Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTVผู้จัดการรายวัน27 เมษายน 2553
GLOWลุ้นปูนใหญ่ ไฟเขียวลุยรง.ไฟฟ้าป้อนปิโตรฯเวียดนาม             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน)

   
search resources

Energy
โกลว์ พลังงาน, บมจ.




“โกลว์ พลังงาน”ดอดเจรจาปูนใหญ่ สนใจเข้าไปลงทุนโรงไฟฟ้าโคเจนฯขนาด 200-300เมกะวัตต์ วงเงินลงทุน 800 ล้านเหรียญสหรัฐ ป้อนโครงการปิโตรเคมี คอมเพล็กซ์ที่เวียดนาม หากปูนใหญ่เปิดทางเอกชนรายอื่นลงทุน คาดว่ามีความชัดเจนปลายปีนี้ แย้มปีนี้กำไรพุ่งไม่ต่ำกว่า 10% หลังรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าใหม่115เมกะวัตต์และต้นทุนเชื้อเพลิงต่ำ ลุ้นรัฐปรับขึ้นค่าเอฟทีหลังครบกำหนดตรึงค่าเอฟทีส.ค.นี้

นายสุทธิวงศ์ คงสิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการเงิน บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) หรือ GLOW เปิดเผยว่า บริษัทฯมีความสนใจที่จะเข้าไปลงทุนโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าและไอน้ำ (โคเจนเนอเรชั่น)เพื่อป้อนให้โครงการปิโตรเคมี คอมเพล็กซ์ของเครือซิเมนต์ไทยที่ประเทศเวียดนาม ซึ่งเบื้องต้นได้มีการเจรจากับเครือซิเมนต์ไทยแล้ว แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าปูนซิเมนต์ไทยจะตัดสินใจลงทุนโรงไฟฟ้าเองหรือจะดึงให้เอกชนรายอื่นเข้าไปลงทุนแล้วซื้อไฟฟ้าแทน คาดว่าจะมีความชัดเจนอย่างช้าปลายปีนี้ การลงทุนดังกล่าวบริษัทฯต้องการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เพื่อได้สิทธิในการบริหารงาน ซึ่งโครงการปิโตรเคมี คอมเพล็กซ์ดังกล่าวนี้ จะต้องลงทุนโรงไฟฟ้าโคเจนฯขนาดกำลังผลิต 200-300 เมกะวัตต์ ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง เงินลงทุนประมาณ 800 ล้านบาทรวมถึงการสร้างท่าเทียบเรือและคลังเก็บถ่านหินด้วย

ก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวว่าเครือซิเมนต์ไทยอาจจะตัดการลงทุนธุรกิจไฟฟ้าและท่าเทียบเรือให้เอกชนรายอื่นๆทำแทน ซึ่งจะช่วยลดภาระการลงทุนโครงการปิโตรเคมี คอมเพล็กซ์ที่เวียดนามลงจากเดิม 3,500-4,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เหลือเพียง 2,500-3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยปูนซิเมนต์ไทยอาจจะเข้ามาถือหุ้นในโรงไฟฟ้าดังกล่าวแทนที่จะเป็นผู้ลงทุนทั้งหมด

“ทางโกลว์ฯมีการขายไฟฟ้าและไอน้ำมันกับกลุ่มปิโตรเคมี ปูนใหญ่อยู่แล้ว โดยโกลว์ฯมีความเชี่ยวชาญโรงไฟฟ้าโคเจนฯ และสอดคล้องกับนโยบายของบริษัทแม่ที่ให้โกลว์ฯสามารถขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าIPP ในไทย ลาวและกัมพูชา ขณะที่โรงไฟฟ้าโคเจนฯจะลงทุนใน จีน เวียดนาม อินโดนีเซีย เป็นต้น เพื่อไม่ให้เกิดการแข่งขันกันเอง”

