|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2553 ตัวแทนเวียดนามและสหรัฐอเมริกาได้ลงนามความตกลงฉบับหนึ่ง ที่มองกันว่าอาจจะเปิดทางให้บริษัทอเมริกันช่วยเวียดนามก่อสร้างโรงงานนิวเคลียร์ เพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น
ความตกลงใหม่พูดถึงปัญหาความปลอดภัยนิวเคลียร์และความกังวลเกี่ยวกับปัญหาการแพร่กระจายนิวเคลียร์
สำนักข่าว AP กล่าวว่า ในพิธีลงนามกับเล ดิ่ญ เตี๊ยน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนั้น Michael Michalak เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำเวียดนามกล่าวว่า "นี่เป็นเวลาสำคัญในความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างสองชาติ"
ขณะที่สำนักข่าวเวียดนามอ้างคำพูดเตี๊ยนว่า "วัตถุประสงค์ หนึ่งเดียวของเวียดนามคือใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อจุดหมายสันติภาพ รับประกันความปลอดภัย ความมั่นคงและต่อต้านการแพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์"
ในพิธีลงนาม Michalak ได้กล่าวว่าในเดือนเมษายน เหงียน เติ๊น หยุง นายกรัฐมนตรีเวียดนามจะเข้าประชุมสุดยอดเกี่ยวกับความมั่นคงนิวเคลียร์ที่ กรุงวอชิงตัน โดยมีประธานาธิบดี Barack Obama เป็นประธาน
Michalak ให้ความเห็นว่าเอกสารบันทึกความจำครั้งนี้ จะเป็นพื้นฐานเพื่อก้าวสู่การเจรจาระดับรัฐบาลเกี่ยวกับปัญหาการใช้ นิวเคลียร์สำหรับจุดหมายสันติภาพระหว่างสองประเทศ
ในขณะที่ AP อ้างคำพูดของ Michalak ว่าต้องเสียเวลา 6 เดือน-1 ปี เพื่อให้ 2 ฝ่ายถกแถลงเกี่ยวกับความตกลงต่างๆ ทั้งทางกว้างและทางลึกเพื่อเปิดทางให้บริษัทอเมริกาเข้าร่วมในขอบเขตพลังงานนิวเคลียร์ของเวียดนาม
ตามสถิติความต้องการพลังงานของเวียดนาม คาดว่าจะเพิ่มขึ้นปีละประมาณ 16% ตั้งแต่ปัจจุบันจนถึงปี 2558 ก่อนหน้านั้นเวียดนามลงนามความตกลงร่วมมือด้านพลังงานนิวเคลียร์กับรัสเซีย จีน ฝรั่งเศส เกาหลีใต้ อินเดีย และอาร์เจนตินา
เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2552 รัฐสภาเวียดนามอนุมัติโครงการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ 2 แห่งในจังหวัดนิญเถวิ่น
ในช่วงปี 2552 เวียดนามก็ได้ลงนามความตกลงฉบับหนึ่งกับรัสเซีย โดยมีบริษัทหนึ่งของประเทศนี้ ที่จะช่วยเวียดนามก่อสร้างโรงงานแห่งแรก คาดว่าจะเริ่มต้นในปี 2557 และจะแล้วเสร็จในปี 2563
ขณะที่สำนักข่าว Bloomberg ได้อ้างคำพูดของ Yukio Hatoyama นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ซึ่งกล่าวกับผู้สื่อข่าวที่กรุงโตเกียว เมื่อวันพฤหัสที่ 1 เมษายน ว่าเขาได้รับจดหมายฉบับหนึ่งจาก เหงียน เติ๊น หยุง นายกรัฐมนตรีเวียดนาม เกี่ยวกับการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์
ก่อนหน้านั้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2553 นายกรัฐมนตรี Hatoyama ได้ส่งจดหมายฉบับหนึ่งให้นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ขอให้ปฏิบัติตามสัญญาก่อสร้างโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์มูลค่า 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
Hatoyama กล่าวว่าในจดหมายที่ตอบกลับมา นายกรัฐมนตรีเวียดนามกล่าวว่าประเทศของเขาจะ "พิจารณาอย่างระมัดระวังและรอบคอบ" ในการใช้เทคโนโลยีของญี่ปุ่นเพื่อก่อสร้าง 2 ใน 8 โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เวียดนาม
รัสเซียจะก่อสร้างโรงงาน 2 แห่งที่ได้รับอนุมัติจากรัฐสภาเมื่อเดือนพฤศจิกายน และญี่ปุ่นกำลังแข่งขันเพื่อให้สามารถชนะประมูลอีก 2 โรงงานต่อไป
รายงานข่าวภาษาอังกฤษของหนังสือพิมพ์ Nikkei ซึ่งตีพิมพ์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ บอกว่าบริษัท Toshiba Corp., บริษัท Mitsubishi Heavy Industries Ltd. และบริษัท Hitachi Ltd. ได้เข้ามาประมูลโครงการต่างๆ ในเวียดนาม
|
|
|
|
|