แม็คโคร กัดฟันสู้ ไม่ถอย เดินหน้าแผนเดิมไม่ปรับแผน อัดงบ 2,000 ล้านบาท เปิด 4 สาขาใหม่ปีนี้ พร้อมรีโนเวต วางระบบจัดซื้อใหม่ แต่ยอมรับภาพรวมเศรษฐกิจกระทบจากม็อบเสื้อแดง มั่นใจสิ้นปีนี้ยังโต 6%

นางสุชาดา อิทธิจารุกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัญหาความขัดแย้งด้านการเมืองที่เป็นอยู่นี้ และจากการก่อม็อบของกลุ่มเสื้อแดง ปฎิเสธไม่ได้ว่า ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของเศรษฐกิจทั่วประเทศ ส่งผลต่อการลงทุนโครงการใหญ่ที่ต้องชะลอออกไป หรือรุนแรงที่สุดคือยกเลิกการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นรายเก่าหรือรายใหม่ โดยเฉพาะภาคธุรกิจท่องเที่ยวที่เสียหายมาก และยังกระทบต่อการจ้างงาน และรายได้ของประชาชนในอนาคตด้วย

“ภาครัฐเองควรจะต้องมีการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อรักษาความสงบของบ้านเมืองเอาไว้ แม้ว่าความคิดเห็นจะมีความแตกต่างกันก็ตาม แต่ว่าทุกคนก็ต้องมีหน้าที่ในการเคารพกฎหมายบ้านเมืองด้วย”

อย่างไรก็ตามในส่วนของบริษัทฯเองนั้น ยังมีความเชื่อมั่นในระยะยาวต่อประเทศไทยยังมีการลงทุนต่อเนื่อง ไม่ลดงบประมาณลงทุน ไม่ลดพนักงน เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อแม็คโครมากเท่าใดนัก เนื่องจากว่าปัญหาความขัดแย้งและการปิดถนนจะอยู่ในใจกลางเมือง ส่วนแม็คโครเองนั้นมีสาขาเปิดบริการอยู่ในต่างจังหวัดมากกว่า 30 แห่ง และอยู่ในกรุงเทพฯและปริมณฑลเพียง 9 แห่ง ซึ่งไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุแต่อย่างใด แต่ว่าอาจจะมีกระทบเล็กน้อยในสาขาใกล้เคียงที่ต้องปิดบริการเร็วขึ้น 1 ชั่วโมงจากเดิม เพื่อความปลอดภัยของพนักงานและลูกค้า

โดยแผนการลงทุนปีนี้ยังเหมือนเดิมตามแผนงานที่วางไว้ แม้ยังคาดการณ์ไม่ได้ว่า ความขัดแย้งจะเป็นอย่างไรต่อไป และยืดเยื้ออีกหรือไม่ โดยแผนปีนี้จะใช้งบประมาณรวม 2,000 ล้านบาท โดยจะเปิดสาขาใหม่อีก 4 แห่ง และการปรับปรุงสาขาเดิม รวมทั้งการจัดซื้ออุปกรณ์ใหม่เพื่อทดแทนของเดิม ซึ่งตั้งแต่ต้นปีมาเปิดสาขาแล้ว 2 แห่ง คือที่กำแพงเพชรเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และที่กาญจนบุรีเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ขณะที่อีก 2 สาขาที่เหลือคือ ลพบุรี คาดว่าจะเปิดประมาณเดือนมิถุนายน และสาขาที่หนองคาย คาดว่าจะเปิดปลายปี ส่งผลให้สิ้นปีนี้จะมีสาขารวม 48 สาขา

นอกจากเปิดสาขาใหม่ รีโนเวตสาขาเดิมแล้ว ยังมีแผนที่จะวางระบบการจัดซื้อสินค้าใหม่ในกลุ่มอุปโภค เพื่อรองรับความต้องการของตลาดกลุ่มเป้าหมายร้านอาหาร ภัตตาคาร และงานจัดเลี้ยง หรือกลุ่มโฮเรก้า ให้มากขึ้น เพราะยอดขายในกลุ่มนี้เพิ่มสูงขึ้นมาก โดยสัดส่วนยอดขายมาจากกลุ่มนี้ประมาณ 17% จากยอดขายรวมของแม็คโคร

สำหรับผลประกอบการในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ บริษัทฯยังสามารถสร้างยอดขายเติบโตเป็นเลขสองหลัก และถือเป็นการเติบโตต่อเนื่องมาจากไตรมาสสุดท้ายปีที่แล้วด้วย เพราะเป็นช่วงการจับจ่ายของเทศกาลต่างๆ ทั้งปีใหม่ คริสต์มาส ตรุษจีน ส่วนยอดขายในเดือนเมษายนนั้น มีการเติบโตอยู่แต่ก็ลดลงเมื่อเทียบกับช่วง 3 เดือนแรก

ทั้งนั้ในสิ้นปีนี้บริษัทฯคาดว่าจะยังคงทำยอดขายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ด้วยการเติบโตไม่ต่ำกว่า 5.5-6% และจะมียอดขายโดยรวมประมาณ 78,000 ล้านบาท โดยหมวดที่มีการเติบโตต่อเนื่องคือ อาหารสด