Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มิถุนายน 2536








 
นิตยสารผู้จัดการ มิถุนายน 2536
ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ในวัยที่ขึ้นต้นด้วยเลข 3             
 


   
search resources

ศรีไทยซุปเปอร์แวร์, บมจ.
สนั่น อังอุบลกุล
Commercial and business




ศรีไทยซุปเปอร์แวร์เพิ่งจะเฉลิมฉลองวาระการดำเนินงานครบรอบ 30 ปีเต็มเมื่อปลายเดือนที่แล้ว ภายใต้บรรยากาศที่แฝงด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรมประเพณีไทยอย่างเต็มเปี่ยม

"ปีนี้ครบรอบ 30 ปี ของการเกิดศรีไทยฯ จึงควรเป็นปีที่สร้างฐานให้แข็งแรงเพื่ออนาคตที่แข็งแกร่ง เราผ่านยุคของการเริ่มต้นบุกเบิก สู่ยุคของการเปลี่ยนแปลงพัฒนา เข้าสู่ยุคของความเป็นสากลแล้ว" สนั่น อังอุบลกุล กรรมการผู้จัดการบริษัทศรีไทย ซุปเปอร์แวร์กล่าวกับ "ผู้จัดการ"

ปัจจุบันศรีไทยฯ มีส่วนแบ่งตลาดในสินค้าสองประเภทหลักคือ เมลามีนและพลาสติกรวมกัน 65 % ปีที่แล้วมียอดขายรวม 1,800 กว่าล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2535 โดยเฉลี่ยถึง 2 % และวางเป้ายอดขายในปีนี้ว่าจะพุ่งขึ้นไปถึง 2,200 ล้านบาท

สนั่นมีเหตุผลต่อยอดขายที่จะเพิ่มขึ้นในปีนี้ เขาอธิบายว่า การเติบโตของศรีไทยฯ มีสาเหตุมาจากสภาวะแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกสภาวะแวดล้อม ภายในคือกำลังการผลิตของศรีไทยและสยามเมลามีนซึ่งเป็นบริษัทในเครือเวลานี้ขยายได้อย่างเต็มที่ปัจจุบันเมลามีนผลิตได้ 700 ตันต่อเดือน ส่วนพลาสติกผลิตได้ 1,400 ตันต่อเดือน

ในส่วนของเมลามีนหลักจากสร้างโรงงานผลิตเพิ่มขึ้นที่เขตอุตสาหกรรมสุรนารีที่จังหวัดนครราชสีมา และเริ่มเดินเครื่องผลิตสมบูรณ์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี้แล้ว ทำให้สามารถขยายกำลังการผลิตเพิ่มได้อีก 50 % สนองปริมาณความต้องการของตลาดได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ตลาดเมลามีนมีทีท่าที่จะขยายตัวสนองรับความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ การสร้างโรงงานผลิตเพื่อการส่งออกจึงเป็นเป้าหมายสำคัญ พื้นที่ 64 ไร่ ในเขตอุตสาหกรรมสุรนารีซึ่งเวลานี้ใช้เนื้อที่ไปเพียง 32 ไร่นั้นจึงรอเวลาที่จะขยายให้เต็มพื้นที่ในอีก 2 ปีข้างหน้า

"เรามีโครงการย้ายโรงงานเมลามีนจากสุขสวัสดิ์ไปอยู่รวมที่เขตสุรนารี หนึ่งเพื่อความสะดวกในการรวมศูนย์การบริหารและการควบคุมไว้ที่แห่งเดียวกัน สองเพื่อสนองตอบนโยบายของรัฐที่ประกาศว่าใครก็ตามที่ไปตั้งโรงงานอยู่ในโซน 3 ของเขตอุตสาหกรรมจะได้รับการส่งเสริมจากบีโอไอไม่ว่าจะเป็นการผลิตเพื่อการส่งออกหรือผลิตเพื่อขายในประเทศก็ตาม" สนั่นกล่าว

ส่วนสภาวะแวดล้อมภายนอกก็คือ ความต้องการที่เพิ่มขึ้นของตลาดทั้งภายในและภายนอกประเทศ

