Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ ธันวาคม 2533








 
นิตยสารผู้จัดการ ธันวาคม 2533
โฮปเวลล์ ความฝันเพิ่งเริ่มต้น             
 

   
related stories

ทางรถไฟยกระดับ
โฮปเวลล์ หลอกกันเล่นหรือเปล่า?

   
search resources

โฮปเวลล์ โฮลดิ้ง
Transportation
โครงการทางรถไฟยกระดับ




และแล้วโครการทางรถไฟยกระดับของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่บริษัทโฮปเวลล์จากฮ่องกงอาสาเข้ามาเป็นผู้ลงทุนให้ ก็เดินหน้าไปอีกก้าวหนึ่งเมื่อมีการเซ็นสัญญาสัมปทานระหวางโฮปเวลล์ ประเทศไทยกับกระทรวงคมนาคมและการรถไฟ เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

งานนี้ถือได้ว่าเป็นงานช้างที่มุบคคลในวงการธุรกิจนับร้อยมาเป็นสักขีพยานจนแน่นห้องวิภาวดีของโรงแรมเซ้นทรัลพลาซารวมไปถึงสื่อมวลชนจากฮ่องกงราว 80 คนซึ่งโฮปเวลล์ควักกระเป๋าให้มาทำข่าวนี้เป็นการเฉพาะ

เรียกได้ว่างานนี้เป็นเรื่องของการสร้างภาพพจน์ของโฮปเวลล์ หลังจากที่ดครงการซูปเอร์ไฮเวย์ทางตอนใต้ของจีน ได้รับความกระทบกระเทือนจากวิกฤติการณ์เทียนอันเหมินเมื่อปีที่แล้ว จนมีการตั้งคำถามเกี่ยวกับความมั่นคงในทางการเงินของโฮปเวลล์ตามมา

"ผมขอให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จ และขออย่าให้มีใครมาคิดร้ายต่อโครงการนี้" พรข้อท้ายสุดของมนตรี พงษ์พานิช เจ้ากระทรวงคมนาคมฟังดูเหมือนจะกระทบกระเทียบไปถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ตั้งข้อสงสัยต่อความเป็นไปได้ขอโครงการนี้ตลอดมา

"คือโครงการมันใหญ่ ไม่ได้คิดว่าจะมีใครมาให้ร้าย เพียงแต่ขออย่าให้มีเท่านั้น" คนใจบุญสุนทานอยางมนตรีตอบคำถามของนักข่าวทีวีคนหนึ่งที่ข้องใจเป็นหนักหนาว่าทำไมต้องให้พรกันแบบนี้

มูลค่าการลงทุนในโครงการนี้สูงถึง 80,000 ล้านบาทสำหรับการก่อสร้างทางรถไฟยกระดับในเขตกรุงเทพมหานครมีความยาวทั้งสิ้น 60.1 กิโลเมตรโดยมีเส้นทางหลักสองเส้นทางคือ สายเหนือ-ใต้ จากรังสิตข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแล้วเลยวงเวียนใหญ่ไปสิ้นสุดที่สถานีโพธิ์นิมิต

อีกเส้นทางหนึ่งคือตะวันออก-ตะวันตก จากสถานีหัวหมากไปถึงสถานีตลิ่งชัน บนรางรถไฟที่ยกระดับขึ้นมาสูงจากพื้นถนนยังจะมีรถไฟชุมชนซึ่งเป็นระบบขนส่งมวลชนซึ่งโอปเวลล์อ้างว่าขนผู้โดยสารได้วันละ 3 ลานคนรวมอยู่ด้วย โดยจะเก็บค่าโดยสารเพียงกิโลเมตรละ 60 สตางค์เท่านั้น แต่โฮปเวลล์ สามารถปรับค่าโดยสารได้ตามภาวะเงินเฟ้อไม่เกินสองเท่าในเวลา 15 ปี

ถัดขึ้นไปจากทางรถไฟยกระดับอีกชั้นหนึ่งคือทางด่วน 3 เลนคู่สำหรับรถยนต์ เก็บค่าผ่านทางในราคาห้าสลึงต่อหนึ่งกิโลเมตร

"จากรังสิตเข้ามาที่หัวลำโพงใช้เวลาเดินทาง 25 นาทีโดยเสียค่าโดยสาร 17 บาท จากตลิ่งชันไปถึงหัวหมากใช้เวลา 36 นาทีเสียค่าโดยสาร 16 บาทเท่านั้น" ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของการรถไฟท่านหนึ่งวาดภาพความสะดวกสบายในราคาย่อมเยาที่จะเกิดึ้นจากโครงการนี้ซึ่งจะเปิดใช้ได้ในเวลา 4 ปีและจะสมบูรณ์ทั้งโครงการอีก 8 ปีข้างหน้า

โฮปเวลล์จะเป็นคนลงทุนเองทั้งหมดโดยรัฐบาลไม่ต้องควักกระเป๋าเลย แถมยังจะได้ค่าตอบแทนตลอดระยะเวลา 38 ปีซึ่งเป็นระยะเวลาของสัมปทานจากโฮปเวลล์เป็นเงินรวมกัน 54,110 ล้านบาท

ผลประโยชน์ที่โฮปเวลล์จะได้คือสิทธิในการพัฒนาที่ดนิของการรถไฟประมาณ 10 แปลงซึ่งรวมเอาที่แปลงใหญ่อย่างที่หัวลำโพงนิคมมักกะสันและบางซื่อเอาไว้ด้วย

