Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายวัน12 เมษายน 2553
ต่างชาติขนเงินหนี เซ็ง10เม.ย.เดือด กดหุ้นไทยวันนี้ส่อปิดลบ             
 


   
search resources

Stock Exchange




โบรกฯคาดวันนี้ ดัชนีหุ้นไทย 12 เม.ย.ปรับตัวลดลงแน่ จากความกังวลต่อสถานการณ์การเมืองในประเทศ หลังเสื้อแดงถาโถมลุยทหาร จนมีการบาดเจ็บ ล้มตาย ชี้จับสัญญาณต่างชาติถอย เทขายหุ้นตามกองทุนต่างประเทศ ที่ปล่อยออกมาตั้งแต่เริ่มประกาศพ.ร.ก. เพื่อรอดูสถานการณ์ วอนทุกฝ่ายรีบหาทางแก้ไขที่ชัดเจน ยุบสภา เป็นทางออกจริงหรือ หลังเม็ดเงินอัดฉีดเริ่มเห็นผล เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว

นักวิเคราะห์รายหนึ่ง กล่าวว่า จากสถานการณ์รุนแรงระหว่างกลุ่มเสื้อแดงและทหาร เมื่อคืนวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา เรื่องดังกล่าว ย่อมมีผลต่อการปรับตัวลดลงของดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันนี้ (12เม.ย.) แน่ แต่ไม่อาจสรุปได้ว่าจะมากหรือน้อยแค่ไหน โดยเมื่อเปิดตลาดอาจมีการปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง หรือทยอยปรับตัวลดลงไป ซึ่งสาเหตุหลักน่าจะมาจากการขายหุ้นทิ้งของนักลงทุนต่างชาติ ที่ไม่เชื่อมั่นต่อสถานการณ์ทางการเมือง อันมีผลต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยด้วย

“ตอนประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินเย็น 7 เม.ย. พอเช้ามาของวันที่ 8 เม.ย.จนปิดตลาด เราจะเห็นว่านักลงทุนต่างชาติมีการขายหุ้นออกมา เนื่องจากส่วนใหญ่จะเป็นกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งมีนโยบายลงทุนกำหนดไว้ว่าจะไม่ลงทุนในประเทศที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุก เฉิน จนปรับตัวลดลงไป 28 จุด และก็มีการขายสุทธิต่อเนื่องมา 2 วันคือ 8 – 9 เม.ย. ดังนั้นในจันทร์นี้ คาดว่าผู้ที่จะขายสุทธิออกไปอีกของนักลงทุนต่างประเทศที่ไม่ใช่กองทุน แต่ไม่สามารถตอบได้ว่าจะเลวร้ายแค่ไหน”

ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่จะทำให้ตลาดหุ้นไทยกลับมาได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างประเทศ อีกครั้ง มองว่า อยู่ความชัดเจนในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในประเทศ ให้มีทิศทางและทองออกที่ชัดเจน เพื่อให้นักลงทุนได้รับรู้และรับทราบ เพื่อมองภาพการลงทุนในระยะยาวต่อตลาดหุ้นไทยออกว่าจะเป็นอย่างไร

เพราะ หากมีความชัดเจนในเรื่องดังกล่าว ปัญหาความคลุมเครือที่นักลงทุนยังเป็นกังวลอยู่ก็จะหมดไป และจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทยให้กับมาอยู่ในทิศทางที่บวกอีกครั้ง

“เราต้องมีทางออกที่เคลียร์ใจทุกฝ่ายได้ชัดเจน จะชุมนุมต่อไปเพื่ออะไร ยุบสภาแล้วจะได้อะไร จะมีการประท้วงออกมาอีกหรือไม่ เรื่องเหล่านี้ ต้องมีการแก้ปัญหาที่ชัดเจน การตัดสินใจเพื่อลงทุนต่อของนักลงทุนอาจต้องเลื่อนออกไป หรือโยกไปลงทุนในประเทศอื่นที่ปลอดภัยกว่า แม้ที่ผ่านมาเราจะเริ่มเห็นแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ จากการอัดฉีดเม็ดเงินของภาครัฐที่มีสัญญาณที่ดีขึ้นก็ตาม แต่ตราบใดยังมีปัญหาเช่นนี้ ผลกระทบต่อภาพรวมของประเทศย่อมหนักขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้กลุ่มท่องเที่ยว และโรงแรม ได้รับผลกระทบไปเต็มๆ แต่ต่อไปกลุ่มอื่นๆ อย่างพลังงาน ธนาคาร ย่อมได้รับผลกระทบด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม”

อนึ่ง เมื่อวันที่ 8เม.ย. ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ ปิดที่ 783.93 จุด ลดลง 28.70 จุด หรือติดลบ 3.53% มูลค่าการซื้อขาย 40,241.66 ล้านบาท ซึ่งมีมูลเหตุจูงใจจากความเสี่ยงการเมืองที่เพิ่มขึ้นหลังรัฐบาลประกาศใช้ พระราชกำหนด (พ.ร.ก.)การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ขณะที่วันที่ 9 เม.ย. ปิดที่789.66 จุด เพิ่มขึ้น 5.73 จุด หรือ+0.73%มูลค่าการซื้อขาย 24,116.47 ล้านบาท โดย 2 วันที่มีการประกาศพ.ร.ก. นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิออกไปแล้ว 3,158 ล้านบาท หลังจากที่ซื้อสุทธิต่อเนื่องมาตลอด 3 1 วันก่อนหน้านี้   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us