|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ระหว่างที่ Jiang Pusheng เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำสิบสองปันนา และประธานสมาคมมิตรภาพระหว่างประเทศสิบสองปันนา พร้อมตัวแทนภาครัฐ-เอกชนจากสิบสองปันนา ทั้ง Chen Qizong รองผู้ว่าการการเขตปกครองตนเองชนชาติไตสิบสองปันนา, Lu Jingquan ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวสิบสองปันนา, Den Xiping รองประธาน Yunnan Airport Group Co.,ltd. ฯลฯ ตลอดจน ดร.จู เหว่ย หมิง กงสุลจีนประจำเชียงใหม่ ร่วมประชุมกันที่ห้องประชุม 3 ชั้น 3 ตึกอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคมปีที่แล้วนั้น
Jiang Pusheng เพียรพยายามชักชวนให้มีการเปิดเส้นทางบินจากภาคเหนือของไทยเชื่อมสิบสองปันนา หรือจิ่งหง หรือเชียงรุ่ง เพื่อเพิ่มทางเลือกให้นักเดินทางมากขึ้น นอกเหนือไปจากเส้นทางเดินเรือในแม่น้ำโขง, ถนน R3a ที่เปิดใช้แล้ว และถนน R3b ที่กำลังรอการเปิดใช้อย่างเป็นทางการ
จากที่ก่อนหน้านี้เคยมีการบินในเส้นทางบินเชียงใหม่-เชียงรุ่งมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ก็ถูกยกเลิกไป
"เส้นทางบินนี้จะไม่มีการขาดทุนแน่นอน" Jiang Pusheng การันตีกลางที่ประชุมคราวนั้น
ตามมาด้วยข้อเสนอยกเว้นค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ทั้งค่าจอด ค่าตรวจเอกสาร ฯลฯ ในปีแรก ส่วนปีที่ 2 จะเก็บในอัตรา 50% ปีที่ 3 เก็บ 80% ปีที่ 4 ขึ้นไปจึงจะเก็บ 100% ซึ่งเงื่อนไขนี้ยังสามารถเจรจากันได้อีก
นอกจากนี้เลขาพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำสิบสองปันนายังเพียรย้ำว่า จะพยายามส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาเที่ยวสิบสองปันนาปีละกว่า 7 ล้านคน ให้เดินทางมาเชียงใหม่ เชียงรายด้วย ตลอดจนสนับสนุนให้ชาวไตในสิบสองปันนาให้เดินทางมาเยี่ยมญาติพี่น้องในภาคเหนือของไทยให้มากขึ้น ซึ่งขณะนี้ประชาชนในสิบสองปันนามีรายได้สูงขึ้น จนมีศักยภาพพอที่จะเดินทางท่องเที่ยวได้แล้ว และจะส่งเสริมให้ข้าราชการเดินทางมาดูงานในภาคเหนือของไทยมากขึ้นด้วย
และคราวนั้นคณะของ Jiang Pusheng ยังได้หารือร่วมกับผู้บริหารของสายการบินเอสจีเอในเรื่องเดียวกันนี้ด้วย
ในที่สุด ได้นำมาซึ่งข้อตกลงที่เอสจีเอจะเปิดบินจากเชียงราย-เชียงรุ่ง ด้วยเครื่องรุ่น 304 ขนาด 33 ที่นั่ง กำหนดเปิด เที่ยวบินปฐมฤกษ์ในวันที่ 1 เมษายนที่จะถึงนี้ (2553)
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด วันชัย ช่วงชัยกิจการ รองผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด สายการบินเอสจีเอ ได้ระบุว่าต้องเลื่อนกำหนดเปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์เชียงราย-เชียงรุ่งไปก่อน เบื้องต้นอาจจะเริ่มเปิดให้บริการเดือนพฤษภาคม 2553 เป็นต้นไป เนื่องจากการจัดทำเอกสารที่เกี่ยวข้องภายในประเทศจีน และเรื่องจำนวน นักบินยังไม่เรียบร้อย
เอสจีเอได้เดินเรื่องเอกสารต่อทางการสิบสองปันนาเสร็จสิ้นแล้ว แต่ยังต้องรอขั้นตอนตามระเบียบของ สป.จีน ที่ปักกิ่งอยู่ ประกอบกับที่ผ่านมา เอสจีเอได้ขยายเส้นทางบินใน ประเทศจากเส้นทางสายหลักเชียงราย เชียงใหม่ ปาย แม่ฮ่องสอน ไปยังภาคอีสาน โดยเฉพาะอุดรธานี ที่ได้รับการตอบรับดีมาก อัตราผู้โดยสารเพิ่มจาก 40% เป็น 70-80% บางเส้นทางเพิ่มเป็น 100% ทีเดียว จึงต้องจัดเตรียมความพร้อมของนักบินมากขึ้น
เขายืนยันว่า เส้นทางบินเชียงราย-เชียงรุ่ง เกิดแน่นอน และมีแนวโน้มว่าจะต้องเพิ่มไฟลท์บินจากวันละ 1 เที่ยวบิน เป็น 2 เที่ยวบินด้วยซ้ำ แต่ระยะแรกคงจะเริ่มต้นที่ 1 เที่ยวบิน ก่อน
ทั้งนี้ วันชัยยังบอกว่า เอสจีเอได้รับการอนุเคราะห์จากทางการสิบสองปันนาอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นค่าธรรมเนียมจอดหรือเรื่องอื่นๆ ส่งผลให้สามารถคิดราคาค่าโดยสารเบื้องต้นในเส้นทางบินนี้ประมาณเที่ยวละประมาณ 5,000 กว่าบาทต่อที่นั่งเท่านั้น
|
|
|
|
|