|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
รถไฟฟ้า MRT-BTS และเรือแสนแสบ ปิดบริการต่ออีก 1 วัน รอประเมินสถานการณ์ ปั๊มน้ำมันในพื้นที่เสี่ยงยังไม่เปิด แนะประชาชนเติมปั๊มรอบนอก บขส.หยุดวิ่งช่วงเวลาเคอร์ฟิวส์ สุวรรณภูมิเตรียมพื้นที่ และรถบริการให้ผู้โดยสาร "พาณิชย์" ส่งเจ้าหน้าที่คุมเข้มสินค้าป้องกันฉวยโอกาส พร้อมงัดธงฟ้าช่วยลดค่าครองชีพ
นายชูเกียรติ โพธยานุวัตร ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ภายหลังจากมีการจับกุมแกนนำนปช.และมีการก่อจลาจลในพื้นที่หลายแห่งของ กทม.นั้น จากการสำรวจสถานีรถไฟฟ้า MRT ที่อยู่ในพื้นที่ของการชุมนุมและจุดที่การปะทะระหว่างทหารและผู้ชุมนุม ตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2553 ที่ผ่านมา พบว่า มี 2 สถานีที่ได้รับความเสียหายไม่มาก คือ สถานีศูนย์สิริกิติ์ และสถานีคลองเตย โดยกระจกด้านหน้าสถานีถูกทุบแตก และนำยางรถยนต์เข้าไปเผาด้านในบริเวณเชิงบันไดเลื่อนขึ้นลงสถานี แต่เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยของรฟม.สามารถเข้าไปดับได้ทัน
“ความเสียหายของทั้ง 2 สถานีไม่มากนัก มีเพียงกระจกบริเวณทางเข้าหน้าสถานีแตกเท่านั้น ส่วนความพร้อมในการเปิดให้บริการเดินรถนั้น เบื้องต้นคาดว่า ในวันศุกร์ที่ 21 พ.ค.นี้ รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT จะยังคงต้องปิดให้บริการเดินรถต่อไป จนกว่าการประเมินสถานการณ์จะชัดเจนว่า มีความปลอดภัยแล้ว”
นอกจากนี้ รฟม.และผู้ที่เกี่ยวข้องจะมีการทบทวนแผนการรักษาความปลอดภัยของระบบรถไฟฟ้า อีกครั้ง ว่ายังมีจุดไหนที่ยังเป็นช่องโหว่อีกบ้าง แม้ว่าการออกแบบระบบรถไฟฟ้าใต้ดินทั้งหมดจะมีมาตรฐานด้านความปลอดภัยอย่าง มากแล้วก็ตาม
ส่วนรถไฟฟ้า BTS ยังคงงดให้บริการทั้งสายสุขุมวิทและสายสีลม อีก 1 วัน เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยของระบบทั้งหมดก่อน
นายเชาวลิต เมธยะประภาส ผู้จัดการ บริษัทครอบครัวขนส่ง ผู้ให้บริการเดินเรือในคลองแสนแสบ กล่าวว่า จะปิดการให้บริการเดินเรือในคลองแสนแสบต่ออีก 1 วันในวันนี้ โดยจะมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้งว่าจะเปิดให้บริการได้ในวันถัดไปหรือไม่ เนื่องจากเส้นทางเดินเรือในคลองแสนแสบนั้น เป็นการรับส่งคนจากนอกเมืองเข้าสู่ใจกลางเมือง ซึ่งเป็นพื้นที่ชั้นในที่มีปัญหา ทำให้ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยอย่างมาก โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมินรายได้ที่สูญเสียไปจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ที่เกิดขึ้นและทำให้ต้องหยุดให้บริการ
