|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
นายแบงก์เชื่อเหตุรุนแรงกระทบจีดีพีไตรมาส2และสินเชื่อของแบงก์แน่ โดยเฉพาะสินเชื่อเอสเอ็มอี-ผู้ประกอบการท่องเที่ยว แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุเป็นตัวเลขที่ชัดเจนได้ เล็งทบทวนเป้าสินเชื่อเร็วๆนี้
นายสยาม ประสิทธิศิริกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) (TMB) เปิดเผยว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของไทยในไตรมาส 2 ปี 2553นี้จะมีทิศทางแบบใดนั้น ยังไม่สามารถระบุออกมาเป็นตัวเลขการเติบโตที่ชัดเจนได้ ถึงแม้ว่าการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จะมีการยุติไปแล้วก็ตาม แต่เชื่อว่าเศรษฐกิจของไทยในไตรมาส 2 นี้ จะมีการเติบโตที่ชะลอลงอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ความรุนแรงต่างๆแล้ว ถือว่าแย่มาก ทำให้ยอดการใช้จ่ายภายในประเทศลดลงพอสมควร รวมไปถึงธุรกิจการท่องเที่ยวที่จะต้องเจอกับวิกฤติอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าภาคการส่งออกและอัตราการขยายตัวสินเชื่อไตรมาส 1 ของปีนี้จะกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นก็ตามโดยเฉพาะสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาด ย่อม (เอสเอ็มอี) ทั้งระบบที่จะมีการเติบโตได้น้อยกว่าไตรมาส 1 อย่างแน่นอน
เพราะฉะนั้นเมื่ออัตราการขยายตัวของจีดีพีประเทศไทยไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ไว้ ตัวสินเชื่อก็คาดว่าจะลำบากด้วยเช่นกัน ซึ่งเป้าหมายการเติบโตสินเชื่อเอสเอ็มอีของธนาคารทั้งปีนี้ที่ตั้งไว้ที่ 20-30% จะได้ตามเป้าหมายหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะต้องรอดูสถานการณ์ทางการเมืองอย่างต่อเนื่องแล้วจึงค่อยมีการทบทวนเป้า หมายและปรับเปลี่ยนแผนงานใหม่อีกครั้งหนึ่ง
"ต้องยอมรับว่าการชุมนุมมีผลกระทบต่อยอดการปล่อนสินเชื่อไตรมาส 2 นี้ อย่างแน่นอน เพราะไตรมาส 1 ธนาคารมียอดเติบโตสินเชื่อเอสเอ็มอีใหม่ 8,000-10,000 ล้านบาท ซึ่งไตรมาส 2 นี้คงได้ไม่ถึงระดับดังกล่าว ส่วนสินเชื่อเอสเอ็มอีทั้งปีนี้จะได้ตามแผนหรือไม่นั้น ต้องรอทบทวนก่อน เพราะไม่มั่นใจกับสภาพเศรษฐกิจมากนัก" นายสยามกล่าว
ส่วนลูกค้าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของธนาคารที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการ ชุมนุมนั้น ขณะนี้ยังไม่พบว่าเข้าติดต่อขอความช่วยเหลือจากธนาคารแต่อย่างใด ซึ่งทางธนาคารและสมาคมธนาคารไทยเองก็มีนโยบายและเปิดโอกาสในการหาช่องทางให้ ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบเข้ามาปรับโครสร้างการผ่อนชำระหนี้อยู่ตลอดเวลา ดังนั้น จึงคาดว่าหลังจากจบเหตุการณ์แล้วจะมีลูกค้าที่ได้รับผลกระทบเข้ามาติดต่อขอ ความช่วยเหลือกับธนาคารประมาณ 10-20 ราย
ด้านนายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) กล่าวว่า อัตราการขยายตัวของจีดีพีในไตรมาส 2 นี้ มองว่าจะน้อยกว่าไตรมาส 1 ที่โต 7-8% คือน่าจะเติบโตได้เพียง 3-4% เท่านั้น เนื่องจากปัญหาการชุมนุมทางการเมืองที่เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมจนกระทั่ง เดือนเมษายนที่มีเหตุการณ์รุนแรงและในปัจจุบันก็มีเหตุการณ์เผาสถานที่ต่างๆ ถึงแม้จะมีการยุติการชุมนุมแล้วก็ตาม ซึ่งจะส่งผลให้อัตราการขยายตัวจีดีพีทั้งปีนี้ของไทยอยู่ที่ 3.5-5.8%
สำหรับยอดสินเชื่อของธนาคารโดยรวมก็คงจะเติบโตได้ลดลงเช่นกัน โดยเฉพาะสินเชื่อเอสเอ็มอีที่เกี่ยวกับภาคการท่องเที่ยว เพราะขณะนี้เริ่มมีลูกค้าเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบเข้ามาขอความช่วยเหลือ กับธนาคารบ้างแล้วประมาณ 10 รายจากลูกค้าเอสเอ็มอีที่มีอยู่กว่า 1 แสนราย ซึ่งธนาคารก็มีการเสนอแนวทางช่วยลูกค้าในเรื่องของการปรับระยะเวลาชำระหนี้ ออกไป และคาดว่าเมื่อสถานการณ์ทุกอย่างกลับเข้าสู่ภาวะปกติจะมีลูกค้าติดต่อขอความ ช่วยเหลือกับธนาคารไม่ต่ำกว่า 100-200 ราย ซึ่งจะเป็นในส่วนลูกค้าสินเชื่อที่อยู่อาศัยและลูกค้าเอสอเอ็มอี
|
|
|
|
|