นายหมิง เจิ้ง หวัง รองประธานกรรมการ บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์(ประเทศไทย) จากัด (มหาชน) หรือ DELTA แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปีนี้ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 893.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 511.36 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 382.24 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 74.74%

โดยยอดขายในไตรมาสแรกปีนี้ มีอัตราเพิ่มขึ้น 18.7 % จากจำนวน 6,359 ล้านบาทของไตรมาสเดียวกันปีก่อนเป็น 7,545 ล้านบาทในไตรมาสนี้เนื่องจากในปัจจุบันมีความต้องการในตลาดสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ค่อนข้างสูง ซึ่งบริษัทฯ สามารถทำยอดขายได้เพิ่มขึ้นเกือบทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (ประกอบด้วยพัดลมระบายความร้อนและ EMI filter) ซึ่งมียอดขายเพิ่มขึ้น 33 % จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน นอกจากนี้ยังมีกลุ่ม IT Power ที่มียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 55 % และกลุ่มของ DC-DC converter และ DES ที่มียอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 25-30 %

อย่างไรก็ตามกลุ่มผลิตภัณฑ์ Telecom Power กลับมียอดขายลดลงกว่าไตรมาสเดียวกันปีก่อน 9.5 % เนื่องจากการขาดแคลนวัตถุดิบแต่อย่างไรก็ดีบริษัทฯคาดว่าประมาณไตรมาสที่สองหรือสามของปีนี้สถานการณ์ดังกล่าวอาจจะคลี่คลายขึ้นตามลำดับ ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาสแรกปี 53 ปรับตัวสูงขึ้น 1.8 % จาก 25.9 % ของไตรมาสแรกปี 52 เป็น 27.7% โดยค่าใช้จ่ายจากการขายและดำเนินงาน (SG&A) ไม่รวมค่าวิจัยและพัฒนามี
จำนวนเพิ่มขึ้น 17 % จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน

ดังนั้น จากการที่บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายเพิ่มสูงขึ้น ทำ ให้อัตราค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อยอดขาย (%SG&A/sales) ลดลงเล็กน้อยจาก 11.4 % ในไตรมาสเดียวกันปีก่อนเป็น 11.3 % ส่วนค่าวิจัยและพัฒนา ในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีก่อนประมาณ 1% 4 แต่ยังคงสัดส่วนต่อยอดขายที่ใกล้เคียงกับปีก่อนคือ มีอัตรา 5.7 %ของยอดขายเมื่อเทียบกับ 6 % ของยอดขายในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และจากการที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ค่อนข้างสูง

ตามที่กล่าวข้างต้น ทำให้อัตรากำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสนี้เพิ่มสูงขึ้นจาก 8.5 % ในไตรมาสแรกของปีก่อนเป็น 10.6% และเมื่อรวมกับกำไรจากการลงทุน 104 ล้านบาท