|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
สมรภูมิแป้งเย็นระอุ เมื่อ 3 แบรนด์ยักษ์เปิดเกมรบหวังสยบความเย็นคู่แข่งในช่วงไฮซีซัน "ตรางู" เท 300 ล้านบาท ลอนช์สินค้าลิมิเต็ด กระจายผ่าน 7-11 ชู บีม กวี และเชียร์ ทิฆัมพร เป็นพรีเซนเตอร์ พร้อมเปิดเว็บไซต์สร้างสังคมออนไลน์บุกประชิดวัยรุ่น ฟาก "ทเวลฟ์ พลัส" วาง อั้ม อธิชาติ นั่งแท่นพรีเซนเตอร์ เชื่อมแบรนด์สู่กลุ่มผู้ใหญ่ หลังใช้ซูเปอร์จูเนียร์ ศิลปินแดนโสมสร้างแกร่งในตลาดวัยทีนนาน 3 ปี ด้านแชมป์ "โพรเทคส์" คว้า เป้ อารักษ์ สื่อจุดขาย "แป้งเย็นหอมตลอดทั้งวัน" เพื่อขยายฐานคนรุ่นใหม่เต็มสูบ
ด้วยอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงจนอากาศในบ้านเราเรียกได้ว่า เป็นฤดูร้อนตลอดทั้งปีนี่เอง ทำให้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ขายเรื่อง "ความเย็น" ดูคึกคักจนลืมความร้อนเลยทีเดียว โดยเฉพาะในตลาด "แป้งเย็น" ที่แม้จะมีมูลค่าเพียง 1,450 ล้านบาท เล็กกว่าตลาดแป้งเด็กเกือบครึ่งก็ตาม แต่เมื่อวัดความฮอตของเกมการแข่งขันแล้ว วินาทีนี้ คงต้องยกให้ตลาดแป้งเย็น เพราะนอกจากจะเป็นฤดูการขายหลักที่กินสัดส่วนมากกว่า 50% จากการขายทั้งปีแล้ว เซกเมนต์ดังกล่าวยังเต็มไปด้วยการต่อสู้แบบครบเครื่องจาก 3 แบรนด์แถวหน้า ทั้งในเรื่องการออกสินค้าใหม่ การใช้พรีเซนเตอร์เพื่อบุกขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ ต่างจากฝั่งแป้งเด็กที่เน้นสาดสงคราม "ราคา" เท่านั้น
ปัจจุบันตลาดแป้งเย็นรอบล่าสุด (ธ.ค.2552) มีมูลค่า 1,450 ล้านบาท มีการเติบโตประมาณ 5% โดย "โพรเทคส์" ของค่ายคอลเกต-ปาล์มโอลีฟ ครองตำแหน่งแชมป์ด้วยส่วนแบ่ง32% ตามมาด้วย "ตรางู" จากค่ายอังกฤษตรางู 23% ทเวลฟ์ พลัส แบรนด์ภายใต้ร่มเงาของโอสถสภา 20% และนี่คือ 3 ผู้เล่นแถวหน้าในตลาดแป้งเย็นของบ้านเรา ที่จัดว่าเป็นมวยรุ่นเดียวกัน ฉะนั้น เมื่อผู้เล่นทั้ง 3 ราย ต่างออกมาสวนหมัดกันชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร เกมรบบนสังเวียนนี้จึงไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
เข้าสู่พื้นที่การแข่งขัน "ตรางู" คือผู้เล่นรายล่าสุด ที่ออกมากระแทกคู่แข่ง ด้วยการเปิดตัวสินค้ารุ่น "ลิมิเต็ด อิดิชั่น" สานโครงการ "Cool the World Design Contest 2010" หลังจากประสบความสำเร็จในปีก่อน ภายใต้งบตลาดรวมทั้งปี 300 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นหมัดเด็ดที่รองแชมป์รายนี้มั่นใจว่าจะใช้พิชิตใจผู้บริโภค เหมือนปีก่อนๆ ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในหมู่วัยรุ่นอายุ 18 ปีขึ้นไป ซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ผู้เล่นรายนี้ต้องการขยับขยายสัดส่วนให้มากขึ้น จากตอนนี้ที่กลุ่มอายุ 30 ปีขึ้นไปยังเป็นลูกค้ากลุ่มหลัก ทั้งนี้ สินค้าลิมิเต็ดรุ่นล่าสุดมาจากการคัดเลือกผลงานการออกแบบของนักศึกษา โดยเลือกลอนช์ออกมา 2 กลิ่น คือ ลาเวนเดอร์ (สีม่วง) และแอคทีฟ เฮอร์เบิล (สีเขียว) รวม 3 ล้านกระป๋อง
