Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ ธันวาคม 2533








 
นิตยสารผู้จัดการ ธันวาคม 2533
พงส์ สารสิน บนเส้นทางธุรกิจการเมือง             
โดย สุปราณี คงนิรันดรสุข
 


   
search resources

พงส์ สารสิน
ราชกรีฑาสโมสรณ์




ประวัติพงส์ สารสิน เกิดเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2470 เป็นบุตรคนโตของพจน์ สารสินอดีตนายกรัฐมนตรี (ปัจจุบันอายุ 85 ปี แต่ยังแข็งแรงตีกอล์ฟวันละ 9 หลุมได้ทุกวัน) กับท่านผู้หญิงสิริ สารสิน ความเป็นลูกคนโตที่แม่รักจึงได้รับการตั้งชื่อตามมารดาว่า "พงส์สิริ" เพื่อนเก่าสมัยเรียนวชิราวุธจึงติดปากเรียกว่า "พงส์-หริ" แต่ต่อมาในยุคสมัยจอมพลแปลก พิบูล สงคราม เป็นนายกรัฐมนตรีที่ห้ามมิให้ชื่อเป็นหญิงชื่อ "พงส์สิริ" จึงถูกตัดทอนให้สั้นลงเป็น "พงส์"

พงส์มีน้องร่วมสายเลือดเดียวกันอีก 5 คนคือพล.ต.อ.เภาสารสิน อดีตอธิบดีกรมตำรวจ บัณฑิต บุณยะปานะหรือปุ๋ยซึ่งใช้นามสกุลของป้าที่ขอไปเลี้ยงเพราะไม่มีลูก ปัจจุบันเป็นอธิบดีกรมสรรพากร พิมพ์สิริ สารสินหรือ "แป๋ว" (ภรรยาพ.อ.จินดา ณ สงขลาอดีจเลขาธิการ กพ.) อาสา สารสินหรือปุ๊ก (สามีม.ร.ว.กิตติคุณ กิติยากร) อาสาเคยเป็นอดีตปลัดกระทรวงการต่างประเทศและปัจจุบันเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทผาแดงอินดัสทรี

น้องคนสุดท้องคือพลตรี สุพัฒร์ สารสินหรือ "เปี๊ยก" (สมีสุมพร ยิบอินซอย) ปัจจุบันสบายที่สุดประจำกองบัญชาการทหารบก สุพัตรจบปริญญาตรีจากสหรัฐและเข้าเทียบเป็นนายทหารทำหน้าที่แปลข่าว ภายหลังจอมพลประภาสก็เอามาใช้เป็นทส.จนกระทั่งได้ยศเป็นพันเอก และกลับเข้ามารับราชการต่อในสมัย พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอกเป็นใหญ่ ควบ ผบ.ทบ.และผบ.สูงสุดสุพัตร์ได้รับตำแหน่งล่าสุดเป็นพลตรีประจำกองบัญชาการ

ชีวิตส่วนตัวพงส์สมรสกับมาลินี วรรณพฤกษ์เมื่อ 15 สิงหาคม 2496 มีบุตร 3 คนโตได้แก่พาสินีแต่งกับดร.สุเมธ ลิ่มอติบูลย์ คนต่อ ๆ มาคือวัลลิยา สารสินและพรวุฒิ สารสิน

การศึกษาขั้นต้นพงส์เรียนอนุบาลที่ รร.สุรศักดิ์ ต่อที่วชิราวุธวิทยาลัยจนจบม. 6 แล้วเรียนเตรียมจุฬาฯแต่ไม่จบ เดินทางไปเรียนต่อเมืองนอกตามประสงค์ของบิดา จบกระทั่งจบปริญญาตรีทางบัญชีจากมหาวิทยาลัยบอสตัน กลับมาทำงานครั้งแรกที่แบกง์ชาติได้ครึ่งปี ก็ลาออกไปอยู่กรมประมวลข่าวกลางปี 2495-2500 จึงลาออกมาอยู่บริษัทไทยน้ำทิพย์เริ่มในตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการ ปัจจุบันเป็นกรรมการผู้จดัการ

ความที่เป็นทายาทคนโตทำให้พงส์ต้องกระโดดลงไปเล่นการเมืองควบคู่ไปกับดูแลธุรกิจของตระกูลสารสินนับ 101 บริษัทตั้งแต่บริษัทไทยน้ำทิพย์ผู้ผลิตน้ำอัดลม "โค้ก" ซึ่งทำให้สปอร์ตสคลับมีเพียง "โค้ก" บริการเท่านั้น ไม่อาจมี "เป๊ปซี่" ได้

นอกจากนี้พงส์ยังเป็นกรรมการบริษัท ตรีเพชรอีซูซุยางบริดจ์สโตน บริษัทฝาจีบ โรงงานทำขวดแก้ว แบงกืไทยพาณิชย์ แบงก์กสิกรไทย ไปจนถึงน้ำเหล้าตั้งแต่บริษัทธารา ไก่แดงแสงโสมไปจถึงเหล้าตราหงส์ทอง และแม่โขง รวมทั้งปัจจุบันยังเป็นกรรมการบริษัทฮอนด้าคาร์

เส้นทางการเมืองของพงส์เริ่มตอนที่มีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ 2516 ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาสนามม้า พอมีกฎหมายพรรคการเมืองจึงร่วมกับมรว.คึกฤทธิ์ ปราโมชตั้งพรรคกิจสังคม

ในระยะแรกพงส์ยังมีบทบาทอยู่เบื้อหงลังในฐานะกรรมการบริหารและเหรัญญิกพรรค ขณะที่บทบาทของบุญชู โรจนเสถียรโดดเด่นในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในปี 2518 และรองนายกรัฐมนตรีในปี 2523-4

