|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เมื่อ 20 ปีก่อนผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ Trevor Hopkins หนีความหนาวเหน็บของกรุงลอนดอนไปหาความอบอุ่นจากไอแดดของฤดูหนาวที่ Marrakesh เมืองซึ่งอยู่ทางตะวันตกของประเทศโมร็อกโก แล้วเขาก็ตกหลุมรักเมืองนี้ตั้งแต่นั้น จึงเล่าถึงเส้นทางเดินทางของตัวเองว่า
"ตอนนั้นผมนั่งเรือมาขึ้นบกที่เมืองแทนเจียร์ ซึ่งอยู่ทางเหนือของโมร็อกโก จากนั้นก็ลงใต้ไปที่ Marrakesh และทะเลทราย ที่อยู่ไกลออกไป จริงๆ แล้วผมเดินทางไปทั่วแต่จะต้องกลับมาที่ Marrakesh เสมอ สำหรับผมแล้วที่นี่มีแต่ความเป็นมิตรและน่าตื่นตาตื่นใจไม่รู้จบ อีกหลายปีต่อมาผมก็ชวนเพื่อนๆ ไปพักผ่อนและเข้าพักตามโรงแรมเล็กๆ ในแขตเมืองเก่าต่างๆ พอถึงช่วงกลางทศวรรษ 1990 ผมย้ายไปอยู่แอลเอนานถึง 4 ปี แต่ในท้ายที่สุดก็อดคิดถึงบ้านเกิดที่ลอนดอนไม่ได้จึงย้ายกลับมา"
หลังจากนั้น Trevor เริ่มเดินทางไปพักผ่อนที่ Marrakesh อีก ทุกครั้งที่ไปเขามักเข้าพักที่ B&B โรงแรมสไตล์โบฮีเมียของนักออกแบบแฟชั่นมือฉมัง Chelita Salvatori ซึ่งเป็นชาวตรินิแดด และเป็นเพื่อนกับนักออกแบบแถวหน้าของโลก อาทิ Ossie Clark, Manolo Blahnik และ Luciana Martinez de la Rosa
"ที่น่าเศร้าคือ Chelita เสียชีวิตไปเมื่อ 10 ปีก่อน จึงมีการนำเอาทรัพย์สินของเธอออกขายซึ่งประกอบด้วยบ้าน 3 หลังตั้งอยู่ในเขตเก่าแก่ที่สุดของ Marrakesh ผมจึงซื้อเอาไว้สองหลังคือส่วนของเรือนรับรองและส่วนต่อขยายที่อยู่ติดกัน"
เมื่อซื้อมาไว้ในครอบครองแล้ว Trevor วางแผนบูรณะบ้าน หลังใหม่ของตัวเองอย่างเป็นระบบ
"จริงๆ แล้วจะพูดว่า บ้านในส่วนที่ผมซื้อเอาไว้อยู่ในสภาพ ทรุดโทรมหมดสภาพแล้วก็ไม่ผิดนัก ผมจึงขอให้เพื่อนศิลปินคือ
Jennifer Lloyd ช่วยออกแบบให้ เพราะเธอรับงานคล้ายคลึงกันนี้ที่โมร็อกโกอยู่แล้วและผมชอบสไตล์เรียบง่ายมาก เราตัดสินใจสร้างบ้านขึ้นมาใหม่โดยเริ่มจากส่วนของฐานรากขึ้นมาเลย นอกจากนี้ ยังติดตั้งระบบระบายน้ำและระบบไฟใหม่ทั้งหมด ส่วนรูปทรงของห้องยังคงเดิมเอาไว้แต่รื้อผนังออกสองสามจุดเพื่อเพิ่มพื้นที่ และให้รับแสงสว่างได้มากขึ้น"
จากประสบการณ์ของอาชีพผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ นั่นย่อมหมายความว่า Trevor ต้องสามารถควบคุมให้งานแล้วเสร็จตามกำหนดและในงบประมาณที่ตั้งไว้ด้วย
"งานก่อสร้างเริ่มต้นในเดือนพฤษภาคม และผมก็ยืนกรานว่าจะต้องย้ายเข้าช่วงเทศกาลคริสต์มาสให้ได้ ผมทำได้จริงๆ"
พอมาถึงเรื่องงานตกแต่ง Trevor ลังเลใจระหว่างการตกแต่งให้เป็นแบบ Arabian Nights หรือคงไว้ซึ่งความเรียบง่าย "ทีแรกห้องนั่งเล่นทาสีน้ำตาลปนแดง แต่มันจะเบื่อง่าย ผมจึงทาสีใหม่เป็นสีขาวซึ่งดูดีกว่ามาก ส่วนสีสันในห้องนั้นคิดว่าผลไม้และ ดอกไม้ที่นำมาประดับก็ให้สีสันมากเกินพอแล้ว"
เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ส่วนใหญ่จะซื้อจากตลาดนัดของมือสอง เช่น เก้าอี้มีที่วางแขนสไตล์ฝรั่งเศสยุคทศวรรษ 1930 สองตัวที่ตั้งอยู่ในห้องนั่งเล่น ที่สำคัญ Trevor ไม่ลืมใช้ประโยชน์จากความงามในท้องถิ่นโดยเฉพาะระบบไฟส่องสว่างต่างๆ
ห้องนั่งเล่นเป็นตัวอย่างของการดัดแปลงได้อย่างดีเยี่ยม เพราะทั้งสองด้านของห้องจะมีเก้าอี้แสนสบายไว้ให้นั่งอ่านหนังสือ พูดคุย หรือสำหรับทั้งสองกิจกรรมในเวลาเดียวกัน ส่วนหิ้งของเตาผิงติดฝาผนัง (chimney piece) ที่เป็นรูปโค้งนั้นเป็นความคิดของ Jennifer ล้วนๆ "เธอยืนกรานให้เป็นรูปโค้งเพราะจะทำให้ความร้อนจากเตาผิงแผ่ออกไปทั่วทั้งห้องดีกว่าจะเน้นให้ไปตกอยู่ตรงจุดใดจุดหนึ่งเท่านั้น รูปทรงโค้งนี้จึงเหมาะ กับห้องนี้อย่างที่สุด"
หิ้งของเตาผิงติดฝาผนังรูปโค้งนี้ยังติดตั้งอยู่ในห้องนอนใหญ่ชั้นบนด้วย ห้องนี้เน้นวัสดุธรรมชาติและเก้าอี้มีที่วางแขนสไตล์วินเทจคลุมด้วยผ้าลินินฟอกขาวแบบสวีเดนซึ่งให้ความรู้สึกนุ่มสบายจนเกินคำบรรยายเลยทีเดียว
ชั้นบนยังเป็นที่ตั้งของห้องนอนสำรองอีกสองห้อง ห้องหนึ่งนั้นเดิมเป็นห้องเก็บอาหารสัตว์ Trevor จึงต้องการให้คงสภาพความเป็นชนบทเรียบง่ายเอาไว้ จึงสร้างฐานเตียงและเฮดบอร์ดไว้ระหว่างท่อนซุงค้ำหลังคาสองท่อนซึ่งมั่นคงแข็งแรงมาก ท่อนซุงนี้ทาด้วยน้ำปูนขาวจึงมีสีขาวบริสุทธิ์กลมกลืนกับผนังและคานค้ำหลังคา
ในค่ำคืนกลางฤดูร้อน ปาร์ตี้จะจัดกันที่ลานบ้านซึ่ง Trevor เนรมิตให้เป็น โอเอซิสอันสุขสงบที่สมบูรณ์แบบด้วยต้นมะกอกและเสียงน้ำไหลเอื่อยๆ
แม้ว่าจะตั้งอยู่บริเวณใจกลางของเขตเก่าแก่ แต่บ้านหลังนี้ก็ให้ความรู้สึกว่าได้แยกตัวเองออกมาจากโลกภายนอกอย่างที่ Trevor เล่าว่า "จะพูดว่าบ้านใน Marrakesh เต็มไปด้วยความลึกลับก็เห็นจะไม่ผิด เพราะโดยทั่วไปแล้วจะสร้างให้ หน้าต่างเปิดออกสู่ลานบ้านมากกว่าจะเปิดออกสู่ถนน เมื่อผมอยากให้บ้านเงียบสงบ ก็ให้บรรยากาศนี้ได้อย่างสมบูรณ์ แต่ก็สามารถทำให้เป็นสถานจัดเลี้ยงได้อย่างวิเศษด้วย เราเคยจัดดินเนอร์ปาร์ตี้ที่เชิญแขกมาร่วมงานถึง 30 คนได้สบายๆ"
นอกจากจะเป็นบ้านแสนสุขแล้ว Trevor ยังใช้บ้านหลังนี้เป็นที่ตั้งบริษัท Medina Productions ด้วย เขาเล่าอย่างตื่นเต้นว่า "เพียงบินออกจากลอนดอนมาสามชั่วโมงครึ่งผมก็ได้มาอยู่อีกโลกหนึ่งแล้ว ยิ่งได้รู้จัก Marrakesh และบริเวณโดยรอบมากขึ้นเท่าไร ผมก็ยิ่งหลงรักที่นี่มากขึ้นเท่านั้น นับจากมาถึงที่นี่ครั้งแรกจนถึงวันนี้ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปมากมาย แต่ผมถือว่าเป็นการผจญภัย อย่างแท้จริง แม้จะมีการปรับตัวเปลี่ยนแปลงเพื่อรองรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว แต่ Marrakesh ก็ยังมีมนต์เสน่ห์อีกมากและไม่เสื่อมคลายเหมือนชาวเมืองที่ทั้งร่าเริงและเฉลียวฉลาด
Trevor ตั้งชื่อบ้านหลังโปรดของเขาให้เป็นอนุสรณ์กับเจ้าของเก่าผู้ล่วงลับไปแล้วว่า Dar Chelita
|
|
|
|
|