กรณีธนาคารกรุงไทยยื่นฟ้องตามใจ ขำภโต อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ชื่ออีกชื่อหนึ่งที่ถูกฟ้องร่วมกันก็คือ
ดร.วรุณ กาญจนกุญชร อดีตรองผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อสำนักงานใหญ่ ด้วยข้อหาปล่อยสินเชื่อโดยการผ่านเช็คให้กับบริษัทสีลมพลาซ่าเป็นจำนวนเงินกว่า
30 ล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนนี้ไม่มีสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีและไม่มีหลักประกัน
"ก่อนคุณตามใจ ขำภโต จะมีอายุงานครบตามสัญญาไม่กี่วันก็มีพนักงานระดับบริหารชิงลาออกก่อน
2 คน คือ คุณบุญเลิศ สอตระกูล หัวหน้าหน่วยนโยบายและประสานงาน กับ ดร.วรุณ
กาญจนกุญชร คุณตามใจบอกว่า ทั้ง 2 คนนี้ลาออกเพราะมีปัญหาเรื่องแรงกดดันในการทำงาน
หากมีผู้จัดการใหญ่คนใหม่เข้ามา แต่คนข้างในรู้กันดีว่าไม่ใช่ ที่ลาออกก็เนื่องจากเป็นทีมงานใกล้ชิดของคุณตามใน
("ผู้จัดการ" ฉบับที่ 29 เดือนกุมภาพันธ์ 2529)
บุญเลิศ สอตระกูล นั้น "ผู้จัดการ" เคยเขียนถึงเขาแล้วว่า ก่อนที่จะลาออกคณะกรรมการของธนาคารกรุงไทย
ได้ตั้งกรรมการสอบสวนในเรื่องการปล่อยเงินกู้ให้กับลูกค้ารายสำคัญที่ทำให้ธนาคารเสียหาย
ซึ่งเดิมจะสอบเฉพาะลูกค้า แต่ตอนหลังมีการสอบถึงผู้ที่อนุมัติและผู้ที่ให้การสนับสนุนภายในธนาคาร
บุญเลิศจึงชิงลาออกเสียก่อน เพราะเกี่ยวพันกับลูกค้ากลุ่มดังกล่าวอย่างแนบแน่น
สำหรับ ดร.วรุณ กาญจนกุญชร ถึงบัดนี้พนักงานแบงก์กรุงไทยบางคนที่เคยงุนงงว่าทำไมถึงต้องลาออกคงถึงบางอ้อกันหมดแล้ว
เมื่อเห็นข่าวที่ลงในหนังสือพิมพ์
ส่วนเจ้าตัวนั้นป่านนี้คงนั่งรำพึงซ้ำๆ ซากๆ ว่า "เดินหมากพลาดตาเดียว
พ่ายแพ้ทั้งกระดาน"
มาทำความรู้จักกับ ดร.วรุณ กาญจนกุญชร กันให้มากกว่านี้ ว่าเขาเป็นใคร?มาจากไหน?
ทำอีท่าไหนถึงต้องพลอยฟ้าพลอยฝนถูกฟ้องร้องร่วมกับอดีตเจ้านาย? ในขณะที่คนอื่นๆ
"ทำ" มากกว่าแต่หลุดร่างแหไปได้
"ตระกูลของวรุณเป็นตระกูลเก่าแก่และร่ำรวยมาก แถวท่าดินแดงฝั่งธนบุรีนี่ชื่อเสียงเขาเป็นที่รู้จักกันดี
พ่อเป็นหมอแม่ชื่อคุณหญิงงามแท้ ตอนหลังมีเรื่องฟ้องร้องกันระหว่างพี่น้องเรื่องที่ดินทรัพย์สิน
พ่อก็เลยไปบวชไม่สึกเนื่องจากไม่ต้องการไปทะเลาะกับญาติพี่น้องของ วรุณ 5
คน เรียนเก่งทุกคนเป็นด็อกเตอร์หมด คนโตก็คือ ดร.กฤษณ์ ที่กระทรวงต่างประเทศ
พี่รองมาก็คือ ดร.สาวิตรี สอนอยู่ที่ธรรมศาสตร์ น้องชายอีก 2 จบด็อกเตอร์ทางวิศวกรรมศาสตร์สอนที่จุฬาฯ
คนหนึ่ง อีกคนไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน" เพื่อนเก่าร่วมก๊งของวรุณเล่าให้
"ผู้จัดการ" ฟัง
ตัวของดร.วรุณจบปริญญาตรีจากธรรมศาสตร์ เมื่อปี 2516 เป็นนักศึกษาคนแรกที่จบปริญญาตรีเศรษฐศาสตร์ภาคภาษาอังกฤษซึ่งเป็นหลักสูตรที่อาจารย์ป๋วย
อึ่งภากรณ์ ตั้งขึ้นมาด้วยอายุขณะนั้นเพียง 20 ปี
"วรุณนี่มันเก่งอยู่ 2 วิชา คือภาษาอังกฤษกับ MATH กำถั่วกับมันทีไรสู้มันไม่ได้สักที"
เพื่อนร่วมก๊งคนเดียวกันสาธยายต่อ
ในหมู่เพื่อนฝูงเป็นที่รู้กันว่าอุปนิสัยของ ดร.วรุณ กาญจนกุญชร นั้นเป็นคนที่สนุกเฮฮา
กับเพื่อนแล้วไม่ว่าวงเหล้า วงถั่วไม่เคยขัด เพิ่งมาห่างเหินก็ช่วงที่เป็นรองผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อสำนักงานใหญ่ที่กรุงไทย
