Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTVผู้จัดการรายวัน12 พฤษภาคม 2553
ชิ้นส่วนยานยนต์พุ่งมาร์จิ้นโต             
 


   
search resources

สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์, บมจ.
Auto-parts




นายพลศักดิ์ เลิศพุฒิภิญโญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SMT แจ้งงบการเงินไตรมาสแรกปี 53 ว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 10.25 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 410% สูงสุดเป็นประวัติการของบริษัท จากกำไรสุทธิ 19.54 ล้านบาทในไตรมาส 1 ปี 52 ขณะรายได้รวมเติบโตเพิ่มขึ้น 69% เป็น 3,689 ล้านบาท จากรายได้รวม 2,181 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปี 52

เนื่องจากงวดนี้บริษัทฯมีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 37.28 ล้านบาท จากยอดขายที่สูงขึ้น 68% ซึ่งเป็นในส่วนของ MMA Hard Disk เป็นสำคัญ ประกอบกับบริษัทฯมีโครงสร้างรายได้ (Product Mix) ในผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ด้าน IC Packaging อีกทั้งมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน ขณะปี 52 ขาดทุนอันเป็นผลจากความผันผวนของค่าเงิน

" เราภูมิใจที่สามารถสร้างผลกำไรสุทธิให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง 3 ไตรมาสติดต่อกันโดยการที่กำไรสุทธิไตรมาสนี้เพิ่มขึ้นกว่า 410% และยังสามารถเพิ่มอัตรากำไรสุทธิ (Net Margin) ได้ถึง 311% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เป็นการยืนยันว่ากลยุทธ์ Hi-Tech Hi-Growth Hi Profits ของบริษัทประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี และยิ่งขณะนี้อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์โลกได้กลับเข้าสู่ช่วงเติบโตรอบใหม่ และคาดว่าจะขยายตัวติดต่อกัน 4-5 ปี

ดังนั้น บริษัทได้ปรับเพิ่มเป้าหมายผลประกอบการสำหรับปี 53 นี้ เพิ่มขึ้นสูงกว่าเดิมจากที่คาดว่าจะเติบโต 40% เป็นเติบโตกว่า 60% จากปี 52 เนื่องจากทั้งรายได้รวมและกำไรสุทธิมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าและต่อเนื่อง จากผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 กลุ่มคือ ชิ้นส่วนไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (MMA หรือ Microelectronics Module Assembly ) และไอซีชิพหรือแผงวงจรไฟฟ้ารวม (IC หรือ Integrated Circuit) โดยมีผลิตภัณฑ์หลักที่เติบโตสูงสุดคือระบบทัช สกรีนสำหรับสมาร์ทโฟน 2. เซ็นเซอร์อัจฉริยะวัดระดับลมยาง TPMS หรือ Tire Pressure Monitoring System 3. ชิ้นส่วนฮาร์ดดิสค์ขนาด 3.5 ซึ่ง SMT จะได้รับประโยชน์โดยตรงเพราะเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนระดับ Prime Source ให้กับทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์โดยลูกค้าหลักของบริษัทฯ เป็นแบรนด์ผู้นำอันดับ 1 ของโลก และ แบรนด์ระดับโลกอื่น ๆ อีกหลายแบรนด์ที่มียอดขายเติบโตอย่างสูงและต่อเนื่องทั่วโลก แม้แต่เอเซียก็เช่นกัน

โดย SMT ได้ขยายกำลังการผลิตทั้ง สายงานไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (MMA) และวงจรไฟฟ้ารวม (IC) เป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้เป็น 100 ล้านชิ้นต่อปี และ 1,200 ล้านชิ้นต่อปีตามลำดับ หรือเพิ่มขึ้นกว่า 30.% และ 70% จากปีที่แล้ว ด้วยงบลงทุนทั้งหมดกว่า 400 ล้านบาทปีนี้ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า และบริษัทฯได้เริ่มผลิตชิ้นส่วนระดับอุตสาหกรรม (Mass Production) สำหรับลูกค้าสมาร์ทโฟนระดับโลกรายใหม่แบรนด์ญี่ปุ่น-ยุโรป หลังจากประสบผลสำเร็จจากผลิตขั้นต้นไปแล้ว ซึ่งในตลาดโลกขณะนี้มีความต้องการสมาร์ทโฟนทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างสูงและต่อเนื่อง

พร้อมกันนี้ ยังแจ้งมติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อ 29 เมษายน 53 ว่าที่ประชุมได้มีมติอนุมัติออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ ( วอร์แรนต์ ) ที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ให้แก่กรรมการและพนักงานของบริษัทฯ ตามโครงการ ESOP 7,500,000 หน่วย อายุ 4 ปี กำหนดราคาแปลงสภาพหุ้นละ 4.50 บาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us