โครงการดี ๆ อย่างนี้จะมีใครมาคิดร้าย แม้จะมีข้อท้วงติงกันบ้างในเรื่องให้ผลประโยชน์การพัฒนาที่ดินกับโฮปเวลล์มากเกินไป ก็ต้องคิดเสียว่าเป็นการลงทุนเพื่อแก้ไขปัยหาการจราจรของกรุงเทพซึ่งเป็นไปไมได้ที่ใครจะมาทำให้ฟรี ๆ

ข้อวิพากษ์วิจารณ์นั้นอยู่ที่การดำเนินงานที่เป็นไปอย่างรวดเร็วนับจากวันที่โฮปเวลล์ยื่นข้อเสนอต่อกระทรวงคมนาคม จนถึงวันที่มีการเซ็นสัญญาใช้เวลาเพียงปีเดียวเท่านั้น จนมีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นโชคดีของโฮปเวลล์ที่เข้าถูกกระทรวง

เบื้องหลังของความรวดเร็วนั้นได้รับการอธิบายจากมนตรีว่า โครงการนี้ไม่ตอ้งมีการเวนคืนที่ดินเพราะสร้างตามแนวทางรถไฟที่มีอยู่แล้ว และไม่มีเงื่อนไขที่รัฐจะต้องเข้ามาลงทุนด้วย จึงไม่ต้องเสียเวลาหมด ก็เพราะว่าถึงคุณจะมีเงินตอนนี้หกพันล้าน ก็ยังทำอะไรไม่ได้ ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินมากขนาดนั้นในตอนนี้" กอร์ดอน วู กล่าว

ก่อนหน้าที่จะมีการเซ็นสัญญา กรมอัยการได้ตั้งข้อสังเกตเอาไว้ข้อหนึ่งว่า คู่สัญญานั้นคือ บริษัทโฮปเวลล์ ประเทศไทย แต่ตอนที่เสนอโครงการนั้นผู้เสนอคือโฮปเวลล์ โฮลตดิ้ง (ฮ่องกง) ซึ่งกรมอัยการมีความเห็นว่าโฮปเวลล์ โฮลดิ้งควรจะเข้ามาผูกพันโครงการนี้ด้วยหรืออย่างน้อยควรจะกำหนดสัดส่วนที่จะเข้ามาลงทุนในบริษัทใหม่ให้ชัดเจน

โฮปเวลล์ ประเทศไทยในตอนนี้นั้นยังถือหุ้นโดยโฮปเวลล์ ฮ่องกง 100 เปอร์เซ็นต์และจะกระจายให้ผู้ถือหุ้นในประเทศในตอนหลัง "เราก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นใคร เราต้องการผู้ร่วมทุนที่สามารถผูกพันตัวเองข้าวกับโครงการแบบนี้ได้" วู ตอบได้เพียงแค่นี้ในเรื่องโครงสร้างผู้ถือหุ้น เช่นเดียวกับแหล่งเงินกู้ซึ่งในข่าวประชาสัมพันธ์ระบุว่าจะใช้เงินกู้ในประเทศ 85,000 ล้านบาทและเงินต่างประเทศอีก 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐนั้น เขาบอกว่าโฮปเวลล์จะใช้เงินทุนของตัวเองก่อน หลังจากนั้นแล้วค่อยคุยกันเรื่องเงินกู้จากสถาบันการเงิน

"ผมเป็นวิศวกรไม่ใช่นักการเงิน" วูตัดบทเมื่อถูกซักรายละเอียดในเรื่องการเงินมาก ๆ เข้า

วูได้ซื้อว่าเป็นคนที่ทำงานไว มีความคิดที่รวดเร็ว เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ มีแผนการในเรื่องเดียวกันอยู่มากมายในหัวที่คนอื่นจะรู้ก็ต่อเมื่อเขาตัดสินใจเลือกแผนใดแผนหนึ่งแล้วเมือ่มไมีคู่แข่งที่จะเป็นเงื่อนไขให้ต้องเปิดเผยข้อมูลเพื่อสร้างการต่อรอง จึงไม่มีความจำเป็นที่เขาจะต้องผูกพันตัวเองในเรื่องใด ๆ ถ้ายังไม่ถึงเวลา

"หลังจากนี้อีกสามเดือนภาพจะชัดเจนมาก เขามีแผนไว้เยอะ และที่ผ่านมาเขาทำงานเร็วกระชั้นชิดมาก" แหล่งข่าวจากแบงก์กรุงเทพซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในระยะแรกนี้ให้ความเห็น

วูเชื่อว่าโครงการของเขาจะไม่ได้รับความกระทบกระเทือนใด ๆ จากการเปลี่ยนแปลงการเมือง "นี่คือการแก้ปัญหาการจราจรของกรุงเทพที่ดีที่สุดใคร ๆ ก็สนับสนุนเรา"

สำหรับคนกรุงเทพที่ต้องทุกข์ทนอยู่กับปัญหาการจราจร จนถึงวันนี้ที่การเซ็นสัญญาสร้างทางรถไฟยกระดับลุล่วงไปแล้ว อย่าเพิ่งดีใจไปว่ากอร์ดอน วู จะมาเป็นผู้ปลดเปลื้องความทุกข์นี้ให้เหพราะไม่มีข้อผูกพันอะไรที่จะต้องดำเนินการตามสัญญ อย่างมากก็แค่ยอมเสียเงิน 300 ล้านบาทที่จ่ายไปแล้วเท่านั้นเอง

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us