|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
การบินไทยปรับแผนการตลาดสู้วิกฤติการเมืองในประเทศยืดเยื้อ หลัง 47 ประเทศเตือนนักท่องเที่ยวเข้าไทย และเป็นช่วงLow Season เล็งเปลี่ยนขนาดเครื่องบินให้เหมาะสมกับจำนวนผู้โดยสาร และเน้นใช้ไทยเป็นจุดเปลี่ยนเครื่อง เผยเม.ย. Cabin Factor เฉลี่ย 72.16 % ขณะที่เดือนพ.ค. 2553 มียอดจองประมาณ 52% เท่านั้น ตั้งเป้าปรับแผนดัน Cabin Factor ที่ระดับ 70%
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิดที่ประเทศไอซ์แลนด์ จนทำให้ประเทศยุโปรประกาศปิดน่านฟ้า และสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองภายในประเทศ ทำให้ 47 ประเทศ ออก Travel Warning เตือนนักท่องเที่ยวหลีกเลี่ยงการเดินทางมาประเทศไทย ทำให้ผู้โดยสารยกเลิกการเดินทาง ประกอบกับในช่วงเดือนพ.ค.–มิ.ย.ของทุกปีจะเป็นช่วง Low Season ซึ่งการเดินทางจะน้อยลง ดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะในปัจจุบัน บริษัทจึงได้ปรับแผนการตลาด เพื่อลดความเสี่ยงในการพึ่งพาจุดบินใดจุดบินหนึ่งมาเป็นการกระจายความเสี่ยงไปในหลายจุด ซึ่งจะทำให้การบินไทยมีความเข้มแข้งในระยะยาว
ทั้งนี้ ในช่วงเดือนเม.ย.2553 ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย 72.16 % ขณะที่เดือนพ.ค. 2553 มียอดจองประมาณ 52% เท่านั้น ซึ่งเป็นผลมาจากความไม่สงบทางการเมืองของไทย ดังนั้นการปรับแผนการตลาดก็เพื่อรักษาระดับ Cabin Factor ช่วง Low Season ไว้ที่ 70% และคาดว่าหากภายใน 1-2 วันนี้ สถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศยุติ Cabin Factor จะดีขึ้นอีก และจะส่งผลให้ช่วงไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้จะดีขึ้นไปอีก
“หลักการนอกจากปรับลดเที่ยวบิน เปลี่ยนแบบเครื่องบินให้สอดคล้องกับความต้องการเดินทางแล้ว ยังจะช่วยในกรณีที่หลายประเทศเตือนนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทย มาเป็นการใช้ประเทศไทยสำหรับเปลี่ยนเครื่องบินไปยังปลายทางอื่นแทน” นายปิยสวัสดิ์กล่าว
นายโชคชัย ปัญญายงค์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ การบินไทย กล่าวว่า แผนการตลาดที่ปรับใหม่ ประกอบด้วย ปรับลดความถี่และเปลี่ยนแบบเครื่องบิน เส้นทางกรุงเทพ-เอเธนส์ (ไป-กลับ) จากเดิม 4 เที่ยวต่อสัปดาห์ ด้วยเครื่องบินแบบโบอิ้ง 777-300 เหลือ ทำการบิน 3 เที่ยวต่อสัปดาห์ด้วยเครื่องบิน แบบโบอิ้ง 777-200 ER เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2553 เป็นต้นไป
เส้นทางกรุงเทพ-มุมไบ (ไบ-กลับ) ปรับลดเที่ยวบินจาก 10 เที่ยวต่อสัปดาห์ เหลือ 7 เที่ยวต่อสัปดาห์ พร้อมทั้งปรับแบบเครื่องบินให้มีขนาดใหญ่ขึ้นโดยใช้เครื่องโบอิ้ง777-300 แทนเครื่องโบอิ้ง 777-200 ,กรุงเทพฯเดลี(ไป-กลับ) เปลี่ยนขนาดเครื่องบินให้มีขนาดเล็กลงจากเดิมใช้ เครื่องโบอิ้ง 777-300 เปลี่ยนเป็น 777-200 แทน ทั้ง 23 เส้นทางเริ่มตั้งวันที่ 16 พ.ค. 2553 เป็นต้นไป
นอกจากนั้น เส้นทาง กรุงเทพ-ดูไบ(ไป-กลับ) ก็เปลี่ยนขนาดเครื่องบินให้มีขนาดเล็กลงจากเดิมใช้ 340-600 เป็น 777-200 แทน
ส่วนการปรับเปลี่ยนเที่ยวบินโดยใช้กรุงเทพฯ เป็นทางผ่านแทนนั้น นายโชคชัยกล่าวว่า จะเน้นเครือข่ายเส้นทางการบินระหว่างจาการ์ต้า-ยุโรป ผ่านกรุงเทพฯ โดยเพิ่มเที่ยวบินอีก 7 เที่ยวบิน รวมเป็น 14 เที่ยวบิน ต่อสัปดาห์ โดยให้เดินทางถึงกรุงเทพฯ ในเวลาที่สามารถต่อเครื่องไปยุโรปโดยที่ไม่ต้องรอนาน
นอกจากนี้ ยังจะมุ่งเน้นเป็นเครื่องข่ายการบินระหว่างยุโรป-บาหลี ผ่านกรุงเทพฯ โดยปรับเวลาและเปลี่ยนแปลงแบบของเครื่องบิน รวมถึงปรับเวลาให้ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ เร็วขึ้นเพื่อให้สามารถรับผู้โดยสารจากยุโรปได้ดี และยกเลิกเที่ยวบินกรุงเทพฯ-ซิดนีย์-บริสเบน-กรุงเทพฯ เป็นการชั่วคราว เพิ่มการบินเส้นทางไป-กลับ บินตรงกรุงเทพฯ-บริสเบน จาก 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์เป็น 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์และเพิ่มเที่ยวบินจากเส้นทางกรุงเทพฯ-โอ๊คแลนด์ จาก 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์เป็น 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.2553
ขณะเดียวกัน การบินไทยยังได้จัดโปรโมชั่นจำหน่ายบัตรโดยสารราคาพิเศษในเส้นทางไป-กลับภายในประเทศ ชั้นธุรกิจ และชั้นประหยัด ใน 11 เส้นทางทั่วประเทศ โดยออกบัตรโดยสารได้ตั้งแต่วันที่ 1-31 พ.ค. 2553 และสามารถใช้บัตรโดยสารได้ระหว่างวันที่ 1พ.ค.–30 มิ.ย. 2553
|
|
|
|
|