Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ สิงหาคม 2529








 
นิตยสารผู้จัดการ สิงหาคม 2529
โทรศัพท์เคลื่อนที่ "อีริคสัน" ความเหนือชั้นของเสือเก่าเจ้าตลาด             
 


   
search resources

อีริคสัน (ประเทศไทย), บจก.
Mobile Phone




ไม่มีอะไรภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ที่บริษัทยักษ์ใหญ่อีริคสันจะขายให้กับหน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาลไทยไม่ได้ หลายๆ โครงการที่มีมูลค่านับร้อยนับพันๆ ล้านขององค์การโทรศัพท์ตกเป็นของอีริคสันมาแล้ว

ในปี 2519 อีริคสัน ได้รับเลือกเป็นผู้ติดตั้งโครงการระบบโทรศัพท์ทางไกลอัตโนมัติ พอในปี 2525 ทศท. ก็ให้อีริคสันขยายชุมสายโทรศัพท์ระบบครอสบาร์มูลค่าที่ขายของได้ถึง 815 ล้านบาท ต่อมาในเดือนเดียวกันนั้นเองอีริคสันก็ชนะประมูลโครงการใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยทำมาคือโครงการระบบโทรศัพท์อิเล็กทรอนิกส์จำนวน 134,656 เลขหมาย

และในปี 2527 อีริคสันขาย "ชุมสายโทรศัพท์ระบบอิเล็กทรอนิกส์ SPC แบบ AXE-10 จำนวน 152,064 เลขหมายคิดเป็นเงิน 1,300 ล้านบาท

ล่าสุด ของเล่นชิ้นใหม่ "โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบรังผึ้ง" มูลค่า 300 ล้านที่อีริคสันได้มาด้วยการตั้งสถานีแม่และสถานีย่อยอีก 14 แห่งให้กับทศท. ก็ทำให้อีริคสันได้สิทธิขายเครื่องลูกได้ก่อนที่บริษัทคู่แข่งอื่นๆ จะลงสนามนี้เสียอีก

ในงานพิธีเปิดโทรศัพท์เคลื่อนที่เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางแสงสีเสียงระทึกใจไหววูบวาบประหนึ่งในดิสโก้เธค ณ โรงแรมสยามคอนติเนนตัล "ผู้จัดการ" ได้มีโอกาสพูดคุยกับสันติพันธ์ จาติกวณิช ผู้จัดการหนุ่มลูกสองของฝ่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่บริษัทอีริคสัน เพิ่งก่อตั้งขึ้นใหม่เมื่อต้นปีนี้เอง

สันติพันธ์ทำงานกับอีริคสันได้ไม่ถึงปี ก่อนหน้านี้เคยทำงานกับบริษัทขุดเจาะน้ำมันเพราะเรียนจบทางด้านวิศวกรรมจักรกลจากสหรัฐอเมริกา และเคยใช้ชีวิตอยู่เมืองอังกฤษ 12 ปีจนจบมัธยมแล้วจึงไปเรียนต่อสหรัฐฯ

สันติพันธ์เป็นบุตรชายของกษม จาติกวณิช และเป็นหลานชายคนโปรดของเกษม จากติกวณิช ตัวเขาเองชอบเล่นวิทยุเครื่องเป็นงานอดิเรก และในงานนี้ สันติพันธ์ได้ตอบคำถามผู้สนใจจนเสียงแหบแห้งเมื่อถูกถามเกี่ยวกับกรณีอิริคสันผูกขาดหรือไม่?

"ไม่ได้เป็นสิทธิ์พิเศษอะไรเพียงแต่ว่าเราเป็นคนซัพพลายสถานีแม่ให้เขา เขาก็เลยบอกให้ขายเครื่องลูก ช่วงจากนี้จนถึงปลายปีนี้จะเป็นช่วงที่บริษัทอีริคสันเป็นผู้เดียวที่ขาย เมื่อตรวจสอบระบบเสร็จและตั้งเป็นสเปคเรียบร้อย ใครๆ ก็คงเข้าได้" สันติพันธ์กล่าว

แต่กว่าจะเปิดทางให้บรรดาคู่แข่งที่มีข่าวอีก 7 บริษัทยักษ์ใหญ่ลงสนามเข้ามาในส่วนแบ่งตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่มูลค่า 7,120 ล้านบาทจำนวน 8,000 เครื่องตามแผนที่ตั้งเป้าไว้ในปี 2533 อีริคสันก็คงจะโกยเงินเข้ากระเป๋าไปไม่รู้กี่พันล้านแล้วกระมัง

