|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ปกติแล้วใครมีเทอร์เรซขนาดใหญ่บนหลังคากลางกรุงลอนดอนนั้นถือว่าโชคดีมหาศาลเหมือนมีทองคำอยู่ในครอบครองเลยทีเดียว สามีภรรยาซึ่งเป็นเจ้าของปัจจุบันก็เป็นหนึ่งในคนประเภทนี้ เพราะตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็นด้านนอกของแฟลตใน Hampstead เมื่อสองปีก่อน ทั้งคู่ทั้งประหลาดใจทั้งตื่นเต้นจนบอกไม่ถูก
บนหลังคาแฟลตทันสมัยชั้นที่ 6 เป็นเทอร์เรซกว้างขวางขนาด 176 ตารางเมตร ซึ่งเมื่อขึ้นไปยืนแล้วมองลงมาจะเห็นทัศนียภาพทั่วทั้งกรุงลอนดอนชนิดที่ไม่ อยากเชื่อสายตาเลยว่า ยังมีทำเลอย่างนี้อยู่จริง
แม้ว่าเจ้าของเดิมจะสร้างดาดฟ้าพื้นที่กว้างขวางไว้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่มันก็ยังเป็นเหมือนผืนผ้าใบว่างเปล่าขนาดมหึมา ที่รอให้คนมีความคิดสร้างสรรค์เข้ามาแต่งแต้มลวดลายสีสันให้สวยงามยิ่งขึ้นนั่นเอง เพราะทั่วทั้งบริเวณยังแห้งแล้งปราศจากต้นไม้แม้เพียงสักต้นหนึ่ง
ประจวบเหมาะเจ้าของใหม่ก็ย้ายมาจากบ้านที่เคยมีสวนขนาดใหญ่เสียด้วย สองสามีภรรยาจึงต้องการปลูกต้นไม้บนดาดฟ้า ให้เขียวขจีและแลดูอ่อนโยนเป็นที่พักพิงได้สบายๆ แต่เธอก็รู้ดีว่าครั้งนี้ต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายคือวิธีการจัดสวนแบบ ใหม่โดยสิ้นเชิง นักออกแบบสวนคนเก่งอย่าง Charlotte Rowe จึงต้องยื่นมือเข้ามามีบทบาทอย่างสำคัญ
เมื่อรับฟังความต้องการของลูกค้าแล้ว Charlotte จึงต้องเขียนแบบแปลนใหม่เพื่อเปลี่ยนแปลงพื้นที่ว่างที่มีอยู่นี้ใหม่ทั้งหมด ถ้ามองจากตัวแฟลตผ่านกระจกบานสูงจากพื้นจดเพดานขึ้นมาที่บริเวณเทอร์เรซชั้นหกนี้จะเห็นได้ว่า ดาดฟ้าต้องทำหน้าที่เหมือนสวนที่จัดแสดงถาวรตลอดทั้งปี จึงจำเป็นต้องจัดและตกแต่งให้สะดุดตาน่ามองอยู่ตลอดเวลา
งานแรกของ Charlotte คือ ปลูกเรือนไม้เลื้อยรูปทรงทันสมัยสร้างด้วยไม้ซีดาร์ขึ้นมาเพื่อทำให้พื้นที่ดาดฟ้ารูปทรงสี่เหลี่ยม มุมฉากแลดูแข็งทื่อนั้นหายไป เรือนไม้เลื้อยนี้นอกจากจะเป็นหลัก ให้เถาไม้เลื้อยสวยงามแล้ว ยังเป็นเหมือนห้องอาหารกลางแจ้งไว้นั่งสังสรรค์ยามเย็นได้อย่างวิเศษ
โครงสร้างของไม้ซึ่งตั้งตรงขึ้นนี้ให้ทั้งความรู้สึกของการมีขอบเขตและกรอบโครงได้เป็นอย่างดี ดังนั้น จึงไม่ทำให้รู้สึกว่าบริเวณเทอร์เรซนี้ยุ่งเหยิงระเกะระกะ แต่กลับช่วยให้รู้สึกเหมือนมีพื้นที่กว้างขึ้นจากการที่ต้อง "เดิน" จากมุมด้านหนึ่งไปยังมุมอีก ด้านหนึ่งนั่นเอง
องค์ประกอบอื่นๆ ที่ช่วยสร้างภาพลวงตาให้รู้สึกเหมือนทั่วบริเวณกว้างใหญ่กว่าที่เป็นอยู่จริงก็คือ การติดตั้งกระจกฉาบสีบรอนซ์ขนาดมหึมา 2 บานซึ่งสะท้อนภาพของท้องฟ้ามาเป็นฉากหลังได้งดงามราวภาพวาดก็ไม่ปาน ส่วนกระถางต้นไม้นั้นเล่า ทำด้วยเหล็กชุบด้วยไฟฟ้าขนาดต่างๆ กัน กระถางทุกใบทาสีเดียวกันหมดคือสีกากีเข้มกลมกลืนกับตัวดาดฟ้า
