ภายหลังจากที่เป็นข่าวใหญ่โตว่า จะล้ม ๆ เมื่อช่วงปลายปีถึงต้นปีที่ผ่านมานี้
ซึ่ง "ผู้จัดการ" เคยได้รายงานและชี้กันให้เห็นแล้วว่า ข่าวนี้ถูกปลุกขึ้นมาจนโด่งดังอย่างน่าพิศวง
เพื่อผลอะไรแน่นอน แล้วในที่สุดเมื่อมาถึงช่วงนี้ ดูเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างจะเดินไปตามเกมแล้ว
ธนาคารชาติก็ให้ความช่วยเหลือออกมาแล้ว กลุ่มธนาคารเจ้าหนี้ก็แปลงหนี้บางส่วนเป็นหุ้นแล้วการขายสินทรัพย์ของบริษัทบางส่วนก็ได้กระทำแล้ว
ฯลฯ
ความเคลื่อนไหวในเดือนที่ผ่านมา เป็นเพียงเรื่องความตกลงกันระหว่างกลุ่มเจ้าหนี้
ซึ่งกระแสข่าวที่เห็น ๆ กันก็พอจะรู้แล้วว่าเป็นเช่นไร ไม่จำเป็นต้องรอวันประชุมกลุ่มเจ้าหนี้อย่างเป็นทางการเลย
และผลที่ออกมาก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ
9 เมษายน ที่ผ่านมา เป็นวันที่ถูกกำหนดให้เป็นวันประชุมกลุ่มเจ้ากนี้อย่างเป็นทางการซึ่งประกอบด้วย
ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารแหลมทอง
ธนาคารศรีนคร ธนาคารเชสแมนฮัตตัน บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรมแห่งประเทศไทย บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ยิบอินซอย
บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์กรุงศรีอยุธยา บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เอ็ม ซีซี
และคาเธ่ย์ทรัสต์ ในที่ประชุมได้ร่วมกันเซ็นสัญญาเฉพาะกาลขึ้นมา โดยมีผลใช้เป็นระยะเวลา
6 เดือน นับแต่วันเซ็นสัญญา เนื้อหาในสัญญาได้ตกลงกันว่า จะไม่มีการฟ้องบริษัทธานินทร์อุตสาหกรรม
และให้เงินทุนหมุนเวียนแก่บริษัทอีก 50 ล้านบาท โดยธนาคารแหลมทองจะเป็นธนาคารหลัก
หากธนาคารแหลมทองมีปัญหาเหล่าธนาคารอื่นจะต้องช่วยเหลือกัน
นอกจากนั้นเจ้าหนี้บางรายจะใช้วิธีการให้บริษัทขายทรัพย์สินของบริษัทไปบางส่วน
เพื่อให้ภาระหนี้ 600 กว่าล้านบาทลดลงเหลือ 400 กว่าล้านบาทให้ได้ ซึ่งบริษัทธานินทร์ฯ
มีที่ดินอยู่ประมาณ 7-8 แห่งที่จะนำมาขายได้
ในการประชุมยังได้มีการตกลงกันอีกว่าในช่วงระยะ 6 เดือนนี้จะเฝ้ารอดูผลการดำเนินงานของบริษัท
ศึกษาดูถึงปัญหาและจะกำหนดมาตรการการช่วยเหลือต่อไป พร้อมทั้งในช่วงดังกล่าวจะต้องมีการลดสินค้าคงคลังที่มีอยู่สูงมากเกินไปให้เหลือน้อยกว่าเดิม
และเตรียมใช้มาตรการเรียกเก็บหนี้จากลูกหนี้การค้าเก่า ๆ ของบริษัทให้ได้