Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTVผู้จัดการรายวัน26 พฤษภาคม 2553
MPICคาดQ2กำไรขยายตัว10-20%             
 


   
search resources

Entertainment and Leisure
เผด็จ หงษ์ฟ้า
เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็น เตอร์เทนเม้นท์, บมจ.




นายเผด็จ หงษ์ฟ้า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็น เตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MPIC เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ากำไรสุทธิในไตรมาส2/53 เพิ่มขึ้น 10-20% จากไตรมาส1/53ที่มีกำไรสุทธิ 2 ล้านบาท เนื่องจาก รับรู้รายได้จากบริษัทย่อยคือบริษัทเอ็มวีดีซึ่งเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายวีซีดีและดีวีดี ที่จัดจำหน่ายสินค้าให้ร้านเช่าได้ครอบคลุมที่ดี ขณะที่หนังของเอ็ม พิคเจอร์ส ฯคาดว่าจะสร้างรายได้ที่ดี แม้บริษัทจะได้รับผลกระทบจากการชุมนุมของคนกลุ่มเสื้อแดง

ทั้งนี้ ทำให้ต้องหยุดทำงานจำนวน 10 วันจากที่เข้าไปสำนักงานของบริษัทไม่ได้จากที่อยู่ที่ชั้น5 ของบิ๊กซีราชดำริ ทำให้เข้าไปทำงานไม่ได้ แต่บริษัทไม่ได้ถูกไฟไหม้ ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการย้ายสำนักงานไปอยู่ที่เมเจอร์สรัชโยธิน และจากความไม่สงบที่เกิดขึ้นนั้น ถือว่าเป็นผลดีกับบริษัทเพราะ ประชาชนไม่ได้ออกนอกบ้านจึงทำให้มีการไปเช่าหนังแผ่นมาดูที่บ้าน

" กำไรสุทธิในไตรมาส2/53จะโตกว่าไตรมาส1/53ประมาณ 10-20% โดยส่วนใหญ่มาจากเอ็มวีดี และในไตรมาส3/53 บริษัทคาดว่าจะมีกำไรสุทธิที่ดีกว่าไตรมาส2/53 และในไตรมาส 4 เป็นช่วงที่บริษัทมียอดการขายดีที่สุด จากที่จะมีการออกวีซีดีและดีวีดีหลายเรื่องและเป็นเรื่องที่ทำรายได้ดี จากฮอลลีวูดส์จึงทำให้บริษัทมั่นใจว่ารายได้และกำไรปีนี้จะเติบโตที่ดี "นายเผเด็จ กล่าว

บริษัทได้มีการใช้เงินในการซื้อหนังเมืองคานส์ จำนวน 30 ล้านบาท จำนวน 19 เรื่อง เพื่อที่จะออกฉายและจำหน่ายในปีหน้า และบริษัทเตรียมที่จะไปซื้อหนังเพิ่มที่สหรัฐอเมริกาในเดือนพฤศจิกายนนี้ อีก โดยบริษัทตั้งงบในการซื้อหนังแต่ละปีจำนวน 150-200 ล้านบาท โดยบริษัทคาดว่ารายได้รวมปีนี้ของบริษัทจะมีจำนวน 1.2-1.3 พันล้านบาท แบ่งเป็นรับรู้จากบริษัทเอ็มวีดี จำนวน 800 ล้านบาท และอีก400 บาท เป็นรายได้ของบริษัท

สำหรับปัจจุบันมีผลขาดทุนสะสมอยู่จำนวน 100 ล้านบาท โดยบริษัทจะพยามที่จะล้างขาดทุนสะสมให้หมดในปีนี้ แต่อาจจะไม่หมดในปีนี้ ส่วนราคาหุ้นของบริษัทนั้นมีการปรับตัวลดลงมาจากภาวะตลาดโดยรวมที่ไม่ดี แต่ก็ยังถือว่ายังอยู่ในระดับที่ดีประมาณกว่า 1 บาท แต่หากผลประกอบการของบริษัทออกมาดีในไตรมาส2/53 เชื่อว่าราคาหุ้นก็จะมีการสะท้อนออกมาที่ดี 3บริษัทคาดว่าจะมีกำไรสุทธิที่ดีกว่าไตรมาส   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us