บล.กสิกรไทย ชี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทยต่ำสุดไตรมาส3/52 เหตุปัญหาการเมือง ส่งผลจีดีพีปรับตัวลดลง อีกทั้งมีแนวโน้มเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นจากเศรษฐกิจอเมริกาที่ฟื้นตัว หนุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลดลง รวมถึงกองทุนเก็งกำไรต้องปรับลดพอร์ตหุ้นหากฎหมายปฏิรูปสถาบันการเงินผ่านความเห็นชอบ แต่ระยะสั้นหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นจากกำไรบจ.ไตรมาส1ออกมาดี แนะนำลงทุนหุ้นขนาดใหญ่ “เผดิมภพ” ตั้งเป้านักลงทุนเปิดบัญชีใหม่ 400 บัญชีในงานมันนี่เอ็กซ์โปร จากจัด แคมเปญ “เปิดปุ๊บ เทรดปั๊บ รับเลย”

นายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการเงินทุนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KS เปิดเผยว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ ยังมีความเสี่ยงจากปัญหาทางการเมือง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของจีดีพีในไตรมาส2/52ให้ปรับตัวลดลง โดยจะทำให้ผลประกอบการไตรมาส2/52ปรับตัวลดลงตามไปตัว ซึ่งจากปัญหาการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของกรีซในยุโรปที่ยังไม่ฟื้นฟูได้ในระยะสั้น โดยสัญญาณตรงนี้อาจกระทบต่อการลงทุนในหุ้นกลุ่ม โภคภัณฑ์ที่อาจปรับตัวลดลง ขณะที่ตราสารหนี้และทองคำแท่งอาจปรับตัวสูงขึ้น

รวมถึงเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกาเริ่มฟื้นตัว อาจเป็นสัญญาณให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น ซึ่งมีผลต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์อาจปรับตัวลดลง และหากกฎหมายปฎิรูประบบสถาบันการเงินในสหรัฐฯผ่านความเห็นชอบ ก็อาจทำให้กองทุนเก็งกำไรต้องลดการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงลง ทำให้หุ้นจะอ่อนตัวลงมาในระยะสั้น ส่งผลให้อาจเห็นจุดต่ำสุดของดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์ฯ ไทยในช่วงไตรมาส 3/53 โดยมีแนวรับระยะยาวอยู่ที่ 670-680 จุด

ทั้งนี้ ประเมินว่า ในระยะสั้นดัชนีหุ้นไทยอาจจะรีบาวด์ได้ เนื่องจาก การประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/53 ของไทยและต่างประเทศที่ออกมาดี อีกทั้งดอกเบี้ยในประเทศไทยอาจจะชะลอในการปรับขึ้นจากปัญหาการเมืองในประเทศ และ การเข้าไปช่วยเหลือกรีซของหลายๆ ประเทศ จากปัจจัยบวกดังกล่าวทำให้บริษัทแนะนำการลงทุนในระยะสั้นนี้ คือ กลุ่มชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกส์ เช่น บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ หรือ DELTA บมจ.ฮานา ไมโครอีเล็กทรอนิคส์ หรือ HANA กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เช่น บมจ.ศุภาลัย หรือ SPALI บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ หรือ QH และ หุ้นขนาดใหญ่ เช่น บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ PTTEP บมจ.ปตท.เคมิคอล หรือ PTTCH ตามปัจจัยข้างต้น

นอกจากนี้บริษัทฯ ได้เตรียมร่วมออกบูธในงาน Money Expo Bangkok 2010 ระหว่างวันที่ 6-9 พฤษภาคมนี้ ที่บูธในเครือธนาคารกสิกรไทย ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ ซึ่งจัดแคมเปญ “เปิดปุ๊บ เทรดปั๊บ รับเลย” เพื่อมอบสิทธิพิเศษเพียงเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นหรือตราสารอนุพันธ์ภายในงาน รับฟรีทันที! บัตรกำนัลพิเศษจากพิซซ่า ฮัท มูลค่า 100 บาท พร้อมรับสิทธิพิเศษเพิ่ม! ทันที เพียงเทรดครั้งแรกก่อนวันที่ 30 มิถุนายน 2553 เป็น Gift Voucher ห้างเซ็นทรัล มูลค่า 300 บาท สำหรับผู้ได้รับวงเงินอนุมัติต่ำกว่า 3 ล้านบาท หรือ Gift Voucher Starbucks Coffee มูลค่า 1,000 บาท สำหรับผู้ได้รับอนุมัติวงเงินตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป

หรือบัตรเติมน้ำมันจากปตท. มูลค่า 3,000 บาท สำหรับผู้ได้รับอนุมัติวงเงินตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป โดยคาดว่าจะมีผู้เปิดบัญชีใหม่ภายในงานนี้ประมาณ 400 บัญชี

ขณะที่ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหั้นไทย เมื่อวันศุกร์(30เม.ย.)ที่ผ่านมา พบว่าปิดที่ระดับ 763.51 จุด เพิ่มขึ้น 10.31 จุด หรือ 1.37%มู ลค่าการซื้อขาย 19,690.38 ล้านบาท โดยระหว่างวันดัชนยีปรับตัวสูงสุดที่ 763.51 จุด และต่ำสุดที่ 757.41 จุด

นายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ฟินันเซียไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเมื่อวันศุกร์ปรับตัวสูงขึ้น เป็นไปตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวก ซึ่งได้แรงหนุนจากตลาดสหรัฐฯและตลาดในแถบยุโรปต่างปรับตัวขึ้น เนื่องจากมีความมั่นใจในเศรษฐกิจโดยรวม และเริ่มคลายความกังวลในปัญหาหนี้สินของกรีซ

ส่วนปัจจัยในประเทศ ในช่วง 2 วันที่ผ่านมาไม่ได้มีความรุนแรงทางการเมืองเกิดขึ้น ทำให้ผ่อนคลายเรื่องนี้ไปบ้าง แม้ว่าจะยังคงความกังวลเรื่องการเมืองอยู่ ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจของไทยที่ออกมาก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีเป็นไปตามที่คาดหมายกันไว้

ดังนั้น แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์นี้ ตลาดฯมีวันทำการน้อย ดังนั้นตลาดฯจึงอาจจะผันผวนได้ เนื่องจากปัจจัยการเมืองยังไม่จบ อาจได้รับแรงกดดันได้ทุกเมื่อ พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 746-765 จุด