ไทยออยล์ส่อแววขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน 6 ล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาส 2 นี้ สาเหตุจากราคาน้ำมันอ่อนตัวลง แต่ค่าการกลั่นดีอยู่ที่บาร์เรลละ 6.5 เหรียญสหรัฐ การันตีไตรมาส 2 นี้ มีกำไรสุทธิแน่นอน แต่ไม่เท่าไตรมาส 1/2553 ที่มีกำไรถึง2 พันล้านบาท

นายสุรงค์ บูลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาส 2 ปีนี้ บริษัทฯจะมีกำไรสุทธิต่ำกว่าไตรมาสแรกปีนี้ที่มีกำไรสุทธิ 2 พันล้านบาท เนื่องจากไตรมาสนี้มีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันประมาณ 1 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลหรือรวมทั้งสิ้น 6 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากราคาน้ำมันค่อนข้างผันผวนมากในช่วงไตรมาส 2 คาดว่าราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยในไตรมาส 2อยู่ที่บาร์เรลละ 74 เหรียญสหรัฐ ต่ำกว่าไตรมาสแรกที่ราคาน้ำมันเฉลี่ย 77 เหรียญสหรัฐ แต่ทั้งปีนี้เชื่อว่าไทยออยล์จะมีกำไรจากสต็อกน้ำมันอยู่

สาเหตุที่ราคาน้ำมันเฉลี่ยในไตรมาส 2 ปรับตัวลดลงเนื่องจากความวิตกกังวลเศรษฐกิจในยุโรปเนื่องจากภาระหนี้สินของกรีซ ส่งผลให้ค่าเงินอียูอ่อนค่าลง หนุนให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลกก็ยังเติบโตขึ้น คาดว่าทั้งปีราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยอยู่ที่ 80-85 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล โดยประเมินว่าครึ่งปีหลังราคาน้ำมันน่าจะปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากมีปัจจัยเสี่ยงการเกิดเฮอริเคนในสหรัฐมากกว่าปีก่อน ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นในไตรมาส 3 นี้ ซึ่งเป็นโอกาสที่ทำการป้องกันความเสี่ยงด้านราคาน้ำมัน(เฮดจิ้ง)ได้

"ราคาน้ำมันในครึ่งปีหลังนี้จะปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะมาร์จินของน้ำมันJET และ GASOILดีมาก เชื่อว่าทั้งปีค่าการกลั่นเฉลี่ยอยู่ที่ 6 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ขณะที่กำลังการกลั่นของโรงกลั่นในไทยออยล์ปีนี้อยู่ที่ 95%ของกำลังการกลั่น 2.75 แสนบาร์เรล/วัน จากปีก่อนที่ใช้กำลังการผลิตถึง 100% "

นายสุรงค์ กล่าวต่อไปว่า แม้ว่าไตรมาสนี้ ราคาน้ำมันค่อนข้างผันผวน แต่ค่าการกลั่น(GRM)ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดย2 เดือนที่ผ่านมานี้ ค่าการกลั่นเฉลี่ยอยู่ที่ 6.5 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ขณะเดียวกันมาร์จินจากธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานยังดีอยู่มาก ขณะที่ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์กับวัตถุดิบ(ULG95)จะแคบลงจากไตรมาสที่แล้วมาอยู่ที่ 270 เหรียญสหรัฐ/ตันในไตรมาส 2นี้ เนื่องจากราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลงและกำลังการผลิตใหม่จากตะวันออกกลางในช่วงปลายปี 2552 กดดันให้ราคาอ่อนตัวลง ส่งผลให้บริษัทฯไทยพาราไซลีน จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอะโรเมติกส์ในเครือไทยออยล์ จะมีกำไรสุทธิในไตรมาส 2/2553 ประมาณ 700 กว่าล้านบาท ลดลงจากไตรมาสแรกที่มีกำไรสุทธิ 867 ล้านบาท

ส่วนกรณีที่บริษัทฯได้เข้าไปร่วมทุนถือหุ้น 50%ในบริษัททรัพย์ทิพย์ จำกัด ซึ่งมีโรงงานผลิตเอทานอลขนาด 2แสนลิตร/วันทำให้ปีนี้บริษัทฯจะรับรู้รายได้จากบริษัทดังกล่าวประมาณ 100 ล้านบาท ทั้งนี้ทรัพย์ทิพย์ยังมีแผนจะขยายกำลังการผลิตเอทานอลเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวในเร็วๆนี้ด้วย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของปตท.ที่ให้ไทยออยล์เป็นผู้นำการผลิตเอทานอล รวมทั้งการขยายกองเรือเพื่อใช้ขนส่งน้ำมันในเครือปตท