***แนะผู้ใช้รถเติมน้ำมันกทม.รอบนอก
นายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า วอร์รูมกระทรวงพลังงานได้ติดตามสถานการณ์บ้านเมืองและประชุมร่วมกันในเช้า วานนี้ (20 พ.ค.) มีความเห็นร่วมกันว่ายังไม่เสนอศอฉ. เพื่อขอให้ยกเลิกประกาศห้ามขนส่งเชื้อเพลิงในพื้นที่ 13 เขต ด้านในกทม. แม้ว่าในขณะนี้ 90 ปั๊ม จากทั้งหมด 107 ปั๊ม ต้องปิดขายน้ำมัน เนื่องจากไม่สามารถขนส่งน้ำมันเข้ามาในพื้นที่ได้ก็ตาม ซึ่งอาจจะต้องทำให้ประชาชนเดือดร้อนบ้าง แต่หากพิจารณาภาพรวม สถานการณ์ยังไม่สงบ จึงขอให้ประชาชน รถสาธารณะต่างๆ รวมทั้งแท็กซี่ไปเติมน้ำมันในพื้นที่รอบนอก โดยในรัศมี 10 กิโลเมตร ยังมีปั๊มน้ำมันเติมได้อีก 288 แห่ง
อย่างไรก็ตาม จากที่ ศอฉ.ขยายประกาศใช้เคอร์ฟิวต่อในวันที่ 20-22 พ.ค. โดยห้ามประชาชนออกจากบ้าน 21.00-05.00น. จึงได้กำชับไปยังบริษัทค้าน้ำมัน ที่อยู่ในพื้นที่รอบนอก ขนส่งน้ำมันในช่วงกลางวันเท่านั้น และได้เข้มงวดขึ้น โดยประสานกันเจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหาร เพื่อความปลอดภัยและมีการติดตามรถขนส่งโดยตลอด
**** ปตท.เปิดคลังจ่ายน้ำมันตามปกติ
นายปรัชญา ภิญญาวัธน์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า วานนี้ (20 พ.ค.) คลังน้ำมัน ปตท. ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคเปิดให้บริการจ่ายน้ำมันตามปกติ และจะมีการขนส่งน้ำมันน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับทุกสถานีบริการในพื้นที่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยควบคุมการขนส่งอย่างใกล้ชิดและมีการรายงานการขนส่งตลอดเส้นทาง ยกเว้นสถานีบริการ 28 แห่ง ใน 13 เขตพื้นที่ ซึ่งต้องขออนุญาตจาก ศอฉ. และกรมธุรกิจพลังงานตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
ทั้งนี้ คาดว่าสถานีบริการน้ำมันจะทยอยเปิดให้บริการจนครบทุกสถานีในช่วงบ่ายวันที่ 20 พ.ค.นี้ ซึ่งประชาชนทั่วไปยังสามารถไปเติมน้ำมันได้ตามปกติ ส่วนสถานีบริการเอ็นจีวีขณะนี้ได้เปิดให้บริการตามปกติทุกสถานี ยกเว้น 7 แห่ง ใน 13 เขตพื้นที่ดังกล่าว
***บขส.หยุดวิ่งช่วงเวลาเคอร์ฟิว
บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) แจ้งว่า บขส.หยุดบริการเดินรถขาออกจากกรุงเทพฯ และจังหวัดที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ประกาศเคอร์ฟิวส์ วันที่ 20-22 พ.ค. ระหว่างเวลา 21.00 น -05.00 น (ของวันถัดไป) ผู้ใช้บริการที่ซื้อตั๋วหรือสำรองที่นั่งไว้แล้ว ไม่ประสงค์จะเดินทางหรือเลื่อนการเดินทาง ติดต่อสถานีเดินรถของบขส.ได้ทั่วประเทศ โดยผู้โดยสารที่ตกค้างเมื่อวันที่ 19 พ.ค.2553 ให้ติดต่อขอใช้บริการได้ที่สถานีเดินรถโดยไม่เสียสิทธิ์ใดๆ นอกจากนี้ บขส.จัดรถ 50 คัน รับ นปช.กลับบ้านที่สนามศุลภชลาศัย