ผลลัพธ์คือความสวยงามทันสมัยเจริญตาเจริญใจยิ่ง Charlotte ให้ข้อคิดตามความชำนาญว่า
"งานสร้างเทอร์เรซบนหลังคามีความยุ่งยากซับซ้อนเชิงเทคนิคทั้งนั้น มันเหมือนภูเขาน้ำแข็งเราดีๆ นี่เอง คือสองในสามของเนื้องานจะอยู่ใต้พื้นผิวซึ่งคุณจะไม่มีวันได้เห็นเลย"
ข้อจำกัดสำคัญของการสร้างเทอร์เรซอยู่ที่น้ำหนัก จะต้องคำนวณน้ำหนักไม่ให้มากจนเกินไป โดยเฉพาะในส่วนของดินปลูกต้นไม้ซึ่งถือว่าเป็นองค์ประกอบที่มีน้ำหนักมากที่ สุดของเทอร์เรซบนหลังคา และการคำนวณน้ำหนักต้องทำขณะดินเปียกด้วย จึงต้องใช้วัสดุน้ำหนักเบาสามารถระบายน้ำได้ดีปูรองไว้ข้างใต้ดินในกระถาง ทุกใบเพื่อให้น้ำหนักโดยรวมลดลง จากนั้นหุ้มด้วย polystyrene ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นฉนวนในฤดูหนาวและช่วยให้ต้นไม้เย็นในช่วงหน้าร้อนด้วย
ถัดจากนั้นเจ้าของก็ตั้งใจทำสวนบนดาดฟ้าให้ได้ กระถางทุกใบจะต้องลงต้นไม้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อคานกับความ แข็งทื่อของไม้ เหล็ก และกระจก ซึ่งเป็นโครงสร้างหลักโดยเน้นพวกไม้ยืนต้นและหญ้าที่มีความทนทานเป็นพิเศษ
เพราะเทอร์เรซบนหลังคาจัดว่ามีภูมิอากาศเฉพาะตัวเอามากๆ ต้นไม้ที่ปลูกบนนั้นต้องสามารถทนทานต่ออุณหภูมิสูงเหมือนอยู่ในเตาอบในช่วง ฤดูร้อนได้ รวมทั้งต้องยืนหยัดต้านทานกระแสลมแรงในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวได้เป็น อย่างดีด้วย ในกรณีนี้ต้นมะกอกทำหน้าที่ได้อย่างวิเศษสุด โดยปลูกเป็นแนวดึงดูดสายตาจากประตูห้องนั่งเล่นไปจนถึงอีกด้านหนึ่งของ เทอร์เรซ นอกจากนี้ ไม้เลื้อยอย่าง Trachelospermum jasminoides ซึ่งมีสีเขียวตลอดทั้งปีก็เหมาะกับสภาพภูมิอากาศหฤโหดบนหลังคาอีกชนิดหนึ่ง
บริเวณอีกมุมหนึ่งของเทอร์เรซจัดให้เป็นที่นั่งเล่นอย่างไม่เป็นทางการ อีกจุดหนึ่งซึ่งสามารถนั่งอย่างสบายอารมณ์และเคลิบเคลิ้มกับกลิ่นหอมของ สมุนไพรหลากชนิดที่ปลูกไว้โดยรอบไม่ว่าจะเป็นสะระแหน่ ไธม์ ออริกาโน และคาโมไมล์ แถมยังเพลินตากับไม้ยืนต้นที่พลิ้วไหวกิ่งก้านอย่างอ่อนโยนยามต้องแรงลมด้วย
ยามค่ำคืน สวนสวยแห่งนี้กลับมีชีวิตชีวาอีกแบบหนึ่งเพราะระบบการจัดไฟอันน่าทึ่ง โดยตามไฟ uplighters สีทองให้สาดส่องไปที่ต้นมะกอกทำให้กิ่งก้านที่มองดูเหมือนงานประติมากรรมฝีมือชั้นเลิศดูโดดเด่นขึ้นอีก ส่วนไฟดวงเล็กๆ สีฟ้าหมือนแก้วคริสตัลของสวารอฟสกีก็ช่วยดึงสายตาจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง ได้อย่างน่าพิศวง
เมื่อเวลาโพล้เพล้ย่ำค่ำมาเยือน ผู้ที่อยู่ในสวนบนดาดฟ้าจะเกิดความรู้สึกคุ้นเคยอบอุ่นมากขึ้น ในเวลาเดียวกันแสงสียามค่ำคืนที่อยู่เบื้องล่างของกรุงลอนดอนก็คอยเตือนใจอยู่เสมอว่า คุณยังอยู่ใจกลางนครใหญ่อยู่นะ
|
|
|
|
|