"หลังจากที่ตรางูทำการปรับโฉมแบรนด์ให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้นตั้งแต่ปี 2549 ที่ผ่านมา รวมทั้งออกสินค้ารุ่นลิมิเต็ดออกมาขยายฐานคนรุ่นใหม่อายุ 12-34 ปี พบว่า สัดส่วนลูกค้ากลุ่มดังกล่าวมีการใช้แป้งตรางูเพิ่มขึ้นจาก 36.2% เป็น 41.1% สวนทางกับคู่แข่งหลักที่พบว่า ผู้ใช้กลุ่มนี้ลดลงจาก 46.8% เหลือ 45%?สมชาย นิธิเสถียรชัย ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการขายภายในประเทศ บริษัท อังกฤษตรางู (แอล.พี.) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายแป้งเย็นตรางู กล่าวเมื่อครั้งแถลงปรับยุทธศาสตร์สร้างความต่างจากคู่แข่ง ด้วยการคว้า แดน-บีม เป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์เมื่อ 2 ปีก่อน
สำหรับการลอนช์สินค้าลิมิเต็ดของตรางูในครั้งนี้ อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้เล่นรายนี้มั่นใจว่าจะสามารถเข้าถึงกลุ่ม เป้าหมายได้ง่ายขึ้น นั่นคือ การได้นำสินค้าเข้าไปกระจายผ่านเซเว่น-อีเลฟเว่น เหมือนปีที่ผ่านมา เพราะนอกจากจะเป็นช่องทางที่เข้าถึงทุกพื้นที่แล้ว ช่องทางดังกล่าวยังสอดคล้องไปกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความสะดวก สบายมากขึ้นด้วย ขณะที่ลูกค้ากลุ่มเดิมก็เป็นหน้าที่ของแป้งตรางู รุ่นปรกติ
แป้งเย็นตรางูลิมิเต็ด อิดิชั่นรุ่นล่าสุด
ขณะเดียวกัน ตรางูได้เปิดตัว บีม กวี และเชียร์ ทิฆัมพร ทำหน้าที่เป็นพรีเซนเตอร์ส่ง message "รักเดียวใจเดียว" ตอกย้ำการรับรู้และสร้างความภักดีกับแบรนด์ โดยเป็นการต่อยอดจาก message เดิม "ผมรู้คุณก็ใช้" ที่ค่ายนี้เคยส่ง แดน วรเวช กับบีม กวี ให้ทำหน้าที่สื่อสารกับผู้บริโภคเมื่อ 1-2 ปีก่อน เพื่อสร้างกระแสให้เห็นว่าแป้งเย็นตรางูเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมจากคน ทั่วไป
แม้ว่าการเลือกใช้พรีเซนเตอร์ของตรางูในครั้งนี้ จะไม่ได้สร้างความตื่นเต้นเหมือนครั้งแรกที่เปิดตัวแดนและบีมก็ตาม แต่ก็ยังมีความน่าสนใจตรงที่ การคว้าเชียร์นั่งแท่นพรีเซนเตอร์หญิงคนแรกของแบรนด์ตรางู เพื่อทำหน้าที่สะท้อนคาแรกเตอร์และสื่อสารกับผู้บริโภคกลุ่มผู้หญิงโดยเฉพาะ ขณะที่ บัว สโรชา (น้องสาวบีม) แม้จะเคยเป็นพรีเซนเตอร์ ทว่าก็เป็นเฉพาะในสูตรแอนไท แบคทีเรีย ซึ่งเป็นสูตรน้องใหม่ที่ลอนช์ออกมาเท่านั้น
ทว่า ผู้เล่นที่สร้างความแปลกใจได้มากที่สุดในครั้งนี้ คงไม่พ้น "ทเวลฟ์ พลัส" ที่ครั้งนี้เลือกเปิดตัว อั้ม อธิชาติ เป็นพรีเซนเตอร์ พร้อมกับการลอนช์สูตร "เอ็กซ์ตร้า คูล แอนตี้ แบคทีเรีย" ซึ่งถือเป็นคนไทยคนแรก หลังจากผู้เล่นรายนี้ใช้นักร้องวงซูเปอร์จูเนียร์ ศิลปินจากเกาหลีเป็นพรีเซนเตอร์นาน 3 ปี ที่เป็นเช่นนี้ ต้องหทัย กุวานนท์ ผู้อำนวยการผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และผลิตภัณฑ์ส่วนบุคคล บริษัท โอสถสภา จำกัด อธิบายว่า การหันกลับมาใช้พรีเซนเตอร์คนไทยอีกครั้ง โดยเลือกอั้มมาทำหน้าที่สื่อสารเพื่อสร้างความใกล้ชิดระหว่างแบรนด์กับผู้ บริโภค โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มผู้ใหญ่ที่เราต้องการขยายฐานให้มากขึ้นและขยับเป็นเบอร์ 1 ในเซกเมนต์นี้ด้วย หลังจากที่ผ่านมาทเวลฟ์ พลัสใช้ศิลปินเกาหลีมาสร้างแกร่งในตลาดวัยรุ่น จนเป็นผู้นำตลาดในกลุ่มวัยรุ่นอายุ 12-18 ปี ที่จำหน่ายผ่านช่องทางไฮเปอร์มาร์เกต ซูเปอร์มาร์เกต และร้านสะดวกซื้อ โดยช่องทางดังกล่าวมีสัดส่วนใหญ่สุด 65% จากตลาดแป้งเย็นมูลค่า 1,450 ล้านบาท ส่วนที่เหลือ 35% คือ ช่องทางเทรดดิชันนัลเทรด