***สุวรรณภูมิจัดรถบริการผู้โดยสาร
นายนิรันดร์ ธีรนาทสิน ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้ประกาศห้ามประชาชาชนออกนอกเคหสถานตั้งแต่เวลา 21.00 น.ถึง 05.00น. ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค.-22 พ.ค. 2553 สนามบินสุวรรณภูมิได้เตรียมมาตรการรองรับผู้โดยสารเพื่ออำนวยความสะดวก 4 แนวทาง คือ 1.กรณีที่ผู้โดยสารขาเข้ามาถึงในช่วงประกาศเคอร์ฟิวแล้วต้องการพักรอ ภายในสนามบินได้จัดพื้นที่บริเวณชั้น 1 และ 4 ของอาคารผู้โดยสารฝั่งตะวันออกไว้ให้พร้อมเครื่องดื่ม 2.กรณีต้องการออกจากสนามบิน สามารถเดินทางโดยรถแท็กซี่ 3.เดินทางด้วยรถลีมูซีนของสนามบิน โดยทั้ง 2 วิธีผู้โดยสารจะต้องเตรียมหนังสือเดินทางและตั๋วโดยสารไว้เพื่อยืนยันกับ เจ้าหน้าที่ และ 4.ทอท.ได้จัดรถ Airport Express ไว้บริการฟรี 3 รอบ คือ 22.00น.,24.00น.และ 02.00น. ใน 3 เส้นทาง คือ สุขุมวิท,รัชดาและสีลม
ด้านบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส แจ้งว่า ยังคงทำการบินตามปกติ และขอให้ผู้โดยสารเดินทางถึงสนามบินก่อนเวลาตามประกาศเคอร์ฟิวส์ และขอให้เตรียมเอกสารการเดินทางให้พร้อม เพื่อแสดงหลักฐานต่อเจ้าหน้าที่หากมีการขอตรวจสอบเอกสารการเดินทางจากท่าน
***"พาณิชย์"คุมเข้มสินค้ากันป่วน
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้เรียกประชุมหน่วยงานทั้งหมดของกระทรวงพาณิชย์ รวมทั้งส่วนภูมิภาค เพื่อประเมินผลกระทบหลังการชุมนุมทางการเมือง และเยียวยาผู้ได้รับความเสียหาย โดยข้อสรุปที่ได้จะเสนอให้นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ รับทราบ เบื้องต้นจะต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นกลับคืนมา ดังนั้นในส่วนของกระทรวงพาณิชย์จะเดินหน้าแผนงานที่ได้วางไว้ โดยเฉพาะการจัดงานแสดงสินค้า โดยจะเพิ่มกิจกรรมลงไปในจังหวัดต่างๆ เช่น งานมุกดาหาร แฟร์ ที่จะมีการจัดงานระหว่างวันที่ 1-7 มิ.ย.นี้ จะมีการเพิ่มขนาดงานให้ใหญ่ขึ้น เพื่อให้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบเข้าร่วมงาน รวมทั้งเป็นช่องการระบายสินค้า
ในส่วนของงานธงฟ้า จะมีการเพิ่มการจัดงานมากขึ้น โดยจะขอให้รัฐบาลสนับสนุนงบให้กับกระทรวงพาณิชย์เพิ่มเติม ในการให้ผู้ประกอบการนำสินค้ามาจำหน่ายให้กับประชาชน ซึ่งจะได้ประโยชน์ทั้งผู้ประกอบการที่มีช่องทางการจำหน่ายสินค้ามากขึ้น และประชาชนจะได้ซื้อสินค้าในราคาที่ถูกลง ส่วนเรื่องการกักตุนสินค้า ยังไม่พบ เพราะระบบการจำหน่ายสินค้ายังเป็นปกติดีทุกอย่าง หากประชาชนบริโภคสินค้าในระดับปกติ ก็จะไม่เกิดปัญหาการขาดแคลนสินค้าแน่นอน ดังนั้น ประชาชนไม่ควรตื่นตระหนกซื้อกักตุนในจำนวนมาก
นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมฯ ได้จัดเจ้าหน้าที่สายตรวจพิเศษออกตรวจราคาสินค้าไม่ให้เกิดการฉวยโอกาสกว่า 13 สาย และหากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดดังกล่าว สามารถร้องเรียนไปที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 ซึ่งกรมฯ จะจัดส่งเจ้าหน้าที่หน่วยเคลื่อนที่เร็วออกไปตรวจสอบแก้ไขปัญหาให้ในทันที อย่างไรก็ตาม หากมีเหตุการณ์กักตุนสินค้าเกิดขึ้นจริง กรมฯ จะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดในการจัดการกับผู้ที่ฉวยโอกาส มีโทษจำคุกสูงสุด 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท
|
|
|
|
|