Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา พฤษภาคม 2553
ชาลอต โทณวณิก: “All I do...is quit”             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท มีเดีย ออฟ มีเดียส์ จำกัด (มหาชน)

   
search resources

มีเดีย ออฟ มีเดียส์, บมจ.
ชาลอต โทณวณิก
มีเดีย สตูดิโอ, บจก.




"การทำงานในฐานะผู้บริหารมืออาชีพจะต้องไม่ยึดติดกับลาภยศสรรเสริญหรือหลงใหลในความสำเร็จ จึงอยากจะเลือกทางเดินเองว่าจะขอไปทำงานที่เป็นของตัวเอง เกรงใจคุณสุรางค์ (คุณแดง) มากเพราะถูกมองว่าจะมาแทนที่ ถูกหาว่ามีปัญหากับคุณแดงมาโดยตลอด...การลาออกของดิฉันก็พิสูจน์ว่า ดิฉันไม่ได้มีความคิดอยากจะเป็น "เจ้าแม่" ใดๆ หรือแทนที่ใครตามที่ถูกจับตาและปฏิเสธมาตลอด (แต่ไม่ค่อยมีใครเชื่อ)"

ข้างต้นเป็นข้อความเปิดใจเรื่องการลาออกจากเก้าอี้ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท มีเดีย สตูดิโอ จำกัด ของชาลอต โทณวณิก ซึ่งทยอยปรากฏบนหน้าทวีตเตอร์ของเธอ เมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา ก่อนหน้าการแถลงข่าวเรื่องเดียวกันนี้ไม่นาน

แม้ว่าข่าวการยื่นใบลาออกของเธอจะมีมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ แต่หลังจากนั้นเธอก็ไม่ยอมปริปากยอมรับหรือปฏิเสธ ถึงขนาดสรรหามุกมาใช้ปลีกตัวเพื่อหลบเลี่ยงการตอบคำถามนักข่าวในงานแถลงที่มีเดียฯ กับเอไอเอสเป็นเจ้าภาพ แล้วจึงส่งข้อความไปขอโทษที่ต้องฝ่าวงล้อมนักข่าวออกมาโดยไม่ลา

ไม่ว่าจะเกี่ยวกันหรือไม่ ช่วงเวลาไล่เลี่ยกับข่าวลือที่ว่า ผู้บริหารช่อง 7 อนุมัติใบลาออกของเธอแล้วก็ถูกนำมาผูกโยงอย่างเป็นเหตุเป็นผลกับข่าวการเข้าโรงพยาบาลของเธอ

ความอึดอัดจากการที่ไม่สามารถตอบคำถามนักข่าว ซ้ำยังต้องหนีหน้าอย่างหนัก ไม่ใช่วิสัยปกติของชาลอต เพราะครั้งที่เธอยังอยู่กับแบงก์กรุงศรีฯ และควบตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการตลาดให้กับช่อง 7 ยามนั้น เธอออกหน้าให้ข่าวกับสื่อมวลชนบ่อยราวกับควบเก้าอี้โฆษกช่อง 7 อีกตำแหน่ง

งานแถลงข่าวจัดขึ้น ณ เมเจอร์รัชโยธิน โดยใช้ชื่องานเก๋ไก๋ว่า All I Say...All I Do โดยประเด็นที่นักข่าวสนใจไม่ใช่การประกาศลาออก แต่เป็นการเปิดใจถึงสาเหตุที่แท้จริงและก้าวต่อไปจากนี้

ชาลอตเกริ่นนำว่า ใบลาออกของเธอเขียนขึ้นด้วยความสมัครใจ ยื่นไว้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ และมีผลตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน นี้

"ในระยะเวลาไม่ใช่แค่ 3 ปี แต่จริงๆ 7 ปี ที่ได้ทำงานร่วมกับช่อง 7 มาตั้งแต่อยู่แบงก์กรุงศรีฯ ก็เคยเป็นที่ปรึกษาด้านการตลาดช่อง 7 คือไม่ว่าจะอยู่ตรงไหน พี่ก็เกรงใจคุณแดงมากๆ เพราะทุกคนจะมองว่าพี่จะไปแทนคุณแดง จะไปเป็นเจ้าแม่ มีความขัดแย้งกัน ไม่ถูกกัน เรื่องเหล่านี้ไม่เคยมี แต่บางครั้งอาจจะมีบ้างที่นโยบายที่บอร์ดวางมา กับที่เราต้องการอยากให้เป็นไป มันไม่ไปด้วยกัน พอถึงจุดนี้ก็มองว่า เราน่าจะมอบลูกให้เขาไป แล้วเราเองก็ไปทำด้านอื่น"

ในที่สุด ชาลอตก็ยอมเปิดใจ หลังจากที่ถูกสื่อมวลชนถามบ่อยครั้งว่า "ลาออกเพราะมีปัญหาขัดแย้งกับสุรางค์ เปรมปรีดิ์ (คุณแดง) หรือไม่?"

พร้อมกันนี้ เธอยังปฏิเสธว่า การลาออกครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวกับผลการดำเนินงานที่อาจไม่เป็นไปความคาดหมายของบอร์ด เพราะตลอด 3 ปีที่ดำรงตำแหน่ง CEO รายได้ของรายการที่มีเดียฯ ผลิตเติบโตต่อเนื่อง โดยปี 2550 มีรายได้ 676 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2549 ซึ่งมีรายได้ 607 ล้านบาท ขณะที่ปี 2551 รายได้เพิ่มเป็น 742 ล้านบาท และปีที่ผ่านมามีรายได้ถึง 843 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี หลังจากออกจากรั้ว 7 สี ชาลอตตั้งใจจะเปิด บริษัทที่ปรึกษาเล็กๆ รับปรึกษาธุรกิจด้านการเงิน การตลาด และธุรกิจบันเทิง ดูเหมือนว่า ก้าวต่อไปของชาลอตก็ยังคงดำเนินไปบนเส้นทางชีวิตที่เธอหวังไว้ตั้งแต่วันที่เดินออกจากแบงก์กรุงศรีฯ เข้าสู่ถนนสายบันเทิงใหม่ๆ เพียงแต่แผนนี้มาเร็วกว่ากำหนดเกือบ 7 ปี เพราะเธอเคยหวังว่าจะเปิดบริษัทของตัวเองเมื่อวัยเกษียณหรือหลังจาก 10 ปีที่มีความสุขกับมีเดียฯ

เสร็จภารกิจแถลงข่าว ชาลอตเข้ามาบรรยายความรู้สึกและตอบข้อความที่ผู้ให้กำลังใจส่งผ่านหน้าทวีตเตอร์อย่างต่อเนื่อง จนล่วงมาถึงวันที่ 30 เมษายน

วันที่เธอประกาศบนทวีตภพว่า เป็นวันสิ้นสุดชีวิตการเป็นลูกจ้าง มุ่งไปข้างหน้า จะมองหลังก็คือมองลูกน้องว่าสุขสบายกันดีหรือไม่ ...และอยากเดินจากมาด้วยเสียงหัวเราะรอยยิ้มมากกว่าน้ำตา

พร้อมกับข้อความส่งถึงผู้ให้กำลังใจเธอว่า "It's life but not end of world!"   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us