หลังคาซีแพคลุ้นบ้านจัดสรรฟื้นภาพรวมตลาดหลังคาปีนี้ เดินหน้าธุรกิจใหม่ขายบริการโครงหลังคาสำเร็จรูป เพิ่มสินค้านวัตกรรมหนุนรายได้โต 10%

ภาพรวมตลาดกระเบื้องหลังคาคอนกรีตปี 2552 ที่หดตัวลง 5% สืบเนื่องมาจากการเปิดตัวโครงการใหม่ของตลาดบ้านจัดสรรลดลง แม้จะเป็นตลาดที่มีสัดส่วนยอดขายรองลงมาจากกลุ่มบ้านสร้างเอง แต่การเติบโตของตลาดดังกล่าวก็เป็นตัวแปรสำคัญชี้นำการเติบโตของภาพรวมตลาด กระเบื้องหลังคาในแต่ละปี สำหรับปีนี้ก็เช่นกัน ซีแพคมองว่าหากไม่มีเหตุการณ์รุนแรงที่มากระทบความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ น่าจะเป็นปีที่ตลาดกระเบื้องหลังคากลับมาฟื้นตัวดีขึ้นจากปีที่แล้ว

“คาดการณ์ว่าปีนี้ตลาดรวมหลังคาคอนกรีตน่าจะเติบโตขึ้น 5-10% จากมูลค่าตลาด 5,000-6,000 ล้านบาท จากปัจจัยบวกต่างๆ ทั้งภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของรัฐที่ช่วยกระตุ้นตลาดในครึ่งปีแรก อย่างเช่นช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ผู้ประกอบการมีการเร่งก่อสร้างบ้านอย่างต่อเนื่อง” นพดล แก้วทับทิม กรรมการผู้จัดการ บริษัท กระเบื้องหลังคาซีแพค จำกัดในเครือเอสซีจีกล่าว

เหตุผลที่การเติบโตของตลาดกระเบื้องหลังคาปีนี้ต้องลุ้นที่การเติบโตของตลาด บ้านจัดสรร นพดลอธิบายว่า เพราะตัวเลขบ้านสร้างเองแต่ละปีมีการเติบโตไม่หวือหวา ต่างจากตัวเลขบ้านจัดสรรที่ขึ้นกับภาวะเศรษฐกิจเป็นหลัก

สำหรับแผนธุรกิจของซีแพคในปีนี้ตั้งเป้ารายได้ 3,000 ล้านบาท เติบโต 5-10% จากปีที่แล้วที่มียอดขายรวม 2,800 ล้านบาท โดยจะมีการรุกตลาดบ้านสร้างเอง บ้านจัดสรร และตลาดรีโนเวทควบคู่กันไป ผ่านสินค้านวัตกรรม และบริการติดตั้งหลังคาครบวงจรผ่าน Roofing Center โดยในปีนี้บริษัทฯ ได้จัดตั้งหน่วยงานธุรกิจระบบหลังคา (Roof System Business) แยกออกมาเป็น SBU ใหม่เพื่อดูแลผลิตภัณฑ์อุปกรณ์หลังคาและโครงหลังคาเหล็กสำเร็จรูปโดยเฉพาะ หลังจากที่บุกตลาดนี้มาระยะหนึ่ง และได้รับการตอบรับที่ดีจนมียอดขายเติบโตเป็น 1 ใน 3 ของยอดขายรวม

โครงหลังคาสำเร็จรูป ตราช้าง (Roof Truss) เป็นสินค้าใหม่ที่ซีแพคเพิ่งทำตลาดมา 1 ปี เป็นระบบโครงถักหลังคากึ่งสำเร็จรูป ผลิตจากเหล็กกำลังดึงสูงชุบกัลวาไนซ์ ที่ออกแบบให้เข้ากับโครงสร้างของบ้านแต่ละหลังโดยเฉพาะ ช่วยลดวัสดุเหลือใช้หน้างาน ทำให้ต้นทุนลดลง มีระบบติดตั้งที่รวดเร็ว สะดวก น้ำหนักเบา ปลอดสนิม

ซึ่งซีแพคมองว่าสินค้าดังกล่าวปัจจุบันมีมาร์เก็ตแชร์ในตลาดรวมโครงสร้าง หลังคาเพียง 5-10% โดยตลาดส่วนใหญ่กว่า 90% ยังนิยมใช้โครงหลังคาเหล็กดำที่ใช้การประกอบเป็นโครงหน้างาน มีน้ำหนักมากกว่าโครงกัลวาไนซ์ 1 เท่า แต่ราคาอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน จึงมีโอกาสที่ตลาดโครงหลังคากัลวาไนซ์จะเติบโตได้อีกมากในอนาคต

ปีที่ผ่านมาซีแพคมียอดขายจากโครงสร้างหลังคาสำเร็จรูป 1 แสนตร.ม. ปีนี้ตั้งเป้ายอดขายจากระบบหลังคาและโครงสร้างหลังคาสำเร็จรูป 4 แสน ตร.ม.หรือประมาณ 2,000 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ารวม 170 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มโครงการจัดสรร 60% และกลุ่มบ้านสร้างเอง 40% ปัจจุบันราคาขายโครงสร้างหลังคาสำเร็จรูป ตราช้างเฉลี่ยอยู่ที่ 400- 450 บาทต่อ ตร.ม. และปรับราคาสูงขึ้นตามรูปแบบของโครงหลังคา