เช่นเดียวกับ "โพรเทคส์" ที่ยังเดินหน้าใช้กลยุทธ์พรีเซนเตอร์อย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้ตกเป็นหน้าที่ของ เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ แต่ต่างกันตรงที่การสื่อสารของแชมป์ในครั้งนี้ มีเป้าหมายอยู่ที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ เพราะที่ผ่านมาโพรเทคส์ค่อนข้างแข็งแกร่งในกลุ่มผู้ใหญ่ ซึ่งการสื่อสารครั้งล่าสุดนี้ โพรเทคส์จึงเลือกเปิดตัวแป้งเย็นที่ชูเรื่อง "หอมตลอดทั้งวัน" มาเป็นจุดขาย ซึ่งตรงกับความต้องการของกลุ่มวัยรุ่นที่ต้องการเลือกกลิ่นหอมควบคู่กับ เรื่องความเย็นด้วย ต่างจากปีก่อนที่วาง ป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ เป็นพรีเซนเตอร์ ในสูตร "โพรเทคส์ คูล ดิโอ" ที่ชู 3 จุดขาย คือ ความเย็น ความหอม และการระงับกลิ่นกาย โดยเฉพาะคุณสมบัติข้อสุดท้ายที่ถือเป็นไฮไลต์ของสินค้าสูตรนี้
นอกจากการฟาดฟันด้วยพรีเซนเตอร์แล้ว "เว็บไซต์" เป็นอีกเครื่องมือที่ได้รับความสนใจจากผู้เล่นในเวทีนี้ โดย ทเวลฟ์ พลัส เป็นแบรนด์ที่ถือว่านำร่องเครื่องมือดังกล่าวเป็นรายแรกๆอย่างจริงจังและต่อ เนื่อง ภายใต้ www.my12plus.com ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะทเวลฟ์ พลัส เป็นแบรนด์ที่มุ่งเจาะตลาดวัยรุ่นหรือกลุ่มคนรุ่นใหม่เป็นพื้นที่แรก ก่อนจะขยับมาสู่กลุ่มผู้ใหญ่ ต่างจากคู่แข่งอย่างตรางู หรือโพรเทคส์ที่เริ่มต้นในกลุ่มผู้ใหญ่ก่อน ล่าสุด ตรางู เปิดเว็บไซต์ www.coolmecoolsociety.com เป็นประตูสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ที่ปัจจุบันมีการใช้อินเทอร์เน็ตมากขึ้น โดย สุธีร์ รัตนนาคินทร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อังกฤษตรางู (แอล.พี.) จำกัด บอกว่า เว็บไซต์ดังกล่าวจะเป็นสังคมออนไลน์ที่ใช้อัปเดตข้อมูลข่าวสาร รวมทั้งการจัดกิจกรรมกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น การร่วมตอบคำถามลุ้นรับแบล็กเบอร์รี่ เคิร์ฟ 1 เครื่อง และบัตรชมภาพยนตร์ 10 รางวัล รางวัลละ 2 ที่นั่ง ซึ่งจากการรุกอย่างเต็มที่ในทุกช่องทาง ผู้บริหารค่ายอังกฤษตรางูมั่นใจว่า ปีนี้แป้งเย็นตรางูจะสามารถขยับส่วนแบ่งเพิ่มเป็น 26% สำหรับโพรเทคส์แม้จะยังไม่ได้ใช้เครื่องมือดังกล่าวเหมือนกับคู่แข่ง แต่เชื่อว่าอีกไม่นานเราคงได้เห็นผู้นำรายนี้หันมาพัฒนาและนำเว็บไซต์มาเป็น สะพานเชื่อมไปยังคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ผู้เล่นรายนี้ต้องการเพิ่มสัดส่วนให้มากขึ้น โดยดูจากการเลือกใช้พรีเซนเตอร์คนล่าสุดที่ค่อนข้างเป็นที่รู้จักในกลุ่มวัย รุ่น
และนี่คือ เกมรบร้อนๆ บนสมรภูมิแป้งเย็น ที่เชื่อได้ว่า เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะเมื่อเบอร์ 2 อย่างตรางู ตั้งเป้าขยับส่วนแบ่งขึ้นอีก 3% เพื่อลดระยะห่างจากเบอร์ 1 ส่วน ทเวลฟ์ พลัส แม้ในภาพรวมจะอยู่ในอันดับที่ 3 ทว่า การเป็นเบอร์ 1 ในช่องทางหลักอย่างไฮเปอร์มาร์เกต ซูเปอร์มาร์เกต และร้านสะดวกซื้อที่มีสัดส่วนมากถึง 65% จากตลาดแป้งเย็นมูลค่า 1,450 ล้านบาท เชื่อว่านอกจากการเปิดตัวพรีเซนเตอร์แล้ว เราคงได้เห็น โพรเทคส์ ปล่อยหมัดเด็ดออกมาสยบความเย็นของ 2 ผู้เล่นเร็วๆ นี้
|
|
|
|
|