาดค้าขายตราสารหนี้ ในตลาดรอง เนื่องจากเล็งเห็นว่าตลาดรองจะทวีความสำคัญและ มีปริมาณซื้อขายที่สูงอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2552 คาดว่าจะมีปริมาณซื้อขายตราสารหนี้ในตลาดรองมากกว่า 3.2 ล้านล้านบาท โดยธนาคารกสิกรไทยเป็นผู้ค้ารายใหญ่ที่สุดคิดเป็นมูลค่า ประมาณ 4.5 แสนล้านบาท หรือมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 13.9%” ธิติ ตันติกุลานันท์ ผู้บริหารสายงานธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทยระบุ

ส่วนการปล่อยสินเชื่อร่วม (Syndicated Loans) ของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบในปี 2552 คาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 60,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้ ธนาคารกสิกรไทยทำหน้าที่เป็นผู้จัดการสินเชื่อร่วม (Loans Mandated Arranger) มากที่สุด ประมาณ 19,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 31.% ของมูลค่า สินเชื่อร่วมทั้งหมด

“สำหรับปี 2553 ภาคธุรกิจจะเริ่มมีสภาพคล่องที่สูงขึ้น ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเช่นกัน จึงทำให้ ความต้องการออกหุ้นกู้โดยภาคเอกชนมีแนวโน้มที่จะลดลงและ คาดว่าจะมีการหันไปใช้แหล่งเงินทุนที่มีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้น เช่น เงินกู้ในรูปแบบสินเชื่อร่วม (Syndicated Loan) และสินเชื่อโครงการ (Project Finance) ซึ่งมีความยืดหยุ่นสูงกว่าการ ออกหุ้นกู้ ทั้งในด้านการเจรจาต่อรองเงื่อนไขต่างๆ และความยืดหยุ่นในการจ่ายคืนเงินกู้”

ทั้งนี้ คาดว่าในปี 2553 จะมีปริมาณการปล่อยสินเชื่อร่วมโดยธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบที่ประมาณ 130,000 ล้านบาท ซึ่งธนาคารกสิกรไทยเชื่อว่า ด้วยความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการด้านการปล่อยสินเชื่อร่วมสูง ธนาคารฯ จะยังคงเป็นผู้นำ ในการจัดการปล่อยสินเชื่อร่วมในปี 2553 คิดเป็นมูลค่าประมาณ 40,000 ล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดที่ 30% ส่วนตลาดตรา สารหนี้ไทยในปี 2553 คาดว่าภาคธุรกิจออกหุ้นกู้มูลค่ารวมประมาณ 225,000 ล้านบาท โดยธนาคารกสิกรไทยคาดว่าจะมี ส่วนแบ่งตลาดในการจัดจำหน่ายตราสารหนี้ประมาณ 25% หรือ คิดเป็นมูลค่า 56,250 ล้านบาท ส่วนการซื้อขายตรา สารหนี้ในตลาดรองคาดว่าจะมีมูลค่า 3.5 ล้านล้านบาท โดยธนาคารตั้งเป้าคง ความเป็นผู้นำในการซื้อขาย ด้วยมูลค่าประมาณ 5.25 แสนล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดประมาณ 15% “ปีหน้าการปล่อยสินเชื่อที่น่าสนใจคือการให้ สินเชื่อโครงการ (Project Finance) เพื่อสนับสนุนโครงการต่างๆ ของรัฐและสินเชื่อแก่ธุรกิจพลังงาน ในกลุ่มลูกค้าผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP Projects) โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ยังมีโอกาสขยาย ตัวสูงและได้รับความสนับสนุนจากภาครัฐ นอกจากนั้นธนาคารฯ ยังตั้งเป้าที่จะเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และการให้สินเชื่อโครงการพลังงานทางเลือก อาทิ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ทั้งนี้คาดว่าในปี 2553 จะมีการลงทุน ในโครงการธุรกิจพลังงานไฟฟ้ารวมแล้วไม่ต่ำกว่า 175,000 ล้านบาท”

ด้านธุรกิจตลาดทุนในปี 2553 ธนาคารกสิกรไทยจะมุ่งเน้น การสนอบริการแบบครบวงจรที่มีความสอดคล้องกับภาวะตลาดและความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ เพื่อครองความเป็นผู้นำในธุรกิจตลาดทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการเป็นผู้จัดการสินเชื่อร่วม (Loan Mandated Arrangers) และเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดใน การเป็นผู้จัดจำหน่ายหุ้นกู้ภาคเอกชน และครองตำแหน่งผู้นำในการ เสนอขายกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund) อีกด้วย

นอกจากนี้ ในปีหน้าธนาคารกสิกรไทยจะสร้างความแตกต่าง จากผู้ให้บริการรายอื่นในตลาด ด้วยบริการให้คำปรึกษาทางการเงิน ในการทำธุรกรรมซับซ้อน ในการเข้าซื้อกิจการของภาคธุรกิจและนักลงทุน อาทิ Acquisition Financing, Management Buyout, และ Leveraged Buyout รวมทั้งการให้บริการข้อมูลงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนที่แม่นยำ โดยที่ผ่านมางานวิจัยด้านธุรกิจตลาดทุนของธนาคารฯ ได้รับการยกย่องให้เป็นงานวิจัยอันดับหนึ่ง ของสถาบันการเงินในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถบรรลุ เป้าหมายสูงสุดทางธุรกิจและการลงทุนที่วางไว้   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us