|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
“อาร์เอส” เผยไตรมาส 1 ปี 53 ทำรายได้รวม 535.1 ล้านบาท กำไรสุทธิ 52.1 ล้านบาท เป็นปลื้มธุรกิจเพลงและดิจิตอลเดินหน้าต่อเนื่อง มั่นใจทั้งปีนี้โกย 2,900 ล้านบาท กำร 330 ล้านบาท
นางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ อาร์เอส เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานของ อาร์เอส ในไตรมาสแรก ปี 53 ทำรายได้รวม 535.1 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 52.1 ล้านบาท สามารถพลิกจากขาดทุนเป็นกำไร หรือเติบโตเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนแบบก้าวกระโดดถึง 211.2 % อันเนื่องมาจากธุรกิจหลักของบริษัทฯ คือธุรกิจเพลงและดิจิตอล ซึ่งเป็นธุรกิจต้นน้ำ ที่เดินหน้าด้วยกลยุทธ์ ฟูลลี่ดิจิตอลมิวสิค สามารถทำตัวเลขปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากความสำเร็จของโครงการ “ซุปเปอร์เหมา *339” ที่ยังคงมียอดดาวโหลดดิจิตอลคอนเทนต์เพิ่มมากขึ้น และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ซึ่งตั้งแต่ต้นปี 53 ธุรกิจเพลงและดิจิตอล สามารถทำตัวเลข และสร้างรายได้ แบบทำ New High ได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย
นอกจากนั้นธุรกิจโชว์บิซ ก็สามารถทำรายได้เป็นที่น่าพอใจ ทำรายได้ไปกว่า 151.2 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 26.6 ล้าน หรือเติบโตเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 21.3 โดยผลพวงทางการเมืองนั้น ส่วนใหญ่จะส่งผลกระทบกับการจัดงานอีเว้นต์และงานแสดงโชว์โดยตรง แต่เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา อาร์เอส ไม่มีแผนในการจัดกิจกรรมใหญ่ จึงไม่ได้รับผลกระทบกับการทำธุรกิจในสายงานโชว์บิซ หรือมีผลกระทบอยู่บ้างแต่ก็ไม่มากนัก ส่วนไตรมาสที่ 2 อาร์เอส จะมีคอนเสิร์ตใหญ่จากค่าย กามิกาเซ่ ก็จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงสถานที่จัดงานคอนเสิร์ต จากเดิมจัดมีแผนจัดขึ้นที่ พารากอน ฮอลล์ ก็เปลี่ยนมาเป็น อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก ก็เพื่อความสะดวกในการเดินทางของผู้ที่จะเข้ามาชมคอนเสิร์ต ซึ่งก็เป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงสถานที่เท่านั้น มิได้กระทบกับรายได้ที่จะมีเข้ามาแต่อย่างใด
ในขณะที่ธุรกิจวิทยุ โดย บริษัท สกายไฮ เน็ตเวิร์ค จำกัด ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ไตรมาสแรกของปีนี้ สามารถทำรายได้ไปแล้วกว่า 48.4 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 10.9 ล้านบาท หรือเติบโตถึง 29.2 % ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะ ภายหลังจากการ Re-Brandind ปรับกลยุทธ์เพื่อขับเคลื่อนด้วย 3 ธุรกิจใหม่ อันได้แก่ ACROSS ในรูปแบบ Free copy magazine , A-Lis เคเบิ้ลทีวี สไตล์ Celeb Lifestyle Calebrity และ SKYWALKER ซึ่งครอบคลุมการจัดงานโชว์บิซ งานอีเว้นต์ และ งานคอนเสิร์ต โดยรายได้หลักยังคงมาจากธุรกิจวิทยุคลื่นคูล 93 ฟาเรนไฮต์ ซึ่งการดำเนินงานทั้งหมด ก็สามารถพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีแล้วว่า การปรับกลยุทธ์ครั้งนี้ทำให้สายงานวิทยุของ อาร์เอส แข็งแกร่งและเติบโตมากยิ่งขึ้น
ประกอบกับในไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทฯ ยังสามารถลดต้นทุนการขาย/ต้นทุนการบริหารและการผลิต และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลงได้ถึงร้อยละ 10.6 จากการบริหารรายจ่ายและควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ภาพรวมและงบการเงินของบริษัทฯ ปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ
อีกทั้งในปีนี้ธุรกิจภาพยนตร์ก็ยังคงเดินหน้าเปิดกล้องและถ่ายทำอย่างต่อ เนื่อง โดยประเดิมภาพยนตร์เรื่องแรกของค่าย FILM R US ( ฟิล์ม อาร์ อัส ) และ ภาพยนตร์เรื่องแรกของปีนี้ กับเรื่อง “3 ย่าน” ที่คว้าตัว 3 ผู้กำกับฯ มากฝีมืออย่าง พิง ลำพะเพลิง, โก๊ะตี๋ อารามบอย และ ต้อม-ยุทเลิศ สิปปภาค ที่กำลังจะเข้าฉาย ในวันที่ 20 พ.ค. นี้ อาร์เอส ก็ยังคงมีความมั่นใจ แต่ถ้าหากมองในแง่ของจำนวนโรงฉายและรายได้ อาจได้รับผลกระทบอยู่บ้าง เนื่องจากเสียพื้นที่การฉายซึ่งเป็นจุดใหญ่ใจกลางเมืองไป ทั้งในส่วนของสยามพารากอน และเซ็นทรัลเวิล์ด แต่ในขณะนี้คนไทยเริ่มปรับตัว เมื่อไม่สามารถชมภาพยนตร์ที่โรงภาพยนตร์ใจกลางเมือง ก็สามารถย้ายไปดูสาขาอื่นแทนได้ เพราะเชื่อว่าหนังตลกยังคงเป็นที่นิยมสำหรับคนไทย ยิ่งในภาวะความวุ่นวายทางการเมืองในตอนนี้ ทำให้คนส่วนใหญ่เกิดความเครียด การหาความบันเทิงให้กับตัวเองในรูปแบบการดูหนัง โดยเฉพาะหนังคอมมิดี้ ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจอีกช่องทางหนึ่ง ในช่วงเวลานี้
และอีกธุรกิจหนึ่งที่กำลังเป็นที่น่าจับตามองของ อาร์เอส ในปี 53 คงเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกจากธุรกิจกีฬา กับการคว้าลิขสิทธิ์ การถ่ายทอดสดการแข่งขัน 2010 FIFA World Cup South Africa (2010 ฟีฟ่า เวิล์ด คัพ เซาธ์ แอฟริกา) มาได้ ปัจจุบันบริษัทฯ มีพันธมิตรทางธุรกิจที่มีเข้ามาแล้วเต็ม 100 % โดยคาดว่าจะสามารถทยอยรับรู้รายได้จากโปรเจ็คบอลโลกได้ภายในไตรมาสที่ 2 และ 3 ของปีนี้
“ สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจของ อาร์เอส ในปี 53 นั้น ยังไม่มีแผนจะปรับเปลี่ยนแต่อย่างใด เนื่องจากแผนงานที่วางไว้ตลอดปี มีความยืดหยุ่นอยู่แล้ว หากสถานการณ์เปลี่ยนแปลง บริษัทฯ ก็สามารถปรับแผนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ได้ตลอดเวลา ดังนั้นคาดว่าสิ้นปี 53 บริษัทฯ จะสามารถทำรายได้ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2,900 ล้านบาท กำไร 330 ล้านบาท ได้อย่างแน่นอน ” นางพรพรรณ กล่าวทิ้งท้าย
|
|
|
|
|