หุ้นไทยรีบาวน์ขึ้น 6.85 จุด รับกลุ่มเสื้อแดงเล่นเกม ตั้งส.ว.เป็นคนกลางเข้าเจรจากับภาครัฐบาล โบรกฯประเมินปัจจัยต่างประเทศช่วยประครองดัชนี แต่ปัจจัยภายในยังผันผวนและจะฉุดลงไปแดนลบ หลังมีประกาศวันหยุดเพิ่มอีก 3 วัน
ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยวานนี้ (18พ.ค.) ปิดที่ระดับ 760.11 จุด เพิ่มขึ้น 6.85 จุด หรือ 0.91% มูลค่าการซื้อขาย 13,883.98 ล้านบาท ระหว่างวันดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 761.67 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 748.30 จุด ซึ่งสาเหตุที่ดัชนีมีการรีบาวน์ขึ้นน่าจะมาจากการตอบรับของกลุ่มผู้ชุมนุม เสื้อแดง ที่จะให้มีส.ว.เป็นคนกลางเข้ามาช่วยเจรจา
ขณะที่การซื้อขายแยกตามกลุ่มนักลงทุนยังพบว่า นักลงทุนต่างชาติยังเทขายสุทธิออกไปอีก 26,740.08 ล้านบาท เช่นเดียวกับสถาบันที่ขายสุทธิ 106.91 ล้านบาท โดยนักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิ 2,447.24 ล้านบาท และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ซื้อสุทธิ 299.75 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวานนี้ เพิ่มขึ้น 240 หลักทรัพย์ ลดลง 79 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 125 หลักทรัพย์ และหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรกได้แก่ PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,414.09 ล้านบาท ปิดที่ 249.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท CPFมูลค่าการซื้อขาย972.03 ล้านบาท ปิดที่17.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาทPTTEP มูลค่าการซื้อขาย 737.43 ล้านบาท ปิดที่ 145.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท SCB มูลค่าการซื้อขาย 705.02 ล้านบาท ปิดที่ 81.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท และBANPU มูลค่าการซื้อขาย 799.07 ล้านบาท ปิดที่ 610.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงบ่ายดีดกลับมาบวกตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศที่รีบาวน์กลับ มาได้ หลังจากปัญหาวิกฤตของกรีซกดดันตลาดหุ้นไปเวลาหลายวัน อย่างไรก็ตามน่าจะมีแรงซื้อเข้ามาจากกลุ่มนักลงทุนหลายกลุ่มในประเทศ ด้วยหลังจากปัจจัยการเมืองเริ่มมีพัฒนาการ โดยมีตัวกลางเสนอตัวเข้ามาเจรจาไกล่เกลี่ยเพื่อหาทางออกจากปัญหาที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ (19พ.ค.) ยังคงอิงกับปัจจัยการเมืองเป็นหลักว่าจะมีทางออกที่ดีหรือไม่ ซึ่งยังคงมีสัญญาณไม่ดีนักหลังจากที่รัฐบาลประกาศวันหยุดราชการเพิ่มอีก 3 วัน มองว่าปัญหาอาจจะยังไม่จบลงได้เร็วนัก แต่ปัจจัยภายนอกประเทศเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น ดังนั้นวันนี้ตลาดหุ้นไทยอาจได้ปัจจัยจากต่างประเทศมาช่วยประคองเอาไว้ แต่ยังคงให้น้ำหนักการเมืองเป็นหลักเพราะหากมีสถานการณ์รุนแรงส่งต่อตลาดได้ เช่นเดียวกัน โดยกรอบการลงทุนคาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบแคบๆ จึงให้แนวรับที่ 750 แนวต้านที่ 766 จุด
ตลท.ปิดเร็วขึ้นเป็น15.30ต่อ
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ มีมติให้ยังคงกำหนดเวลาปิดการซื้อขายหลักทรัพย์ในภาคบ่ายเร็วขึ้น 1 ชั่วโมง สำหรับวันพุธที่ 19 พฤษภาคม 2553 ทั้งตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) ตลาดหลักทรัพย์ (mai) ตลาดตราสารหนี้ (BEX) และตลาดอนุพันธ์ (TFEX) สำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์ในภาคเช้าในวันพุธที่ 19 พฤษภาคม 2553 ยังคงเป็นไปตามเวลาปกติ คือเวลา 10.00 – 12.30 น. ส่วนการซื้อขายหลักทรัพย์ในภาคบ่ายเป็นระหว่างเวลา 14.30 – 15.30 น.
โดยคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ จะประเมินสถานการณ์เป็นรายวัน และประกาศกำหนดเวลาเปิดการซื้อขายหลักทรัพย์ให้ทราบต่อไป
นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคงงดกิจกรรมและการให้บริการ ณ อาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ ถ.รัชดาภิเษก ในวันพุธที่ 19 พร้อมทั้งปิดบริการเคาน์เตอร์ TSD ห้องสมุดมารวย ร้านหนังสือ และห้องสมุดมารวย สาขา Esplanade โดย เลื่อน กิจกรรมบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน Opportunity Day (ยกเลิก บมจ.ไทยออพติคอล กรุ๊ป) , ยกเลิก การสัมมนา IPO Focus สร้างความพร้อมบริษัทลูกของรัฐวิสาหกิจ เติบใหญ่ในตลาดทุน, ยกเลิก อบรม “Mini Gold Futures” มีเงินหลักหมื่น ซื้อทองได้หลักแสน, ยกเลิก การเสวนา Executive Talk @ Maruey องค์กรสร้างคน คนสร้างคุณค่าให้สิ่งแวดล้อม , ยกเลิก การสัมมนาเจาะลึกเรื่องเทรดออนไลน์ “Internet Week for SET-TFEX Click2WIN 2010 เทคนิคพิชิตเทรดออนไลน์”
อย่างไรก็ตาม ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะแจ้งความคืบหน้าเกี่ยวกับการจัดกิจกรมต่าง ๆ ให้ทราบเป็นระยะ ๆ หรือติดตามได้จาก www.set.or.th สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. S-E-T Call Center 0-2229-2222
|