บางจากฯตั้งเป้าค่าการกลั่นเฉลี่ยปีนี้ใกล้เคียงปีก่อนที่ 7 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล หากส่วนต่างราคาน้ำมันเทียบดูไบสูงอยู่ 10เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เชื่อว่าปีนี้ความต้องการใช้น้ำมันเติบโตขึ้นหลังเศรษฐกิจในสหรัฐฯและเอเชียสดใส ตั้งเป้าหมายรับรู้กำไรฯจากธุรกิจพลังงานทางเลือก 5 ปีนี้แตะกว่า 3พันล้านบาท

นายพิเชษฐ์ เอมวัฒนา ผู้อำนวยการสายวางงานวางแผนและจัดหา บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน) หรือ BCP เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทฯคาดการณ์ว่าค่าการกลั่น(GRM)เฉลี่ยอยู่ที่ 7 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ใกล้เคียงปีที่แล้วที่มีค่าการกลั่นเฉลี่ย(ไม่รวมเฮดจิ้ง)อยู่ที่ 7.1 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากส่วนต่างราคาน้ำมันสำเร็จรูปเทียบดูไบประมาณบาร์เรลละ 10กว่าเหรียญสหรัฐเหมือนใน

ปัจจุบัน คาดช่วงครึ่งปีหลังคาดราคาน้ำมันยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลกยังดีอยู่ทั้งตลาดสหรัฐฯ และเอเชีย ส่วนตลาดยุโรปคงต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ตาม ทางไอเอ็มเอฟได้ปรับประมาณการณ์เศรษฐกิจโลกปีนี้เติบโตเพิ่มขึ้นจากเดิม 3.1% เป็น 4.2% ทำให้มั่นใจว่าความต้องการใช้น้ำมันในปีนี้จะเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล/วัน ขณะที่ปริมาณการกลั่นโลกในปีนี้เพิ่มขึ้นเพียง 8 แสนบาร์เรล/วัน ดีกว่าปี 52 ที่มีปริมาณการกลั่นเพิ่มขึ้นถึง 2.5 ล้านบาร์เรล/วัน

นายพิเชษฐ์ กล่าวต่อว่า แม้ว่าค่าการกลั่นปีนี้จะใกล้เคียงปีก่อน แต่เชื่อว่ากำไรจะต่ำลงกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากการรับรู้กำไรจากการป้องกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน (เฮดจิ้ง)ในปีนี้น้อยมากเมื่อเทียบจากปี 52 อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทฯรับรู้รายได้จากโครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำมัน (PQI) เต็มปี ทำให้ค่าการกลั่นดีกว่าปีก่อนที่เป็นโรงกลั่นธรรมดา โดยปีนี้บริษัทฯวางเป้าหมายกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็น 95,000-100,000 บาร์เรล/วัน ทำให้ยอดขายน้ำมันเพิ่มขึ้นด้วย

นอกจากนี้ บริษัทฯได้ตั้งเป้ากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและภาษี( EBITDA ) จากธุรกิจใหม่ใน 5 ปีข้างหน้า ( 53- 57) โดยปีนี้จะรับรู้ EBITDA จากธุรกิจใหม่ 150 ล้านบาทจากโรงงานผลิตบี 100 ที่บางจากฯถือหุ้นอยู่ 70% ปีถัดไปจะรับรู้ EBITDA เพิ่มขึ้นเป็น 670 ล้านบาทโดยมีรายได้จากโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์เข้ามาด้วย ปี 55 รับรู้ EBITDA ประมาณ 1,310 ล้านบาท ปีถัดไป 1,910 ล้านบาท และปี 57 รับรู้ EBITDA ประมาณ 3,670 ล้านบาท จากธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ เอทานอล โปรแตซ และโรงงานผลิตบี 100

" ปีนี้ยังมีงานเซี่ยงไฮ้ เอ็กซ์โป และเอเชี่ยนเกมส์ที่จีน รวมถึงฟุตบอลโลก ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันJet อยู่ในระดับสูง ประกอบกับราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยปีนี้สูงกว่าปีที่แล้วจากระดับ 62 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล โดยคาดว่าปีนี้ราคาน้ำมันดิบอยู่ที่ 70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล "

สำหรับผลกระทบในช่วงการชุมนุมของกลุ่มนปช. นั้น ปั๊มน้ำมันบางจากได้มีการปิดให้บริการ 10 ปั๊มในพื้นที่บริเวณ 13 เขตในกรุงเทพฯชั้นในเมื่อวันที่ 21 พ.ค.เพียงหนึ่งวัน ซึ่งความเสียหายด้านทรัพย์สินไม่มี เพียงแต่เสียโอกาสจากการขาย ทำให้ยอดขายลดลงไป 8%จากยอดขายรวมในพื้นที่กรุงเทพฯเดือนละ 50 ล้านลิตร ซึ่งส่งผลกระทบในช่วงระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น เชื่อว่าความต้องการใช้น้ำมันจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว