Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา พฤษภาคม 2553
เจาะทวีตภพ @dc_danai เปิดพื้นที่สีขาวท่ามกลางม็อบแดง             
โดย สุปราณี คงนิรันดรสุข
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท ดีซี คอนซัลแทนส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด

   
search resources

ดนัย จันทร์เจ้าฉาย
Advertising and Public Relations
ดีซี คอนซัลแทนส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง คอมมูนิเคชั่น, บจก.




ผลกระทบหนึ่งเดือนเต็มจากการชุมนุมม็อบเสื้อแดงที่ยึดแยกราชประสงค์-ราชดำริ-ราชปรารภ ทำให้ดนัย จันทร์เจ้าฉาย เจ้าของบริษัท DC Consultant ธุรกิจที่ปรึกษาด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์ ได้รับผลกระทบโดยตรงทั้งเรื่องงานและชีวิตส่วนตัว เพราะบ้านและบริษัทของเขาตั้งอยู่ที่เดียวกับที่ม็อบเสื้อแดงชุมนุมอยู่นั่นเอง!

ดนัยเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่รู้จักใช้ Social Media ทั้ง twitter และ Facebook สร้างเครือข่ายและพื้นที่กิจกรรมสังคมได้อย่างทรงพลังคนหนึ่งในสังคมออนไลน์ ขณะนี้ ในทวีตภพของเขามีผู้ติดตามเขา (Follower) 5,616 ราย ประกอบด้วยผู้นำทางความคิดทางสังคมการเมืองธุรกิจและสื่อมวลชน รวมทั้งคนทั่วไปหลากสีต่างความคิด ถือว่าเป็นชุมชน Social Network ที่แข็งแรง จากฐานแฟนคลับดนัยที่นิยมแนวคิดเชิงบวกให้เกิดพลังสุข สงบและสันติ ที่มีอยู่ในสื่อและกิจกรรมของสำนักพิมพ์ DMG และโครงการสังคมสีขาว White Ocean Society (#wos) นอกเหนือ จากเว็บไซต์ www.thailoveking.com ที่ประสบความสำเร็จแสดงพลังรักในหลวงด้วยการน้อมถวายความจงรักภักดีถึง 43,949,165 ดวง (ณ วันที่ 25/4/2553)

"ผมใช้ชื่อ dc_danai ทั้งใน twitter และ Facebook แต่ตอนนี้ในเฟซบุ๊กแซงทวีตเตอร์ไปแล้ว เพราะมีสองแอคเคาน์รวมกัน 7,800 รายมากกว่าทวีตเตอร์ที่มี 5,600 กว่าราย แต่ผมจะชอบใช้ twitter มากกว่า เพราะกระชับและเป็นข้อความสั้นๆ ที่เรียกว่าคำสั้นบรรลือโลก แบบไม่ต้องพูดมาก มี keyword พูดปุ๊บเห็นภาพได้เลย" หากค้นทวีตภพจากไทม์ไลน์ (TL) ของ @dc_danai จากอดีตถึง 25/4/2010 ทั้งหมด 16,457 ข้อความ จะพบว่าเขาช่างขยันตอบ reply ทุกทวีต นับร้อยต่อวันและเชิญชวนทำบุญปล่อยปลาจำนวนมากทุกวันอาทิตย์ พร้อมกับคติพจน์ที่เขียนไว้ว่า "ขอมีความสุขทุกลมหายใจเข้าออก I'm a person who always finds peace & happiness with every breath he takes"

แต่หลังจากวันที่ 4 เมษายนที่แกนนำปักหลักยึดแยกราชประสงค์-ราชดำริ-ราชปรารภ วิถีชีวิตปกติของเขาถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพ จากเสียงดังรบกวนด้วยเครื่องกระจายเสียงทั่วบริเวณ และทุกครั้ง ที่เขาต้องผ่านด่านตรวจค้นจากการ์ด นปช. ซึ่งไม่ใช่ ตำรวจ ตัวอย่างเช่น

RT@dc_danai โอ้โห ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลสุดๆ เลย จะเข้าบ้านเราเองแท้ๆ ยังมาค้นเราอีก

RT@UnseenPattaya: RT@dc_danai: เสื้อแดงราชประสงค์ส่งเสียงดังมากตอนนี้//คุณดนัยเก่งมากที่อดทน ตัวอย่างที่ดีของสังคม/เขาสอนให้เรามีขันติ 12:01 AM Apr 23rd via Seesmic

RT@dc_danai เหตุการณ์ความชิงชังเช่นนี้ ระงับได้ด้วยกระแสเย็นแห่งความเมตตา ช่วยกันสวดมนต์ แผ่เมตตาให้ทุกดวงจิต #fb #whiteheart12:06 AM Apr 23rd via Seesmic

ผลกระทบที่รบกวนวิถีปกติคนส่วนใหญ่นี้เอง ทำให้เขาอด ไม่ได้ที่จะเริ่มทวีตข้อความที่ผิดแผกไปบ้างจากเดิม ซึ่งจะเห็นแนวคิดที่เขายืนยันว่า "สีขาวไม่ใช่ใสซื่อ ไร้จุดยืน" ที่วิเคราะห์สิ่งที่เห็นและเป็นอยู่ของการชุมนุมครั้งนี้ด้วยประสบการณ์ตรง และทวีตถึงเครือข่ายนักธุรกิจให้ร่วมรับรู้

"ผมอยากจะสื่อสารเหตุการณ์ด้วยความจริง เพราะ Social Media เปิดโอกาสให้เรารับบทบาทเป็นนักข่าวพลเมืองได้จริงๆ เราก็ไปช่วยเก็บรูปให้คุณเบนซ์แห่งพารากอนและคุณวิกกี้ที่เพิ่งเข้ามาร่วมด้วย เพราะมันคือชีวิตประจำวันของเรา ตอนเช้า-เย็นเราก็เดินไปเดินมาจากบ้านมาออฟฟิศ พอค่ำก็กลับบ้าน คนก็เป็นห่วงทวีตมาเตือนผมว่าคุณดนัยไปทำอะไร? นี่ไม่ใช่งานกาชาดนะ (หัวเราะ) ออกมาเดี๋ยวนี้! ตอนแรกผมใส่เสื้อสีขาวจั๊วยืนถ่ายรูปหน้าเวทีม็อบ เขาก็มองแบบเคืองๆ แต่ตอนหลังเรายิ้ม เขาก็ยิ้มให้ แต่พนักงานของผมบางคนไปเดินแถวนี้ เค้าไม่ได้เป็นแดงก็ไม่รับของแจก เขาก็ด่าหยาบๆ คายๆ ว่ามึงมาเดินทำไม? เราก็บอกลูกน้องว่าไม่เป็นไร อย่าไปตอบโต้เขา อดทนไว้" ดนัยเล่าให้ฟัง

"หลังจากเราคลุกคลีกับผู้ชุมนุมระยะหนึ่ง ก็เห็นสัจธรรม ที่ชัดเจน พวกเขามาด้วยความหวังและความต้องการบางอย่างที่ไม่เป็นจริง การปฏิเสธความจริงก็คือการปฏิเสธธรรมะ เหมือนเขาอยู่ในโลกมายา สิ่งที่พวกเขาย้ำลงไปในจิตสำนึกของผู้ชุมนุม ที่ผมได้ยินบ่อย มากคือ พวกเราชนะแล้วๆ พวกเราสันติ สงบ สันติ อหิงสา รัฐบาลมันเหี้ยมโหด จะฆ่าประชาชน และที่เขาเรียกร้องประชาธิปไตย ซึ่งต้องรู้จักสิทธิหน้าที่ตัวเองก่อน แต่เขาละเมิดสิทธิเสรีภาพคนอื่น สร้างความเดือดร้อนคนในละแวกนี้เป็นหมื่นคน แต่ถ้าถามว่าผมทุกข์ไหม ผมไม่ทุกข์ ผมยังสามารถอยู่ร่วมกับเขาได้ ถ้าถามว่าธุรกิจเสียหายไหม?... เสียหายครับ"

ความเสียหายที่ประเมินผลจากม็อบแดงชุมนุมที่ศูนย์กลางธุรกิจ พบว่า ธุรกิจใหญ่น้อยที่ได้รับผลกระทบรุนแรง ได้แก่ โรงแรม 13 แห่ง ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ 5 แห่ง ธนาคารพาณิชย์ 11 แห่ง 30 สาขา ร้านค้าใหญ่น้อยในเขตปทุมวัน 7,012 แห่ง ที่มีลูกจ้าง 114,704 คน ส่วนในย่านราชดำริ-เพลินจิตมีอีก 3,395 แห่ง ที่มีลูกจ้าง 63,601 คนที่เดือดร้อน คาดการณ์ว่าการสูญเสียทางเศรษฐกิจอาจหนักถึง 50,000 ล้านบาท

"แรกๆ เวลาผมทวีตออกไป ผมจะโดนต่อว่าจาก redtweet ว่า ให้หุบปาก, มันทุเรศ, คุณมีข้อมูลพอแล้วหรือจึงมาตัดสิน?...ทวีตแบบนี้เข้ามาเยอะมาก ด่าหยาบคายก็มี ผมไม่ตอบโต้แต่ตอบสุภาพกลับไปด้วยทวีตให้เปิดใจให้กว้าง วางอคติลง อย่าเพิ่งตัดสิน อย่าเพิ่งพิพากษา ทำใจให้ว่างๆ ไว้ก่อน เขาก็หายไปเลย ผมไม่ด่า เพราะผมจะเตือนตัวเองว่า เกิดเป็นมนุษย์ เราไม่แข่งกันต่ำ แต่เราจะแข่งกันสูง ใครจะต่ำก็ต่ำ ไป นอกจากนี้ ดนัยยังเล่าให้ฟังถึงสิ่งที่เกิดขึ้นว่า "หลังจากมีการเมืองก็มีการ retweet เยอะขึ้น มีบางคนมาขอ unfollow ผมก็ตอบกลับว่าไม่เป็นไรครับ จะ follow หรือ unfollow ผมเป็นคนไทยและผมรักในหลวงสุดหัวใจ ผมยินดีต้อนรับทุกคน แม้จะรู้ว่าเขาเป็นแดง ผมก็ add และด่าผมอย่างก้าวร้าว ผมก็ไม่ได้ unfollow ผมไม่ตอบโต้"

นอกจากข้อความทวีตแล้ว ดนัยยังใช้ iPhone ถ่ายรูปเก็บภาพ Behind the scene บรรยากาศและวิถีชีวิตประจำวันของผู้ชุมนุมเสื้อแดงที่แยกราชประสงค์ด้วย ภาพเหล่านี้ได้ถูก retweet ต่อๆ กันเป็นลูกโซ่ โดยเฉพาะสื่อมวลชนก็ได้นำไปอ้างถึงก็มี

"สังเกตว่าเวลาเราทวีตถึงเหตุการณ์ที่ราชประสงค์ จะคนเข้ามากกว่าปกติซึ่งเดิมมีประมาณ 100-200 คน แต่พอโพสต์รูปการชุมนุมของเสื้อแดง ก็จะมีคนติดตามผม สูงมากเป็นสองเท่าหรือประมาณ 500 คนต่อวัน ผมคิดว่า คนกำลังสนใจว่าเกิดอะไรขึ้นตรงนี้ เช่น แรกๆ อยากรู้ว่าม็อบเขาอาบน้ำตรงไหน กินข้าวตรงไหน และโรงครัวอยู่ที่ไหน ผมก็ไปเดินหาดูก็พบว่าโรงครัวอยู่หน้าบ้านเรานี่เอง! ภาพที่ผมถ่ายจะซูมไม่ได้ ถ้าต้องการภาพชัด ก็ต้องเดินไปใกล้ๆ เลย มีคนทวีตเตือนผมว่าต้องระวังแล้วนะ เพราะผมไม่ปิดบัง Avatar ก็มี แต่ฝั่งตรงข้ามเขาจะทวีตแบบปิดบังตัวหมดทั้งหน้าตาและชื่อเราก็ไม่รู้ คนเราถ้าบริสุทธิ์ใจจะปิดบังทำไม?" ดนัยให้ข้อสังเกตและเล่าให้ฟังว่า

"ที่ผมแปลกใจคือในม็อบนี้มีแฟนคลับของผมด้วยนะ ตอนแรกเขาก็ปลาบปลื้มกอดกันถ่ายรูปอย่างดีที่หน้าพารากอน พอคุยกันเขาก็บอกว่าเสื้อเหลืองมันปิดสนามบิน ผมก็ถาม เขาว่าทำไมต้องอ้างเสื้อเหลืองด้วย ผมไม่เหลืองไม่แดง ผมเป็นคนไทย คุณจะมาปิดโน่นปิดนี่ ไม่ได้ เขาก็ไม่ฟัง ผมก็เดินหนีเขามา เขาก็เดินตามมาขอให้เราลบรูปเขา"

เหตุการณ์นี้ดนัยบอกว่า เขาเห็นอคติ 4 ที่ทำให้คนเราแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ไม่สามารถเปิดรับความจริงได้ เพราะว่าอคติที่เกิดจากความชัง-ชอบ-เกลียด-กลัวอย่างสุดขั้ว จนยากมาก ที่จะคลายกรรมที่ผูกพันสัญญาเก่าให้คลายลง

"ผมอยากบอกสังคมว่า มันจะไม่มีวันจบ ถ้ามองแค่สีเสื้อ ใส่สีนี้ไม่ชอบเกลียด นี่จะเป็นบาดแผลเราไปตลอด แล้วจากที่ผมได้สัมผัสตรงนี้ แรกๆ ที่เครียดดูจากรูปแรกที่ผมใส่เสื้อทำงานสีขาวปกติกลางม็อบ ตอนหลังผมยิ้มให้การ์ด ที่ไม่ยอมให้ผมเข้าบ้าน ซึ่งเป็นการทำลายกำแพงสีเสื้อ ได้ดีที่สุด" ที่สุดของมนุษย์ที่ดนัยเน้นคือธรรมะนั่นเอง