การเพิ่มขึ้นของตลาดมีผลมาจากเมลามีนสามารถทดแทน จาน ชาม และภาชนะบนโต๊ะอาหารประเภทเครื่องแก้ว และกระเบื้องได้เป็นอย่างดียอด ขายของเมลามีนจึงได้มากกว่าพลาสติกถึง 55-60% ของยอดขายทั้งหมดของบริษัทซึ่งมาจากช่องทางจัดจำหน่ายที่ต่างกัน

เมลามีนใช้วิธีการขายตรงโดยผ่านพิธีกรที่มีจำนวน 30,000 คน สามารถทำยอดขายได้ 30 % ของยอดขายทั้งหมด ในขณะที่ขายผ่านร้านค้าปลีกและร้านขายส่งได้ทำยอดขายได้ 30 % มียอดขายมาจากการส่งออกไปขายยังต่างประเทศ 30 ประเทศอีก 35 % ส่วนที่เหลือ 5 % มาจากการขายผ่านอุตสาหกรรม ร้านอาหารต่าง ๆ ซึ่งสั่งทำพิเศษ

ส่วนพลาสติกนั้น สนั่นเล่าว่า มียอดขายประมาณ 40-45% ของยอดขายทั้งหมดความต้องการสินค้าที่ทำด้วยพลาสติกยังมีน้อยกว่าความต้องการของเมลามีน ด้วยสาเหตุนี้จึงทำให้ศรีไทยฯ ใช้ความพยายามในการค้นหาการผลิตสินค้าพลาสติกเพื่อทดแทนวัตถุอื่น ๆ เช่น เก้าอี้ ลัง แพเล็ทหรือกะบะรองยกของ และแบตเตอรี่พลาสติก สินค้าพวกนี้ผลิตและออกสู่ตลาดไปเมื่อ 2 ปีที่แล้วตลาดสนองรับอย่างดีจนต้องผลิตเพิ่ม

โดยเฉพาะแบตเตอรี่พลาสติก สนั่นคาดว่าภายใน 3 ปี ตลาดจะหันมาใช้พลาสติกแทนยางกันหมด

ส่วนสินค้าใหม่ที่ศรีไทยฯ ใช้เวลาคิดค้นและดีไซน์ถึง 3 ปีเต็มคือถังใส่สีทาบ้าน ซึ่งจะเริ่มออกสู่ตลาดภายในปีนี้นอกจากนี้ก็ยังมีถังขยะสีเขียวที่กทม. นำมาวางตามท้องถนนเวลานี้ สนั่นกำลังใช้ความพยายามในการเจรจากับกทม. และบริษัทในเยอรมันที่นำเข้ามาว่า ทางเมืองไทยสามารถผลิตได้มาตรฐานเท่าเทียมกับในเยอรมันจึงขอเป็นผู้ผลิตเอง คาดว่าคงมีการเซ็นสัญญาเป็นผู้ผลิตในไม่ช้านี้

นอกจากนี้ตลาดหมวกกันน็อค ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของตลาด และมีความจำเป็นมากขึ้น ๆ จากเฉพาะกทม. เป็นทั่วประเทศ ทำให้ศรีไทยฯ ไม่คิดที่จะอยู่นิ่ง เริ่มทำการศึกษาแล้ว ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนคัดเลือกใช้เทคโนโลยีที่ไหนดีที่สุด คาดว่าขึ้นปีที่ 31 สินค้าใหม่ ๆ ในไลน์พลาสติกจะออกสู่ตลาดอีกมากมาย

จากเหตุดังกล่าวทำให้คาดการณ์ว่าในส่วนศรีไทยฯ สินค้าพลาสติกจะทำให้ยอดขายเพิ่มสูงกว่า 20 % ของยอดในปีที่ผ่านมาเลยทีเดียว

และอัตราการเติบโตปีละ 20 % นี้เป็นหนึ่งในสี่เป้าหมายของแผน 5 ปีที่ศรีไทยฯ วางไว้สำหรับอนาคตของตัวเองในวัยที่อายุกิจการขึ้นต้นด้วยเลข 3 แล้ว อีก 4 ข้อที่เหลือคือขยายกำลังการผลิตและการกระจายการลงทุนไปสู่ภูมิภาค เพิ่มการลงทุนในต่างประเทศให้มากขึ้น โดยปัจจุบันมีการลงทุนในเวียตนามอย่างแน่นอนเพราะได้มีการศึกษาโครงการแล้ว และเป้าหมายข้อสุดท้ายคือจะมีการร่วมทุนกับต่างชาติมากยิ่งขึ้น

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us