|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
นายพลศักดิ์ เลิศพุฒิภิญโญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SMT แจ้งงบการเงินไตรมาสแรกปี 53 ว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 10.25 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 410% สูงสุดเป็นประวัติการของบริษัท จากกำไรสุทธิ 19.54 ล้านบาทในไตรมาส 1 ปี 52 ขณะรายได้รวมเติบโตเพิ่มขึ้น 69% เป็น 3,689 ล้านบาท จากรายได้รวม 2,181 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปี 52
เนื่องจากงวดนี้บริษัทฯมีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 37.28 ล้านบาท จากยอดขายที่สูงขึ้น 68% ซึ่งเป็นในส่วนของ MMA Hard Disk เป็นสำคัญ ประกอบกับบริษัทฯมีโครงสร้างรายได้ (Product Mix) ในผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ด้าน IC Packaging อีกทั้งมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน ขณะปี 52 ขาดทุนอันเป็นผลจากความผันผวนของค่าเงิน
" เราภูมิใจที่สามารถสร้างผลกำไรสุทธิให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง 3 ไตรมาสติดต่อกันโดยการที่กำไรสุทธิไตรมาสนี้เพิ่มขึ้นกว่า 410% และยังสามารถเพิ่มอัตรากำไรสุทธิ (Net Margin) ได้ถึง 311% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เป็นการยืนยันว่ากลยุทธ์ Hi-Tech Hi-Growth Hi Profits ของบริษัทประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี และยิ่งขณะนี้อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์โลกได้กลับเข้าสู่ช่วงเติบโตรอบใหม่ และคาดว่าจะขยายตัวติดต่อกัน 4-5 ปี
ดังนั้น บริษัทได้ปรับเพิ่มเป้าหมายผลประกอบการสำหรับปี 53 นี้ เพิ่มขึ้นสูงกว่าเดิมจากที่คาดว่าจะเติบโต 40% เป็นเติบโตกว่า 60% จากปี 52 เนื่องจากทั้งรายได้รวมและกำไรสุทธิมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าและต่อเนื่อง จากผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 กลุ่มคือ ชิ้นส่วนไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (MMA หรือ Microelectronics Module Assembly ) และไอซีชิพหรือแผงวงจรไฟฟ้ารวม (IC หรือ Integrated Circuit) โดยมีผลิตภัณฑ์หลักที่เติบโตสูงสุดคือระบบทัช สกรีนสำหรับสมาร์ทโฟน 2. เซ็นเซอร์อัจฉริยะวัดระดับลมยาง TPMS หรือ Tire Pressure Monitoring System 3. ชิ้นส่วนฮาร์ดดิสค์ขนาด 3.5 ซึ่ง SMT จะได้รับประโยชน์โดยตรงเพราะเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนระดับ Prime Source ให้กับทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์โดยลูกค้าหลักของบริษัทฯ เป็นแบรนด์ผู้นำอันดับ 1 ของโลก และ แบรนด์ระดับโลกอื่น ๆ อีกหลายแบรนด์ที่มียอดขายเติบโตอย่างสูงและต่อเนื่องทั่วโลก แม้แต่เอเซียก็เช่นกัน
โดย SMT ได้ขยายกำลังการผลิตทั้ง สายงานไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (MMA) และวงจรไฟฟ้ารวม (IC) เป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้เป็น 100 ล้านชิ้นต่อปี และ 1,200 ล้านชิ้นต่อปีตามลำดับ หรือเพิ่มขึ้นกว่า 30.% และ 70% จากปีที่แล้ว ด้วยงบลงทุนทั้งหมดกว่า 400 ล้านบาทปีนี้ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า และบริษัทฯได้เริ่มผลิตชิ้นส่วนระดับอุตสาหกรรม (Mass Production) สำหรับลูกค้าสมาร์ทโฟนระดับโลกรายใหม่แบรนด์ญี่ปุ่น-ยุโรป หลังจากประสบผลสำเร็จจากผลิตขั้นต้นไปแล้ว ซึ่งในตลาดโลกขณะนี้มีความต้องการสมาร์ทโฟนทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างสูงและต่อเนื่อง
พร้อมกันนี้ ยังแจ้งมติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อ 29 เมษายน 53 ว่าที่ประชุมได้มีมติอนุมัติออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ ( วอร์แรนต์ ) ที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ให้แก่กรรมการและพนักงานของบริษัทฯ ตามโครงการ ESOP 7,500,000 หน่วย อายุ 4 ปี กำหนดราคาแปลงสภาพหุ้นละ 4.50 บาท
|
|
|
|
|