ถึงกระนั้นการสั่งสมบารมีของพงส์ในพรรคกิจสังคมได้ทำต่อเนื่องมาจนกระทั่งพงส์ได้เป็นเลขาธิการพรรคสืบต่อจากโกศล ไกรฤกษ์ในการเลือกตั้งกรรมการบริหารเมื่อ 7 มีนาคม 2527

"วันแรกที่นายพงส์ สารสินถูกแต่งตั้งเป็นเลขาธิการพรรคกิจสังคม นายชวย หลีกภัยได้ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ โดยทำนายไว้ว่า กิจสังคมต่อไปจะเป็นธุรกิจการเมือง หนึ่งในข้อความใบปลิวที่ออกมาโจมตีพงส์ หลังการปรับปรุงคณะรัฐมนตรีในชุดเปรม 5 เมื่อปี 2529

ในปี 2523 นโยบายการขึ้นภาษีน้ำอัดลมของบุญชูสมัยเป็นรองนายกฯ สร้างความไม่พอใจแก่พงส์อย่างมากเพราะปี 2524 ไทยน้ำทิพย์ต้องจดทุนถึง 182 ล้านบาท ปลดคนงานออก 500 คน พงส์ได้ผลักดันให้รัฐบาลออกกฎหมายลดภาษีได้ในเวลาต่อมา และกลายเป็นความบาดหมางอันสำคัญระหว่างคนทั้งสอง และก่อให้เกิดความแตกแยกในพรรคกิจสังคมช่วงนั้นมี ส.ส.7 คนยื่นใบลาออก เพราะไม่พอใจการกระทำของพงส์ ซึ่งก็มีประมวล สภาวสุ (ปัจจุบันเป็นรองนายกรัฐมนตรี) คนหนึ่งด้วย

ปัจจุบันภาพพจน์ของพงส์ในตำแหน่งการเมืองอยู่ฐานะรองหัวหน้าพรรค ซึ่งไม่มีบทบาทมากนัก หลังจากที่มีการปรับคณะรัฐมนตรีจากชาติชาย 1 เป็นชาติชาย 2 พงส์ได้ลาออกพร้อมหัวหน้าพรรคคือพล.อ.อ.สิทธิ เศวตศิลาซึ่งโดยส่วนตัวรู้จักกับพงส์ตั้งแต่อยู่สหรัฐ และได้ชวนพงส์มาทำงานที่กรมประมวลข่าวกลางจนถึงสมัยพลสฤษดิ์ปฏิวัติจึงลาออกเป็น 2500 และมาทำที่บริษัทไทยน้ำทิพย์

จากน้ำอัดลมก็ไทยน้ำทิพย์ภายใต้การบริหารของพงส์ก็เข้าสู่เครื่องดื่มชูกำลัง "มาราธอน" ซึ่งอออกมาชิงส่วนแบ่งตลาดลิโพวิตันดีของสุรัตน์ โอสถานุเคราะห์ ต่อจากนั้นพงส์ก็ร่วมกับทุนญี่ปุ่นตั้งบริษัทฝาจีบ

พงส์หันเข้าสู่ธุรกิจน้ำเมา โดยได้รับการชักชวนจากอีสต์เอเชยติ๊กกับแบงก์กสิกรไทยทำเหล้า แต่เมื่อไม่ได้รับใบอนุญาตก็เลิกไป ต่อมาก็ร่วมกับประสิทธิ์ ณรงค์เดชทำเหล้าแสงโสมจนกระทั่งเถลิง เหล่าจินดามาซื้อแล้วชวนเข้าหุ้นด้วย ตั้งบริษัทสุราทิพย์ผลิตเหล้าแสงโสมกับหงส์ทอง ต่อสู้ขับเคี่ยวกับบริษัทสุรามหาราษฎร เจ้าของ "แม่โขง" มาตลอด 6 ปี กว่าจะยุติสงครามน้ำเมาเมื่อ 7 มีนาคม 2527

นอกจากกิจการดังกล่าว พงส์ได้เข้าไปร่วมกับการจัดตั้งบริษัทไทยแลนด์แทนทาลั่ม อินดัสตรีเมื่อปี 2522 ด้วย แต่ต่อมาได้เกิดเหตุเผาประท้วงการตั้งโรงงานแทนทาลั่มที่ภูเก็ต

พงส์ได้ก้าวเข้าธุรกิจธนาคารโดยเป็นกรรมการแบงก์ไทยพาณิชย์ ในอดีตบิดาคือพจน์ สารสินเป็นประธานกรรมการบริหารแบงก์ไทยทนุมานาน และปู่หรือเจ้าคุณสารสินก็เคยเป็นประธานแบงก์ไทยพาณิชย์คนแรก

ตำแหน่งทางธุรกิจที่สำคัญที่พงส์เคยเป็นอีกอย่างหนึ่งคือนายกสมาคมอุตสาหกรรมไทย (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นสภาอุตสาหกรรมไทย) ซึ่งการเลือกตั้งในครั้งนั้นก็ใช้วิธีการแจก "โผ" รายชื่อกรรมการให้สมาชิก ปรากฏว่าในโผมีชื่อ 28 คน และนอกโผมีคนเสนอชื่อ 7 คน ผลแพ้ชนะออกมาว่าคนนอกโผหลุดเข้าไปกรรมการคนเดียว อีก 24 คนเป็นไปตามโผ

และด้วยวิธีการเดียวกันนี้ พงส์ก็ได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานราชกรีฑาสมโมสรณ์พร้อมทีมงานชุดเดิมทั้งหมด นับเป็นสมัยที่ 13

ถึงเวลานี้ ชื่อของพงส์ สารสิน" ได้ถูกเติมบทบาทในฐานะนักธุรกิจการเมืองแท้จริง

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us