"ทหารไทย"ยัน"ไอเอ็นจี" ยังสนซื้อหุ้นจากคลังเพิ่ม แต่ต้องรอความเห็นชอบจากรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ก่อน ส่วนผลประชุมบอร์ดอนุมัติลดพาร์หุ้นสามัญเหลือหุ้นละ 0.95 บาท ล้างขาดทุนสะสม เปิดทางจ่ายปันผล เสนอผู้ถือหุ้น 24 มิ.ย.คาดเสร็จภายในเดือนเดียวกัน ยันไม่มีผลต่อเงินกองทุนและมูลค่าตามบัญชี

นางเสาวนีย์ กมลบุตร ประธานกรรมการ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) (TMB) เปิดเผยว่า ในส่วนของแผนการขายหุ้นธนาคารทหารไทยในส่วนที่กระทรวงการคลังถืออยู่จำนวน 26.1% นั้น กระทรวงการคลังยังยืนยันเจตนาเดิมที่จะขายหุ้นดังกล่าวออกไป แม้ในการประชุมคณะกรรมการธนาคารเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาจะไม่มีการหารือถึงเรื่องการขายหุ้นก็ตาม และย้ำว่าตอนนี้ธนาคารแข็งแกร่งเพียงพอที่จะไม่ต้องให้กระทรวงการคลังคอยดูแล

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาทางกลุ่มไอเอ็นจีซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของธนาคารในปัจจุบันได้แสดงเจตนาที่จะขอซื้อหุ้นในส่วนที่กระทรวงการคลังถืออยู่ โดยทางกลุ่มไอเอ็นจีต้องการที่จะบริหารธุรกิจของธนาคารอย่างจริงจัง แต่ขณะนี้ทางไอเอ็นจีต้องนำแผนการซื้อหุ้นไปปรึกษากับทางรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ก่อน เพราะก่อนหน้านี้ทางรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ได้เข้ามาช่วยเหลือทางด้านการเงินแก่กลุ่มไอเอ็นจี

อย่างไรก็ตาม การขายหุ้นที่กระทรวงการคลังถืออยู่ในธนาคารนั้น กระทรวงการคลังจะขายออกไปทั้งหมดให้กับผู้ซื้อเพียงรายเดียว โดยจะไม่มีการแบ่งขายเด็ดขาด ซึ่งหากไอเอ็นจีต้องการซื้อหุ้นเพิ่มเติมก็จะต้องซื้อทั้งหมด แต่หากไอเอ็นจีจะเข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มเติมเพียง 5% ตามเงื่อนไขของการเข้ามาเพิ่มทุนเมื่อครั้งก่อน ก็คงต้องรอไปก่อน เพราะกระทรวงการคลังจะไม่มีการแบ่งขายหุ้นแต่อย่างใด

ด้านนายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าล่าสุดเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2553 ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคาร มีมติเห็นชอบแผนการลดราคาพาร์หุ้นสามัญ จำนวนทั้งหมด 43,529 ล้านหุ้น จากหุ้นละ 10 บาท เป็น 0.95 บาท ซึ่งแผนการลดราคาพาร์หุ้นสามัญนี้จะดำเนินการด้วยวิธีทางบัญชี และจะส่งผลให้งบดุลของธนาคารไม่มียอดขาดทุนสะสม โดยไม่มีผลกระทบต่อเงินกองทุนของธนาคาร

ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีความแข็งแกร่งด้วยระดับความเพียงพอของเงินกองทุน (CAR) ที่ 18.6% (เมื่อรวมหุ้นกู้ที่ออกในเดือนเมษายน 2553) เปิดโอกาสให้ธนาคารสามารถพิจารณาจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นได้ในเวลาที่เหมาะสม ซึ่งหากแผนการลดราคาพาร์หุ้นสามัญของธนาคารได้รับความเห็นชอบในหลักการจากทางการที่เกี่ยวข้องแล้ว และธนาคารจะนำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติ ในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นที่จะจัดขึ้นในวันที่ 24 มิถุนายน 2553 ที่จะถึงนี้

"การลดราคาพาร์หุ้นสามัญของ TMB จะไม่ส่งผลกระทบต่อจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมด และมูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น หรือ พื้นฐานการดำเนินงานของธนาคารแต่อย่างใด โดยส่วนต่ำมูลค่าหุ้น 303,088 ล้านบาท และ ยอดขาดทุนสะสม 101,048 ล้านบาท ในบัญชีส่วนของผู้ถือหุ้น จะถูกหักล้างในการดำเนินการทางบัญชี ธนาคารตั้งเป้าหมายว่าจะดำเนินการลดราคาพาร์หุ้นสามัญเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนมิถุนายน ศกนี้ และการดำเนินการดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบต่อเงินกองทุนของธนาคาร ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 67,912 ล้านบาท ระดับความเพียงพอของเงินกองทุนที่สูง 18.6% และมีส่วนของผู้ถือหุ้น 47,927 ล้านบาท"นายบุญทักษ์ กล่าว

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารยังได้เห็นชอบโครงการจ่ายโบนัสให้พนักงานในรูปแบบของหุ้น (TMB Performance Share Bonus Program หรือ TMB PSBP) ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติที่ดีในระดับสากล (International Best Practice) โดยขึ้นอยู่กับผลการปฏิบัติงานของพนักงาน ที่จะทำให้โครงสร้างผลตอบแทนรวมของพนักงานสามารถแข่งขันได้กับตลาดและเป็นเครื่องมือในการรักษาพนักงานที่มีความรู้ความสามารถให้ทำงานกับธนาคารต่อไป

อนึ่ง วานนี้ ราคาหุ้นของธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)เปิดตลาดที่ระดับ 1.31 บาท ปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 1.37 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.30 บาท และปิดตลาดที่ระดับ 1.36 บาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.04 บาท หรือคิดเป็น 3.03%