|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ชี้ ไตรมาส2/53 หุ้นน้องใหม่เตรียมเข้าจดทะเบียน 5 บริษัท กองทุนอสังหาฯอีก2 กองทุน เหตุ ภาวะตลาดหุ้นไทยยังมีแนวโน้มเติบโต ส่งผลมูลค่าระดมทุนสูงกว่าไตรมาส1/53 “ชนิตร” มั่นใจครึ่งปีแรกเพิ่มมาร์เกตแคปตลาดใกล้เคียงเป้าหมาย1 แสนล้านบาท
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้ช่วยผู้จัดการ กลุ่มงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯคาดว่าจะมีบริษัทเข้ามาเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป (IPO)ในไตรมาส2/53 จำนวน 5 บริษัท แบ่งเป็น เข้าจดทะเบียนในตลาดลหลักทรัพย์ฯ 2 บริษัท คือ ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) บริษัท ซีไอเอ็มบี และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai)จำนวน 3 บริษัท คือ ธีระมงคล อุตสาหกรรม ,ไซเบอร์แพลนเน็ต อินเตอร์แอคทีฟ, ออฟฟิศเมท นอกจากนี้ยังมีกองทุนอสังหาริมทรัพย์อีก 2 กองที่จะเข้าจดทะเบียน มูลค่ารวม 3 พันล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทดังกล่าวจะเริ่มเข้าจดทะเบียนได้ประมาณเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป จากขณะนี้บางบริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อม การไปนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์)กับนักลงทุนเพื่อที่เตรียมที่จะเสนอขายหุ้น ซึ่งจากปัญหาทางการเมืองในปัจจุบันนั้นเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบกับบริษัทดัง กล่าวที่เตรียมเข้ามาจดทะเบียน เนื่องจาก ขณะนี้ยังไม่มีบริษัทใดแจ้งที่จะเลื่อน และส่วนตัวมองว่าทิศทางตลาดหุ้นไทยนั้นเชื่อว่าปรับตัวเพิ่มขึ้น และเป็นจังหวะที่ดี โดยการที่ดัชนีมีการปรับตัวลดลงมาหลังจากวันที่มีการประกาศพระราชกำหนด (พ.ร.ก.)บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินนั้นมองว่าเป็นการพักฐานจากที่นักลง ทุนมีความกังวลหลังจากรัฐบาลออกประกาศ
“ไตรมาส2/53 มีบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯและตลาดเอ็มเอไอ จำนวน 5 บริษัท และมีกองทุนอสังหาริมทรัพย์อีก 2 กอง ซึ่งจะเริ่มมีการขายหุ้นและเข้าจดทะเบียนในเดือนพฤษภาคมนี้ โดยเชื่อว่าปัญหาการชุมนุมจะไม่มีผลกระทบกับเข้าจดทะเบียน เนื่องจาก เป็นจังหวะที่เหมาะ แวลูของตลาดได้ จากการที่ดัชนีมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น บริษัทต้องการระดมทุนไปขยายกิจการ และเชื่อว่าดัชนีตลาดหุ้นยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยการที่ดัชนีปรับตัวลงในวันที่8 เม.ย.นั้น เชื่อว่าน่าจะเป็นการพักฐานเท่านั้น ”นายชนิตร กล่าว
สำหรับมูลค่าการระดมทุนในไตรมาส2/53 จะมากกว่าไตรมาส1/53 จากที่มี1 บริษัทเข้าจดทะเบียน คือ บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ หรือ IVL มูลค่าระดมทุน 4,692 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรกปีนี้ คาดว่าเพิ่มมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด(มาร์เกตแคป)เกือบ 1 แสนล้านบาท เนื่องจาก การที่อินโดรามา เวนเจอร์เข้ามาจดทะเบียนนั้นเพิ่มมาร์เกตแคปอีก4.4 หมื่นล้านบาท
รวมถึงจากการที่ทาง บริษัท ธนายง จำกัด (มหาชน) หรือ TYONG เข้าซื้อกิจการ (เทคโอเวอร์)บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ซึ่งจะเพิ่มมาร์เกตแคปอีก 4 หมื่นล้านบาท ทำให้มาร์เกตแคปน่าจะเพิ่มขึ้นถึง 8 หมื่นล้านบาทแล้ว และยังมีบริษัทที่จะเข้าระดมทุนในไตรมาส2/53อีก 5 บริษัท
นอกจากนี้ยังมีบริษัทที่ได้มีการอยู่ระหว่างการยื่นไฟลิ่งอีก 10 บริษัท แต่จะเข้าจดทะเบียนได้ทันในปีนี้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจะมีการต่ออายุหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าปีนี้จะสามารถเพิ่มมาร์เกตแคปตามเป้าหมายที่วางไว้ ที่ 1 แสนล้านบาทได้แน่นอน
|
|
|
|
|