นี่อาจจะเป็นสันติวิธีที่ดนัยทำได้ แต่ในค่ำคืนหนึ่งในทวีตภพ @dc_danai ได้รับการขอร้องให้ที่พักพิงแก่ @iNattt จิวเวลรี่ดีไซเนอร์, vocalist ของวงดนตรี iHear และ Manager Fashion Designer ซึ่งได้รับผลกระทบจากม็อบทำให้สูญเสียงาน 12 งาน และเงินกว่า 350,000 บาท เขาทวีตรูปและเขียนความเห็น ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวว่า "แดงเหลืองผมไม่รู้..แต่กูรักในหลวง!!!" ที่น่าติดตาม ขณะเขาลงไปในพื้นที่ชุมนุมม็อบเสื้อแดงที่แยกราชประสงค์ตั้งแต่บ่ายสามจนถึงห้าทุ่ม จนกระทั่งเกิดทวีตที่เป็นวิวาทะระหว่างเขากับคู่ขัดแย้งฝ่ายแดงยกตัวอย่าง

23:10:24 @iNattt RT@dumbbellism: @iNattt แมนๆ หน่อย นายอยู่ตรงไหน? ให้การ์ดผู้หญิงไปรับก็ได้<ผมแมนพอที่ได้ไปวันนี้ข้างเวทีตั้งแต่บ่าย 3 จนถึง 4 ทุ่มครับ # 23:11:16 @nopadnomark RT@iNattt: @dumbbellism ข่มขู่ผมใช่มั้ยครับ //เอาน่า 2 ท่านค่อยๆคุยกัน น่าจะเพียงพอแล้วสำหรับความเข้าใจผิดกันคืนนี้" # 23:11:17 @dumbbellism@iNattt นายนี่พูดไม่รู้เรื่อง กำลังให้คนไปเชิญมานั่งฟังด้านใน ลองมาแลกเปลี่ยนกับแกนนำ หรือสื่อมวลชนข้างใน ไม่ใช่ข่มขู่ ให้ฟังรู้เรื่องหน่อย"

เหตุการณ์นี้สามารถติดตามอ่านไทม์ไลน์ของ @iNattt ได้จาก http://www.lab.in.th/23/mention-inattt-2010-04-16 จะเห็นคนดังใน twitter ติดตามและ mention ด้วยความเป็นห่วงเพิ่มขึ้นๆ เป็นวงกว้างถึง 882 ทวีตและส่งผลให้คน follow @iNattt เพิ่มพรวดสองเท่าตัว ถึง 2,000 กว่าราย นี่คือปรากฏการณ์ที่สะท้อนถึงพลัง Social Network ที่เป็นรูปธรรมหนึ่ง นอกเหนือจากปรากฏการณ์ม็อบ Facebook ที่มีพลังการเมืองฉับไวและแสดงจุดยืนในสังคมที่ชัดเจน

"ผมคิดว่าน่าจะมีนักธุรกิจเข้าใน Social Media เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม ขณะที่ทางรัฐบาลก็เข้ามาอยู่แล้ว ทั้งนายกฯ อภิสิทธิ์ คุณกอร์ปศักดิ์ คุณสาทิตย์ คุณกรณ์ คุณอภิรักษ์ ซึ่งแอคทีฟพอควร และผมคิดว่าทางสื่อมวลชนทั้งทีวี วิทยุ และหนังสือพิมพ์ก็โปรโมตเครื่องมือทั้ง twitter และ Facebook บ่อยๆ ทำให้คนสนใจและสร้างกระแส demand มากขึ้นๆ" นี่คือปรากฏการณ์ที่ดนัยมองเห็น

ถึงบรรทัดนี้ Social Network จะเป็นเครื่องมือพัฒนาเปิดพื้นที่ ในใจให้รับความหลากหลายทางความคิดหลากสีที่ปะทะ ขัดแย้ง สังสรรค์ และร่วมกัน ให้เป็นประชาธิปไตยที่ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพที่ต้องมีความรับผิดชอบและจะยุติความขัดแย้งลงได้อย่างไร? หรือจะเพิ่มอัตตาธิปไตยที่มีผู้นำที่พาฝูงโคเดินลงน้ำหมด!!

หมายเหตุ :
ที่มาของภาพประกอบเรื่องนี้นำมาจากทวีตเตอร์ @dc_danai   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us