“ซีคอนสแควร์” เปิดเกมรุกปักธงสมรภูมิชานเมือง ทุ่มงบ 2,500 ล้านบาท เทคโอเวอร์และปรับใหญ่ “ฟิวเจอร์พาร์คบางแค” ขณะที่ซีคอนสแควร์นั้น ทุ่มงบอีก 300 กว่าล้าน ตกแต่งภายนอก พร้อมอัพเกรดจับกลุ่มบีบวกเพิ่มขึ้น ลั่นปีนี้หวังรายได้รวมโต 5%
นายตะติยะ ซอโสตถิกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอน ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ขยายธุรกิจด้วยการเข้าซื้อกิจการศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คบางแค จากบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย หรือ บสท. โดยจะใช้งบประมาณรวมทั้งหมด 2,500 ล้านบาท แบ่งเป็นการซื้อสินทรัพย์ 50% และงบในการปรับปรุงใหญ่ 50%
“ดีลนี้เราใช้เวลา 2 ปีในการติดต่อเจรจากัน ก่อนนี้ก็คงมีหลายบริษัทติดต่อซื้อแต่ไม่สำเร็จ แต่ช่วงที่เราเจรจาซื้อนั้นไม่มีคู่แข่ง เมื่อซื้อเสร็จเราก็เจรจากับเจ้าของที่ดินเดิมที่มี 2 ราย เพื่อต่อสัญญาออกไปอีกรวมเป็น 31 ปี จากเดิมที่ยังเหลืออยู่แค่ 13 ปีครึ่ง ซึ่งเมื่อรีโนเวตเสร็จคาดว่าโครงการนี้จะมีมูลค่ามากกว่า 5,000 ล้านบาท และจะคืนทุนภายใน 7 ปี”
สาเหตุที่ลงทุนเทคโอเวอร์เนื่องจากว่า ง่ายกว่าการสร้างใหม่ เพราะติดขัดเรื่องปัญหากฎหมายผังเมืองต่างๆด้วย ส่วนการซื้อฟิวเจอร์พาร์คบางแคนั้น มองว่า การทำธุรกิจค้าปลีกย่านชานเมืองได้พิสูจน์แล้วว่า เมื่อมีปัญหาเรื่องความขัดแย้งทางการเมืองหรือสภาพเศรษฐกิจไม่ดีก็ตาม ห้างชานเมืองจะไม่ค่อยได้รับผลกระทบมากนัก ขออย่างเดียวอย่ามีปัญหาพวกเบสิคเลยเช่น ไข้หวัดใหญ่ระบาด เป็นต้น
สำหรับการรุกย่านบางแคนั้น เพราะว่า เป็นชุมชนที่มีความหนาแน่นมากกว่าย่านถนนศรีนครินทร์ด้วยซ้ำไป กำลังซื้อก็มีมาก และย่านนั้นการแข่งขันก็ยังน้อยมาก โดยประชากรโดยรอบ 10 กิโลเมตรจากฟิวเจอร์พาร์คบางแคนั้น มีมากกว่า 929,263 คน จำนวกว่า 331,890 ครัวเรือน มีสถาบันการศึกษามากกว่า 225 แห่ง มีโครงการรถไฟฟ้ามหานครสายสีน้ำเงินที่อยู่ระหว่างดำเนินการ
ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ วางคอนเซ็ปท์ใหม่ แต่คาดว่าอาจจะเป็นฟอร์แมทเดียวกับซีคอนสแควร์ ส่วนชื่อนั้นยังไม่สรุปว่าจะชื่ออะไร หรือใช้คำว่าซีคอนหรือไม่ วางเป้าหมายจับกลุ่มบีบวกขึ้นไป คาดว่าจะเริ่มปิดปรับปรุงทั้งหมดในเดือนสิงหาคมนี้ ปัจจุบันฟิวเจอร์พาร์คบางแคมีพื้นที่ 44 ไร่ หรือประมาณ 300,000 ตารางเมตร เป็นอาคารสูง 5 ชั้น มีร้านค้าประมาณ 200 ร้านค้า แม็กเน็ตใหญ่ เช่น คาร์ฟูร์ โรบินสัน โรงหนังอีจีวี สวนสนุก เป็นต้น จอดรถได้ 4,000 คัน ปัจจุบันศูนย์ฯมีรายได้ประมาณ 10 ล้านบาทต่อเดือน
ส่วนโครงการซีคอนสแควร์ ถนนศรีนครินทร์นั้น นายตะติยะกล่าวว่า ที่ผ่านมาใช้งบรวมกว่า 300 ล้านบาทในการปรับปรุงครั้งใหญ่สุดรอบ 15 ปีไปแล้ว เหลือเพียงงานภายนอก โดยปีนี้จะใช้งบอีก 180 ล้านบาท ตกแต่งภายนอกอาคารให้ทันสมัยมีระดับเพื่อรองรับกลุ่มบีบวกมากขึ้น หวังสัดส่วนกลุ่มนี้เป็น 50% จากเดิมมีเพียง 35% เช่นการเพิ่มร้านค้ากลุ่มบีบวกอีก 28 ร้านค้า เดิมมีร้านค้าทั้งหมด 400 กว่าร้าน อย่างไรก็ตาม พื้นที่เชิงพาณิชย์ไม่ได้เพิ่มขึ้นหลังปรับปรุง
นอกจากนี้ยังใช้งบอีก 86 ล้านบาท ในการปรับพื้นที่เช่น สวนสนุก งานระบบ ที่จอดรถ เป็นต้น ส่วนงบการตลาดปีนี้ใช้ 60 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้วใช้ 30 ล้านบาท
สำหรับผลประกอบการปี 2552 มีรายได้รวม 1,156 ล้านบาท เติบโต 0.5% กำไรเบื้องต้น 592 ล้านบาท ลดลง 2% จำนวนรถยนต์เข้าศูนย์ฯ 510,000 คันต่อเดือนเท่าเดิม ส่วนปี 2553 ตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 1,211 ล้านบาท เติบโต 5% กำไรเบื้องต้น 608 ล้านบาท เติบโต 3% ขณะที่ช่วงไตรมาสแรกปีนื้ ผ่านไปแล้วมีรายได้รวม 299.44 ล้านบาท มีกำไรเบื้องต้น 157.81 ล้านบาท เติบโต 4% มีจำนวนรถยนต์เข้าศูนย์ฯเพิ่ม 1.63% แต่ช่วงเม.ย.มีเพิ่มกว่า 6% หรือเพิ่มอีก 30,000 กว่าคัน โดยใช้งบลงทุนปีนี้รวม 2,900 ล้านบาท
ส่วนการลงทุนอื่นนั้น เมื่อเดือนมีนาคมได้เปิดบริการเป็นทางการแต่ยังไม่เต็มรูปแบบคือ โรงแรมเรอเนสซองส์ภูเก็ต จำนวนห้องพัก 54 ห้องจากทั้งหมด 180 ห้อง ห้องอาหาร 2 ห้องจากทั้งหมด 4 ห้อง พนักงาน 84 คน จาก 200 คน ที่มาทำงานในช่วงแรกนี้ ส่วนโครงการซีคอนซิตี้ ถนนศรีนครินทร์ยังชะลออยู่
|