ปตท.อะโรเมติกส์ฯ โอดน้ำมันร่วง ฉุดราคาและมาร์จินอะโรเมติกส์หดเหลือ300 เหรียญสหรัฐ/ตัน ส่วนแผนควบรวมกิจการกับไออาร์พีซียังต้องศึกษาเพิ่มเติมก่อนชงบอร์ดอีกครั้ง ด้านไออาร์พีซีห่วงโรงกลั่นขาดทุนสต็อกน้ำมัน ยันเริ่มมีสัญญาณราคาน้ำมันขยับดีขึ้น

นายชายน้อย เผื่อนโกสุม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน) (PTTAR) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ผันผวนในช่วงนี้ ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอะโรเมติกส์ทำให้ราคาผลิตภัณฑ์พาราไซลีนและเบนซีนอ่อนตัวลงตามทิศทางราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวเมื่อเทียบจากช่วงต้นปี

โดยปัจจุบันราคาพาราไซลีน (คอนแทรค) อยู่ที่ตันละ 1,020-1,040 เหรียญสหรัฐ และเบนซีน 980-1,000 เหรียญสหรัฐ หากเป็นราคาตลาดจร (สปอต) จะต่ำลงกว่านี้อีก ส่งผลให้ส่วนต่างราคาพาราไซลีนแคบลงมาอยู่ที่ระดับ 300 กว่าเหรียญสหรัฐ/ตัน จากไตรมาส1/2553 สเปรดพาราไซลีนอยู่ที่ 418 สหรัฐ/ตันและเบนซีน 338 เหรียญสหรัฐ/ตัน อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ดังกล่าวบริษัทคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลงสืบเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของกรีซที่อาจจะลุกลามไปยังสหภาพยุโรป จะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันในยุโรปที่หดตัวลง ส่งผลให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงต่ำสุดเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ราคาน้ำมันอ่อนตัวลงในช่วง 2สัปดาห์ที่ผ่านมาถึง 10 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล มีผลต่อต้นทุนวัตถุดิบและราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี อย่างไรก็ตาม เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ราคาน้ำมันดิบในตลาดเวสต์เท็กซัสในวันที่ 26 พ.ค.ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.76 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล มาอยู่ที่ 71.51 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี

ตามแผนการลงทุน 5ปีข้างหน้า (2553-2557) บริษัทจะใช้เงินลงทุนรวม 358 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในโครงการยูโร 4 โดยปีนี้ จะใช้เงินลงทุน 205 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยงบการลงทุนดังกล่าวจะมีการเปลี่ยนแปลงหากมีการลงทุนโครงการใหม่ๆ ซึ่งล่าสุดอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการต่อยอดโครงการปลายน้ำ (Down Stream) รวมทั้งรอความชัดเจนการควบรวมกิจการกับบมจ. ไออาร์พีซี ซึ่งบอร์ดได้มีการพิจารณาและได้มอบหมายให้คณะทำงานไปศึกษาเพิ่มเติมรายละเอียดอีกหลายด้านเพื่อประกอบการพิจารณา ซึ่งทีมงานอยู่ระหว่างการเร่งทำกันอยู่

นอกจากนี้ ยังไม่สามารถระบุได้ว่าผลการชี้มูลความผิดของคณะรรมการปองกันและปราบปรามารทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในคดีทีพีไอจะมีผลต่อการควบรวมกิจการของไออาร์พีซีกับปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่นหรือไม่ แต่เป็นประเด็นหนึ่งที่บอร์ดให้ความสนใจ นอกเหนือจากภาวะตลาดหุ้นในช่วงนี้ที่ยังผันผวนไม่เอื้อต่อการควบรวมกิจการมากนัก

นายอธิคม เติบศิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายแผนธุรกิจองค์กร บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่อ่อนตัวลงในช่วงนี้ จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจการกลั่นทำให้มีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันหากสถานการณ์ราคาน้ำมันยังเป็นเช่นนี้ต่อไปจนถึงเดือนมิ.ย. แม้ว่าราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลงแต่ค่าการกลั่นน้ำมันในช่วงนี้ไม่ลดลงมาก เนื่องจากส่วนต่างราคาน้ำมันดีเซลกับดูไบดีอยู่ที่ 10-12 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ขณะที่ส่วนต่างของน้ำมันเบนซินกับดูไบลดลงจากไตรมาส 1/2553 ที่ 13-14 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เหลือ 9 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

"คงต้องดูทิศทางราคาน้ำมันในอีก 1 เดือนข้างหน้าว่าจะเป็นอย่างไร คงไม่สามารถสรุปได้ว่าโรงกลั่นจะขาดทุนสต็อกน้ำมันหรือไม่ คงต้องดูมาร์จินของธุรกิจก่อน และช่วงเม.ย. แต่ละบริษัทก็มีกำไรจากการดำเนินธุรกิจอยู่แล้ว นอกจากนี้ ในช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้วราคาน้ำมันดิบได้รีบาวขึ้นมา3-4 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ก็ยังเป็นสัญญาณที่ดี"

ก่อนหน้านี้ บริษัทมองแนวโน้มความต้องการใช้ปิโตรเคมีในปีนี้ยังดีต่อเนื่อง จากการจัดงานเวิลด์เอ็กซ์โปเซี่ยงไฮ้ ที่จีน ซึ่งจะมีความต้องการใช้ปิโตรเคมีเพิ่มขึ้น แต่จากการจัดงานมาร่วม 1เดือนพบว่านักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมงานไม่ถึง 2แสนคน/วัน ต่ำกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลจีนคาดการณ์ว่ามีคนเข้าร่วมงานวันละ 3.5 แสนคน ทำให้ดีมานด์ในจีนก็ยังไม่เป็นไปตามคาดหมาย อย่างไรก็ตาม งานดังกล่าวยังมีต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 31 ต.ค.นี้ซึ่งช่วงเวลานับจากนี้จีนอาจมีมาตรการกระตุ้นเพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าร่วมงานได้