นายสุทธิวงศ์ กล่าวต่อไปว่า บริษัทฯมีแผนลงทุนโรงไฟฟ้าใน 3 โครงการได้แก่ 1.โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน 115 เมกะวัตต์ ที่มาบตาพุด ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างทดลองเดินเครื่องจักร คาดว่าผลิตเชิงพาณิชย์ปลายพ.ค.หรือต้นมิ.ย.นี้ ซึ่งการก่อสร้างได้ล่าช้ากว่ากำหนดการเดิม 4-5 เดือน ทำให้บริษัทฯรับเงินชดเชยค่าปรับจากผู้รับเหมา 2. โครงการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหิน 660 เมกะวัตต์

ขณะนี้การก่อสร้างคืบหน้า 60% คาดว่าจะผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปลายปี 2554 และ3.โครงการโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซฯเป็นเชื้อเพลิงขนาด 382 เมกะวัตต์ คาดว่าแล้วสร็จปลายปีหน้า โดยมีปริมาณไฟฟ้าที่รอขายอีก 70เมกะวัตต์ คาดว่าจะขายหมดก่อนที่โรงไฟฟ้าจะแล้วเสร็จ ทำให้โกลว์ฯมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจาก 2,118 เมกะวัตต์ เป็น 3,275 เมกะวัตต์ในปี 2554

นอกจากนี้ยังสนใจที่จะลงทุนพลังงานทางเลือก โดยอยู่ระหว่างการศึกษาการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังลมขนาดกำลังผลิต 60-80 เมกะวัตต์ที่ภาคอีสาน คาดว่าจะได้ข้อสรุปไตรมาส 3 นี้ รวมทั้งยังศึกษาความเป็นไปได้ลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 1.5 เมกะวัตต์ ที่มาบตาพุด โดยบริษัทฯไม่ได้ตั้งเป้าสัดส่วนการลงทุนพลังงานทางเลือกไว้

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/2553 บริษัทฯมีรายได้และกำไรดีขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาส 4/2552 แต่ดีมากเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทฯรับรู้กำไรจากโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ 115 เมกะวัตต์ที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างทดลองเครื่องจักร ผ่านในรูปเงินค่าปรับจากผู้รับเหมาก่อสร้างแล้ววันละ 75,000 เหรียญสหรัฐ/วัน และมีมาร์จินสูงขึ้นด้วย คาดทั้งปี 2553 บริษัทฯจะมีกำไรสุทธิเติบโตไม่น้อยกว่า 10% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 4,187 ล้านบาท เนื่องจากมีโรงไฟฟ้าใหม่เข้ามา 115 เมกะวัตต์ ต้นทุนค่าเชื้อเพลิงต่ำลง เนื่องจากบริษัทฯได้ทำสัญญาซื้อขายถ่านหินล่วงหน้าปีนี้ที่ระดับราคา 75เหรียญสหรัฐ จากปัจจุบันขยับขึ้นไปแล้ว 80-90 เหรียญสหรัฐ และหากรัฐมีการปรับขึ้นค่าไฟเอฟที จากที่ตรึงราคาไว้ถึงส.ค.นี้ ก็จะทำให้บริษัทฯมีกำไรสุทธิเพิ่มมากขึ้นอีก

ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นบริษัทฯเมื่อวันที่ 26 เม.ย. อนุมัติการออกหุ้นกู้วงเงิน 1 หมื่นล้านบาทเพื่อใช้ในการลงทุนในอนาคต ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมสภาพคล่องล่วงหน้า โดยยังไม่มีแผนจะออกหุ้นกู้เพิ่มเติม หลังจากบริษัทฯมีแผนการใช้เงินลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าต่างๆ วงเงิน 1.6 หมื่นล้านบาท โดยได้ออกหุ้นกู้วงเงิน 9,000 ล้านบาทเมื่อต้นเม.ย.นี้ สำหรับการลงทุนปี 2553 และในปีหน้าจะใช้เงินทุนอีก 7,000 ล้านบาท โดยโกลว์ฯได้ เจรจากับสถาบันการเงินในประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้วในการกู้เงิน 4,000 ล้านบาทโดยล็อกอัตราดอกเบี้ยแล้ว หลังแนวโน้มภาวะดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้น คงเหลือวงเงินอีก 3,000 ล้านบาทที่จะพิจารณาในปีหน้าต่อไป   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us