จบปริญญาตรีแล้วก็ข้ามทะเลไปเรียนต่อที่ DUKE UNIVERSITY จนจบปริญญาโท
จากนั้นย้ายไปเรียนที่ UNIVERSITY OF CONNECTICUT ได้ปริญญาเอกสาขาเศรษฐศาสตร์การเกษตร
กลับมาเมืองไทยเข้าทำงานเป็นอาจารย์อยู่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์บางเขนได้ไม่ถึงปี
(ช่วงปี 2519-2520) ทางธนาคารกรุงไทยอยากมีพนักงานระดับด็อกเตอร์ให้ทัดหน้าเทียมตากับแบงก์อื่นจึงประกาศรับสมัคร
ดร.วรุณ กาญจนกุญชรก็เลยตัดสินใจผันตัวเองจากอาจารย์มหาวิทยาลัยไปอยู่กับกรุงไทยในตำแหน่งรองผู้จัดการฝ่ายวิชาการและวางแผน
และเป็นด็อกเตอร์คนแรกที่ทำงานในธนาคารแห่งนี้
"คุณวรุณมาสนิทกับคุณตามในก็คงเมื่อตอนที่คุณตามในถูกดึงไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ทั้งคุณวรุณและคุณบุญเลิศ สอตระกูล ก็ไปนั่งเป็นเลขานุการส่วนตัว แต่กินเงินเดือนแบงก์กรุงไทย
สปีชของคุณตามใน
นี่คุณวรุณเป็นคนร่างให้ รวมทั้งคอยวิ่งประสานงานกับฝ่ายเอกชนในบางโครงการ
เช่น โครงการ "สินไทย" พนักงานแบงก์กรุงไทยว่าให้ฟัง
บุญเลิศ สอตระกูล นั้นเมื่อเทียบพรรษาอายุงานในธนาคารกรุงไทยแล้วเยาว์กว่าดร.วรุณกาญจนกุญชร
เล็กน้อย เพราะเข้าทำงานที่กรุงไทยเมื่อต้นปี 2524 พอตามใจ ขำภโต พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
บุญเลิศ สอตระกูล ก็ไต่เต้าขึ้นเป็นรองผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อสำนักงานใหญ่
จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์สถาบันการเงินล้มปลายปี 2526 คณะกรรมการของธนาคารเริ่มตั้งข้อสังเกตว่า
การให้สินเชื่อเพื่อช่วยเหลือสถาบันการเงินที่ได้ผลกระทบจากการที่ประชาชนขาดความเชื่อมั่นนั้นกระจุกตัวอยู่เพียงไม่กี่ราย
ตามใจจึงย้ายมาอยู่ในตำแหน่งหัวหน้าหน่วยนโยบายและประสานงาน
"คุณบุญเลิศเดิมีอยู่ที่แบงก์ชาติ เป็นเลขาฯของอาจารย์เสนาะ อูนากูล
สมัยที่เป็นผู้ว่า พออาจารย์เสนาะลาออกแล้วไปบวชแกก็ลาออกตามไปคอยปฏิบัติรับใช้
ก็เลยทำให้พวกเราบางคนคิดว่าการที่คุณบุญเลิศเข้ามากรุงไทย คงเป็นเพราะอาจารย์เสนาะฝาก
ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริงท่านคงเสียใจไม่น้อยที่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น "
พนักงานแบงก์กรุงไทยอีกคนหนึ่งเผยกับ "ผู้จัดการ"
เมื่อบุญเลิศ สอตระกูล ถูกย้ายออกจากฝ่ายสินเชื่อ ตามใจ ขำภโต ก็ไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจ
จัดการโยกเอา ดร.วรุณ กาญจนกุญชร มาเป็นรองผู้อำนวยการฝ่ายสินเชื่อสำนักงานใหญ่แทน
ทั้งๆ ที่ไม่เคยมีความรู้เรื่องหลักเกษณฑ์การให้สินเชื่อมาก่อน
"ตอนแรกที่ได้ข่าวว่ามันถูกย้ายจากรองผู้จัดการฝ่ายวิชาการไปอยู่ฝ่ายสินเชื่อพวกเรายังนึกว่ามันถูก
DEMOTE เพราะถูกย้ายจากสายวิชาการที่เคยถนัด" เพื่อนที่เคยเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยเกษตรด้วยกันเล่าให้ฟัง
เพื่อนของ ดร.วรุณ กาญจนกุญชร คงไม่รู้หรอกว่าเพื่อนที่เคยเป็นอาจารย์นักวิชาการมหาวิทยาลัยถูกย้ายไปอยู่ฝ่ายสินเชื่อนอกจากไม่ใช่การ
DEMOTE แล้ว ตามใจ ขำภโต ไม่เคยคำนึงถึงด้วยซ้ำว่า ดร.วรุณจะเป็นใคร? มาจากไหน?