"ลูกค้าของผมตอนนี้มีเยอะครับ ส่วนมากก็เป็นนักธุรกิจไม่ว่าจะขับรถเบนซ์ บีเอ็มก็มี รถกระบะ รถตู้ก็มีหลายๆ ชนิดมาติดตั้ง ตอนนี้ก็ขายไปได้ 850 เครื่อง และคิดว่าเข้าเป้าเดือนละ 1,000 เครื่องแน่นอน ปีนี้เราคงจะขายได้ประมาณ 2,000-3,000 เครื่อง เพราะเป็นของใหม่มากอย่างที่อินโดนีเซียเขาขายได้เดือนแรกตั้ง 1,200 เครื่อง" ผู้จัดการหนุ่ม สันติพันธ์กล่าวพร้อมกับตอบคำถามเกี่ยวกับคนที่หิ้วเครื่องมาเองจากเมืองนอกจะใช้ได้ไหม…

"คงจะไม่ได้เพราะอย่างหนึ่งเครื่องจะไม่ได้การ Approve จากองค์การโทรศัพท์ อย่างที่สองจะไม่ได้ใบอนุญาตนำเข้าจากกรมไปรษณีย์ฯ อย่างที่สามเอาเครื่องเข้ามาจะมีคลื่นไม่ตรงกันคือ NMT 450 และอย่างที่สี่ถ้าคุณไปซื้อจากอินโดนีเซียเครื่องหนึ่ง 162,000 บาท แต่ที่นี่เพียง 89,000 บาทเท่านั้นเองเพราะฉะนไม่มีประโยชน์ที่จะเอาเครื่องมาจากเมืองนอก"

ขณะที่อีริคสันกำลังขายดีเป็นเทน้ำเทท่า สันติพันธ์เล่าว่าวันหนึ่งๆ อีริคสันติดตั้งโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้กับรถยนต์นักธุรกิจ 20 คันทุกวัน ทำกันเป็นมือระวิงเชียว สนนราคาค่าเครื่อง 89,000 บาท ส่วนประกอบอื่นๆ ก็มีเพิ่มเติมแล้วแต่ชอบ และก็ตามกำลังเงินด้วย เช่นชุดหม้อเก็บไฟอัดไฟ 9,500 บาท หูฟังเพิ่มเติม 19,500 บาท เสาอากาศฐานแม่เหล็ก 2,200 บาท เครื่องอัดไฟจากรถยนต์ 4,500 บาท สัญญาณเรียกนอกรถ 2,200 บาท เครื่องแปลงไฟจาก 220 AC 5,500 บาท และสายต่อจากที่จุดบุหรี่ 640 บาท รวมราคาเครื่องและส่วนประกอบก็ตกประมรณ 133,040 บาท และเมื่อบวกค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่นค่ามัดจำกับองค์การโทรศัพท์ที่นั่งรับเงินสบายๆ โดยไม่ต้องออกแรงเอง 3,000 บาท ค่าเลขหมาย 1,000 บาท และค่าใช้บริการต่อเดือน 500 บาท ค่าใช้โทรศัพท์นาทีละ 3 บาท ถ้าเรียกระหว่างเขตรหัสติดกันคิดอัตรานาทีละ 8 บาท ถ้าเรียกระหว่างรหัสที่ไม่ติดกันคิดนาทีละ 12 บาท ก็ลองคำนวณดูเองก็แล้วกันว่าจะเป็นเงินเท่าไหร่

นักธุรกิจและสื่อมวลชนที่เป็นลูกค้ารายใหญ่ของอีริคสันที่รู้ๆ กันก็มี ผู้บริหารระดับสูงของแบงก์กรุงเทพ ชาตรี โสภณพนิช ที่เพิ่งติดตั้งเครื่องนี้ไว้ในรถจากัวร์ โชติโสภณพนิชก็มีนอกจากนี้คนดังอย่างคุณหญิงพันธ์เครือ ยงใจยุทธ ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมลแห่งข่าว 9 อสมท. ตลอดจนยักษ์ใหญ่ น.ส.พ.ไทยรัฐก็สั่งติดตั้งเครื่องถึง 20 เครื่อง ส่วนน.ส.พ.เดลินิวส์ก็ 10 เครื่อง และอื่นๆ อีกมากมาย หรือแม้แต่องค์การโทรศัพท์ก็ยังซื้อโทรศัพท์นี้ใช้เอง 25 เครื่อง

เห็นจะมีก็แต่คนบางคนที่ได้ของฟรีๆ ไปใช้ถึง 2 เครื่องกับคลื่นพิเศษอีก 6 Channel ซึ่งจ้างก็ไม่บอกว่าใคร

จนกว่าพระอาทิตย์จะตกเสียก่อนแล้วค่อยพูดกันถึงความลับมืดนี้กันดีไหมๆ

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us