ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น ไตรมาสแรกปีนี้ยังขาดทุน 1,026 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่ขาดทุนอยู่ 2,375 ล้านบาท ขณะผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงิน เพราะบริษัทแห่งหนึ่งมีหนีสินรวมสูงกว่าทรัพย์สินหมุนเวียน แจงอยู่ระหว่างฟื้นฟูกิจการ ด้าน " สแกนดิเนเวียน ลิสซิ่ง " งวดนี้ขาดทุนเพิ่ม เหตุลดธุรกิจสินเชื่อ
นายชยุต ฐิติทรงภพ กรรมการ บริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PICNI แจ้งว่าผลการดำเนินงานของบริษัท สำหรับปีสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 51 ของบริษัทและบริษัทย่อยมีผลขาดทุนสุทธิ 1,026 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 2,375 ล้านบาท คิดเป็นขาดทุนลดลง 1,349 ล้านบาท คิดเป็นลดลงประมาณ 56%
โดยขาดทุนสุทธิลดลงเนื่องจากขาดทุนจากการถูกบังคับโอนเงินลงทุนในปี 50 บริษัทได้บันทึกขาดทุนจากการถูกบังคับโอนเงินลงทุนประมาณ 1,344 ล้านบาท เพราะบริษัทได้ถูกบังคับโอนหุ้นของบริษัทย่อยแห่งหนึ่งที่ใช้เป็นหลักทรัพย์ ค้ำประกันทั้งจำนวน เพื่อเป็นการชำระหนี้สินจากการโอนสิทธิเรียกร้อง
พร้อมกันนี้ บอร์ดยังชี้แจงกรณีผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงิน สำหรับปีสิ้นสุด ณ วันที่31 ธันวาคม 51 โดยผู้สอบบัญชีไม่อาจแสดงความเห็นต่องบการเงิน (Unable to reach any conclusion) เนื่องมาจากบริษัทและบริษัทย่อยมีหนี้สินหมุนเวียนรวมสูงกว่าสินทรัพย์หมุน เวียนรวมเงิน 6,057 ล้านบาท และมีหนี้สินรวม สูงกว่าสินทรัพย์รวมเงิน 3,428 ล้านบาท ซึ่งอาจเป็นเหตุให้เกิดข้อสงสัยอย่างมากเกี่ยวกับความสามารถในการดำเนินงาน ต่อเนื่องของบริษัทฯ นั้น
บริษัทฯ ชี้แจงว่าผลปรากฎตามงบการเงินดังกล่าวเนื่องมาจาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 51 บริษัทและบริษัทย่อยมีผลขาดทุนสะสม 9,373 ล้านบาท และบริษัทฯ ปรับปรุงบัญชีจากหนี้สินระยะยาวมาเป็นหนี้สินที่ถึงกำหนดชำระเป็นเงิน 5,024 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯไม่สามารถจ่ายเงินต้นตามสัญญาได้ ปัจจุบันศาลล้มละลาย กลางได้มีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการและแต่งตั้งให้บริษัทฯเป็นผู้ทำแผนฟื้นฟู กิจการ
นางสาวปิ่นมุก เสนาดิสัย กรรมการ บริษัท สแกนดิเนเวีย ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCAN แจ้งผลงานไตรมาสแรกปีนี้พบว่าบริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 20.18 ล้านบาท เพิ่มจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 1.66 ล้านบาท หรือขาดทุนเพิ่ม 1,115.66% ซึ่งงวดนี้บริษัทมีรายได้รวม 77 ล้านบาท โดยรายได้จากบริษัทเองมีเพียง 3 ล้านบาท ลดลง 58% เนื่องจากบริษัทฯ ลดการทำธุรกิจประเภทสินเชื่อดังกล่าว ซึ่งเป็นธุรกิจที่ไม่ก่อให้เกิดกำไรแก่บริษัทฯ ขณะรายได้ที่รับรู้จากบริษัทย่อยคือเดวาฯ มีรายได้ 74 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นผลประกอบการจากบริษัท เดวาฯ และมีกำไรขั้นต้นของบริษัทย่อยสูง
สำหรับงวดนี้ บริษัทมีค่าใช้จ่ายรวม 43 ล้านบาท แบ่งเป็นในส่วนค่าใช้จ่ายของสแกนฯเองลดลงเนื่องจากมีการปรับโครงสร้าง
องค์กรและลดต้นทุนดำเนินงาน ขณะที่บริษัทย่อย มีค่าใช้จ่ายรวม 34 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นผลประกอบการจากบริษัท เดวาฯโดยมีรายการค่าเบี้ยปรับและเงินเพิ่มภาษี 9 ล้านบาท คิดเป็น 26 % ของค่าใช้จ่ายรวม ซึ่งเกิดจากการค้างชำระภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย อีกทั้งมีต้นทุนทางการเงิน 15 ล้านบาท เป็นผลประกอบการจากบริษัท เดวาฯ ปัจจุบันมีหนี้เงินกู้ยืมคงเหลือ 734 ล้านบาท
|