Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTVผู้จัดการรายวัน26 พฤษภาคม 2553
พิษการเมืองถล่มธุรกิจรายใหญ่ ธปท.คาด2.3หมื่นล.ไม่หวั่นNPL             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารแห่งประเทศไทย

   
search resources

ธนาคารแห่งประเทศไทย
Economics




ธปท.คาดเบื้องต้นลูกค้าแบงก์ในธุรกิจขนาดใหญ่ได้รับผลกระทบประมาณ 2.3 หมื่นล้าน คิดเป็น 0.3%ของสินเชื่อทั้งระบบ ชี้หากเป็นเอ็นพีแอลทั้งก้อนมีผลต่อให้เงินกองทุนแบงก์ทั้งระบบหดแค่ 0.1% ถือว่าไม่มาก นัดถกนายแบงก์หารือร่วมกัน เพื่อประเมินความเสียหายและหาข้อมูลเพิ่มเติม

นายสรสิทธิ์ สุนทรเกศ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า จากการสำรวจธนาคารพาณิชย์ที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในเบื้องต้น พบว่า ลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวประมาณ 23,000 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 0.3%ของสินเชื่อทั้งระบบ

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยอดสินเชื่อดังกล่าวยังไม่ถึงขั้นเป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) แต่หากสุดท้ายแล้วอยู่ในกรณีเลวร้าย คือ เป็นหนี้เสียทั้งก้อนก็คาดว่าจะกระทบฐานะเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง(บีไอเอส เรโช)แค่ 0.1% เท่านั้น ถือว่าไม่มากนัก

นอกจากนี้ ในวันนี้ ธปท.จะเชิญผู้บริหารระดับสูงของธนาคารพาณิชย์ทั้งไทยและต่างชาติเข้าหารือจากเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น เพื่อประเมินความเสียหายที่มีต่อธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบ พร้อมทั้งรับฟังข้อเสนอของผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ เพื่อนำข้อมูลเป็นแนวทางในการช่วยเหลือต่อไป

ประกอบกับเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม เนื่องจากในปัจจุบัน ธปท.ได้เก็บข้อมูลเฉพาะที่ธนาคารพาณิชย์ปล่อยกู้ให้แก่ลูกค้าในวงเงินมากกว่า 20 ล้านบาทขึ้นไป ทำให้ยังขาดข้อมูลสินเชื่อรายย่อยที่มีการปล่อยกู้ในวงเงินที่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท จึงเป็นการเก็บข้อมูลให้มีมากขึ้น เพื่อประเมินความเสียหายให้มีความชัดเจน

สำหรับกรณีที่มีลูกค้าธนาคารพาณิชย์บางแห่งร้องเรียนว่าในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองเกิดขึ้น ทำให้รัฐบาลต้องประกาศวันหยุดราชการในวันที่ 19-21 พ.ค.ที่ผ่านมา และมีผลให้ธปท.ได้ประกาศให้ธนาคารพาณิชย์หยุดทำการ ทำให้ลูกหนี้บางรายไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนดเวลานั้น ผู้ช่วยผู้ว่าการธปท.กล่าวว่า ธปท.ได้มีการหารือกับธนาคาพาณิชย์ถึงกรณีนี้แล้ว โดยธนาคารพาณิชย์จะไม่คิดค่าผิดนัดชำระหนี้ เพราะเข้าใจดีกว่าช่วงเวลาดังกล่าวเป็นวันหยุดในกรณีพิเศษ

ด้านนายเกริก วณิกกุล รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธปท.กล่าวว่า ธปท.ได้นัดเวลาหารือกับธนาคารพาณิชย์ในเวลาประมาณ 17.00-18.00 น.เพื่อประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ความไม่สงบ โดยในเบื้องต้นมองว่ากระทบไม่มากนัก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ธปท.ได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ธนาคาพาณิชย์อยู่เสมอ ประกอบกับขณะนี้ธนาคารพาณิชย์ในระบบมียอดเอ็นพีแอลไม่มากประมาณ 4.6% และหากมีการหักเงินสำรองออก(เอ็นพีแอลสุทธิ)อยู่ที่ 2.5% และมีบีไอเอส เรโชที่ระดับ 15.9% จึงมองว่าไม่กระทบต่อฐานะและความมั่นคงของธนาคารพาณิชย์โดยรวม   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us