ภายหลังการขยายอาณาจักรของตัวเอง ฉีกออกไปนอกอาณาจักรธุรกิจก่อสร้าง โดยเริ่มจากที่อาณาจักรกระดาษก่อนเป็นธุรกิจแรก นับแต่เมื่อปี 2518 และจนมาถึงทุกวันนี้ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด แผ่ขยายธุรกิจของตัวเองครอบครองไปทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็น กระดาษ เครื่องยนต์ หรือแม้แต่ยางรถยนต์ ผลิตภัณฑ์จำนวนมากในอุตสาหกรรมเหล่านี้ของบริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด มีความเคลื่อนไหวทุกปีและเรียกได้ว่าทุกเดือน

เดือนนี้ก็มีความเคลื่อนไหวต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งอีกเช่นกัน

ปลายเดือนมีนาคม 2530 ที่ผ่านมา เครือซิเมนต์ไทย โดยพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา ผู้จัดการใหญ่ได้เปิดอาณาจักรของตัวเองต่อไปอีก คราวนี้เซ็นสัญญาร่วมทุนกับบริษัทโตโต้ แห่งประเทศญี่ปุ่น จัดตั้งบริษัทสยามซานิทารี ฟิตติ้งส์ จำกัด เพื่อทำการผลิตอุปกรณ์ประกอบกับเครื่องสุขภัณฑ์ประเภททองเหลืองและทองสัมฤทธิ์ชุบโครเมี่ยมยี่ห้อ "โตโต้" เครื่องสุขภัณฑ์ดังกล่าวมี วาล์วอ่างล้างหน้า วาล์วและท่อระบายอ่างอาบน้ำ สายฝักบัวและวาล์วอ่างล้างมือ เป็นต้น

โดยบริษัท สยามซานิทารีฟิตติ้งจำกัด นี้มีทุนจดทะเบียน 40 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นของบริษัท โตโต้ 34% บริษัทปูนซิเมนต์ไทย 33% และบริษัทสยามซานิทารีแวร์ อันเป็นบริษัทในเครือของปูนซิเมนต์ไทยถือหุ้นอีก 33%

ตามโครงการดังกล่าว จะมีการลงทุนเป็นเงินประมาณ 195 ล้านบาท โดยจะเริ่มทำการก่อสร้างโรงงานขึ้นที่อุตสาหกรรมนวนครปทุมธานี และคาดว่าจะเปิดผลิตได้ในราวเดือนสิงหาคม 2531

ไม่เพียงการจัดตั้งบริษัทใหญ่ขึ้นมาอีกบริษัทหนึ่ง ขยายตัวเองออกไปเท่านั้น

เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2530 ที่ผ่านมา ซึ่งเรียกได้ว่ายังไม่ทันข้ามเดือน บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย ได้เดินหน้าออกผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของตัวเองออกมา โดยทำการเปิดโรงงานผลิต KILN FURNITURE ขึ้นที่โรงงานวัสดุทนไฟท่าหลวง จังหวัดสระบุรี

ผลิตภัณฑ์ KILN FURNITURE ดังกล่าวเป็นวัสดุทนไฟที่ใช้เป็นอุปกรณ์ประกอบสำหรับบรรจุหรือรองรับเซรามิคดิบในขณะที่ทำการเผาในเตาเผา เช่น แผ่นซิลิคอนคาร์ไบด์ แผ่นคอร์เดียไรท์ การผลิต KILN FURNITURE นี้ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด ได้เริ่มโครงการด้วยเงินลงทุนประมาณ 60 ล้านบาท โดยได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเมื่อปี 2529 และได้รับความช่วยเหลือทางด้านเทคนิคจาก VGT AKTIENGESELLSCHAFT ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัสดุทนไฟที่มีชื่อเสียงของเยอรมันตะวันตก

ปูนซิเมนต์ไทยนับเป็นบริษัทแรกที่เปิดการผลิตวัสดุทนไฟชนิดนี้เพื่อการค้าในประเทศไทยและกลุ่มอาเซียนเพราะเท่าที่มีการทำอยู่เดิมนั้น ผู้ผลิตวัสดุทนไฟชนิดนี้ มักจะผลิตเพียงเพื่อใช้ในกิจการของตัวเองเท่านั้น หรือไม่ก็นำเข้าจากเกาหลี ญี่ปุ่น และประเทศในยุโรป

ในโครงการนี้ของบริษัทปูนซิเมนต์ไทย พญาปูนใหญ่ยังคาดหวัง และวางโครงการของตัวเองเอาไว้ว่า จะสามารถส่งออก KILN FURNITURE ไปยังประเทศในกลุ่มอาเซี่ยนได้ในราวปี 2531 ที่จะถึงนี้

ก็นับเป็นอีกก้าวย่างหนึ่งของบริษัทปูนซิเมนต์ไทยที่กำลังคืบคลานไปเรื่อย ๆ อย่างไม่หยุดยั้งเสียที