Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายวัน24 พฤษภาคม 2553
ปรับเครดิตองค์กรSPALIเป็น "A-"พร้อมเพิ่มระดับให้หุ้นกู้มีประกัน             
 


   
www resources

โฮมเพจ ศุภาลัย
โฮมเพจ ไทยเรทติ้งแอนด์อินฟอร์เมชั่นเซอร์วิส (ทริส)

   
search resources

ไทยเรทติ้งแอนด์อินฟอร์เมชั่นเซอร์วิส, บจก. - TRIS
ศุภาลัย, บมจ.
Real Estate




ทริสฯปรับอันดับเครดิตองค์กร "ศุภาลัย " เป็น "A-" พร้อมแนวโน้ม "Stable" หรือ "คงที่" จากเดิมที่ระดับ " BBB+ / Stable " และเพิ่มอันดับเครดิตหุ้นกู้มีประกันของบริษัทเป็น "A"จากเดิมที่ระดับ "A-" สะท้อนถึงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ความสามารถในการดำเนินธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีแนวโน้มในการสร้างรายได้และกำไรของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เป็น "A-" จากเดิมที่ระดับ "BBB+" พร้อมทั้งเพิ่มอันดับเครดิตหุ้นกู้มีประกันของบริษัทเป็น "A"จากเดิมที่ระดับ "A-" ด้วยแนวโน้ม "Stable" หรือ "คงที่" โดยอันดับเครดิตที่เพิ่มขึ้นสะท้อนถึงผลการดำเนินงานและฐานะทางการเงินของ บริษัทที่ปรับตัวดีขึ้น ในการพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงผลงานที่ยาวนานในตลาดพัฒนาที่อยู่อาศัย แบรนด์สินค้าที่ได้รับการยอมรับในตลาดผู้มีรายได้ระดับปานกลาง และความสามารถในการควบคุมต้นทุนการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ แต่จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศที่ ไม่มีเสถียรภาพ ตลอดจนลักษณะของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นวงจรขึ้นลง และการแข่งขันในการซื้อที่ดินของผู้ประกอบการรุนแรงยิ่งขึ้น ขณะอันดับเครดิตของหุ้นกู้นั้นได้รับแรงหนุนจากมูลค่าของอาคารสำนักงานให้ เช่า "ศุภาลัย แกรนด์ ทาวเวอร์" ซึ่งใช้เป็นหลักประกันที่ระดับ 1.7 เท่าของมูลค่าหุ้นกู้คงค้างตลอดอายุของหุ้นกู้ด้วย

แนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าบริษัทจะสามารถรักษาผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งเอา ไว้ได้ในระยะปานกลาง โดยคาดว่าบริษัทจะสามารถรักษาอัตรากำไรให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจแม้ว่า มาตรการด้านภาษีของรัฐบาลจะสิ้นสุดลงและการแข่งขันจะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ก็ตาม แม้บริษัทมีแผนการขยายธุรกิจเชิงรุกมากขึ้นและมีโครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่ ระหว่างการก่อสร้างจำนวนมากช่วง 2-3 ปีข้างหน้า แต่ก็ควรจะรักษากระแสเงินสดและอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนให้ อยู่ในระดับที่ยอมรับได้

บริษัทมีโครงการที่อยู่อาศัยระหว่างการพัฒนาประมาณ 40 โครงการ ด้วยมูลค่ายอดขายคงเหลือ ณ สิ้นเดือนมี.ค. 53 ประมาณ 14,000 ล้านบาท และยังมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ถึง 18,300 ล้านบาท โครงการที่อยู่อาศัยของบริษัทมีทั้งโครงการคอนโดมิเนียม64% ของมูลค่าโครงการทั้งหมดและโครงการบ้านจัดสรร 36% ความได้เปรียบในการแข่งขันของบริษัทมาจากความสามารถในการควบคุมต้นทุนการ ดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้บริษัทสามารถเสนอขายที่อยู่อาศัยในราคาที่แข่งขันได้

ยอดขายของบริษัทในปี 52 คิดเป็นมูลค่า 13,237 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46% จาก 9,091 ล้านบาทในปี 51 ยอดขายช่วงไตรมาสแรกของปี 53 เพิ่มขึ้นอย่างมากเป็น 5,490 ล้านบาท จาก 1,979 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปี 52 อันเป็นผลมาจากความสำเร็จในการเปิดขายโครงการใหม่ช่วงปี 52 ถึง 3 เดือนแรกของปี 53 ส่วนรายได้ของบริษัทนั้นเป็นไปในทิศทางเดียวกับยอดขาย โดยปี 52 มีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 56% เป็น 9,618 ล้านบาท จาก 6,170 ล้านบาทในปี 51

โดยไตรมาสแรกปี 53 บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเพิ่มถึง 52% เป็น 3,162 ล้านบาท ผลมาจากการโอนคอนโดมิเนียมในโครงการศุภาลัย ริเวอร์ เพลส และศุภาลัย ปาร์ค ศรีนครินทร์ มูลค่ารวม4,600 ล้านบาทในปี 52 และการโอนคอนโดมิเนียมโครงการซิตี้โฮม รัชดา-ปิ่นเกล้ามูลค่า 969 ล้านบาท รวมทั้งการโอนบ้านจัดสรรที่เพิ่มมากขึ้นในช่วง 3 เดือนแรกปี 53 ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทยังคงแข็งแกร่งกว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ที่ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยบริษัทมีอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานที่ระดับ38.33% ในปี 52 และ 39.69% ในไตรมาสแรกปี 53 ความสามารถในการทำกำไรที่สูงของบริษัทเป็นผลมาจากการบริหารต้นทุนการดำเนิน งานที่ดี

ขณะผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นก็ทำให้บริษัทมีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมที่ระดับ 77.06% ในปี 52 และ 39.21% (ยังไม่ได้ปรับอัตราส่วนให้เป็นตัวเลขเต็มปี) ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 53 ขณะอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนลดลงอย่างต่อเนื่องเป็น 30.10% ณ สิ้น ธ.ค. 52 และ 21.59% ณ สิ้น มี.ค. 53 โดยลดลงจาก 48.50% ณ สิ้นปี 51

ทริสเรทติ้งกล่าวว่า หลังจากมีผลการดำเนินงานที่น่าพอใจในปี 52 ผู้ประกอบการรายใหญ่ส่วนใหญ่จึงวางแผนขยายธุรกิจเชิงรุกในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า การซื้อที่ดินในทำเลดีจึงมีแนวโน้มที่จะมีต้นทุนสูงขึ้น ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านภาษีของรัฐบาลซึ่งส่วนใหญ่ได้สิ้นสุดลงใน ปี 52 และมาตรการบางส่วนซึ่งกำลังจะสิ้นสุดในปี 53 ทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยในปี 53 ขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก โดยทริสเรทติ้งคาดว่าความต้องการที่อยู่อาศัยในปี 53 จะค่อยๆ ฟื้นตัวตามการเติบโตของเศรษฐกิจ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us