"ขอให้ทำงานถูกใจ" เป็นใช้ได้
และดร.วรุณ กาญจนกุญชร ก็ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าพยายามทำงานให้ถูกใจตามใจ!
จะเป็นเพราะพื้นฐานในเรื่องกฏเกณฑ์การปล่อยสินเชื่ออ่อน หรือความเร่งร้อนที่จะทำงานให้ถูกใจตามใจ
ดร.วรุณก็เผลอเดินหมากพลาดไปตาหนึ่งก็คือ ไปผ่านเช็คให้สีลมพลาซ่า โดยที่ไม่มีสัญญาวงเงิน
โอ.ดี. หรือมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
"ตอนนั้นคุณตามใจไม่อยู่ ทางสีลมพลาซ่าเขาก็มาหาบอกว่า ถ้าไม่ผ่านเช็คใบนี้ให้เขาทางบริษัทก่อสร้างที่รับงานของสีลมพลาซ่าจะไม่ดำเนินการก่อสร้างต่อ
คุณวรุณเข้าใจว่าโครงการนี้ผู้ใหญ่อนุมัติสนับสนุนมาแต่แรกก็เลยผ่านให้โดยที่ตัวเองไม่มีอำนาจ
พอคุณตามใจกลับมาเห็นเรื่องที่คุณวรุณทำเสนอก็ไม่กล้าเซ็น เพราะรู้ว่าเงินที่เคยปล่อยๆ
ไปก็เต็มที่แล้วสำหรับหลักประกันที่สีลมพลาซ่ามีอยู่ วงเงิน โอ.ดี.ก็เหมือนกัน…ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรจึงดองเรื่องเอาไว้
พอคุณตามใจถูกฟ้องคุณวรุณจึงมีชื่อคู่ไปด้วยกัน" แหล่งข่าวระดับสูงในแบงก์กรุงไทยอธิบาย
งานนี้คนที่กำลังหนาวๆ ร้อนๆ อีกคนก็คงไม่พ้นบุญเลิศ สอตระกูล (ถ้ายังอยู่ในเมืองไทย)
แต่คนข้างในแบงก์กรุงไทยบอกว่า บุญเลิศเป็นคนที่รอบคอบการ์ดรัดกุมสินเชื่อรายไหนที่เห็นว่าค่อนข้างล่อแหลม
บุญเลิศจะรอจนกว่าตามใจ ขำภโต สั่งการ หรือไม่ก็ส่งเรื่องกลับให้ลูกน้องตีราคาทรัพย์สินค้ำประกันเพิ่มจนคุ้มกับวงเงิน
"เรื่องที่คณะกรรมการของธนาคารกรุงไทยอยากคุยกับคุณบุญเลิศมากก็คือ
ก่อนหน้าแบงก์ชาติจะสั่งการมาที่กรุงไทยให้ระงับการปล่อยสินเชื่อให้กับบริษัทเงินทุนบางแห่งเพียงวันเดียว
คุณบุญเลิศก็จัดการเสนอเรื่องให้คุณตามใจโอนเงินจากกรุงไทยไปที่บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เงินทุนสากลประมาณ
2,000 ล้านบาท ทำให้บริษัทเงินทุนเหล่านั้นยังคงได้เงินกู้ต่อไป กว่าแบงก์ชาติจะรู้ก็ปล่อยไปเยอะแยะแล้ว"
พนักงานระดับสูงของแบงก์กรุงไทยเผย
วันนี้ตามใจ ขำภโต และดร.วรุณ กาญจนกุญชร รู้ชะตากรรมของตัวเองแล้วว่าคณะกรรมการของแบงก์กรุงไทยเอาเรื่องแน่ๆ
ส่วนบุญเลิศนั้นถ้าทำงานด้วยความรอบคอบจริงก็คงลอยตัวไป
ปัญหาสำคัญของคณะกรรมการของธนาคารกรุงไทยก็คือ หากจะเอาเรื่อง ดร.วรุณ กาญจนกุญชร
หรือลามไปถึงบุญเลิศ สอตระกูล ด้วยอีกคน
"ผู้จัดการ" อยากจะถามง่ายๆ ว่าตอนนี้อรู้หรือยังว่าทั้ง 2 คนนี้อยู่ประเทศไหน?