|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
กอลมาร์ (Colmar) เป็นถิ่นกำเนิดของคนดังหลายคน ในจำนวนนั้นมีโอกุสต์ บาร์โทลดี (Auguste Bartholdi) เจ้าของผลงานเทพีเสรีภาพอันเลื่องชื่อ
เฟรเดริก โอกุสต์ บาร์โทลดี (Frederic Auguste Bartholdi) เกิดที่กอล มาร์ ในปี 1834 พ่อซึ่งเป็นที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัด เสียชีวิตขณะที่เขาอายุเพียง 5 ขวบ แม่จึงพาเขาและพี่ชายไปพำนักที่กรุงปารีส โอกุสต์ บาร์โทลดีเรียนที่โรงเรียน Lycee Louis-le-Grand และ Ecole des beaux-arts พร้อมกับเรียนวาดรูปกับอารี เชฟแฟร์ (Ary Scheffer) ด้วย ซึ่งเป็นผู้ทำให้เขาตระหนักว่ามีพร สวรรค์ด้านประติมากรรม รูปปั้นสามรูปแรกคือ Le Bon Samaritain (1853) Francoise de Rimini (1854) และ La legande de sept Souabes (1855) อยู่ที่พิพิธภัณฑ์บาร์โทลดีที่เมืองกอลมาร์
โอกุสต์ บาร์โทลดีออกแบบรูปปั้นนายพลรัปป์ (General Rapp) ให้แก่เมืองกอลมาร์ในปี 1856 เขาเดินทางไปอียิปต์และเยเมนในปี 1857 ในปีเดียวกันนี้ เขาชนะการออกแบบรูปปั้นให้เมืองบอร์โดซ์ (Bordeaux) หากผู้บริหารบอร์โดซ์ไม่ชอบ ใจนัก จึงไม่ได้มีการสร้าง ต่อมาเมืองบอร์ โดซ์ขายต่อให้เมืองลิอง (Lyon) รูปปั้น La Saone emportant ses affluents จึงตั้งตระหง่านที่ Place des Terreaux ในเมืองลิอง
โอกุสต์ บาร์โทลดีเดินทางไปอียิปต์ อีกครั้งหนึ่งในปี 1869 เขาออกแบบประภาคารสำหรับ สุเอซ เรียกชื่อว่า L'Egypte eclairant l'Orient หรือ L'Egyte apportant la lumiere a l'Asie หากรัฐบาลอียิปต์ไม่เห็นชอบ จึงไม่มีการสร้าง รูปแบบประภาคารนี้เป็นที่มาของรูปปั้นเทพีเสรีภาพ ในปี 1870 ฝรั่งเศสทำสงครามกับปรัสเซีย โอกุสต์ บาร์โทลดีไปเป็นนายทหารติดต่อ สงครามนี้ทำให้ฝรั่งเศสเสียดินแดนอัลซาส (Alsace) และลอแรน (Lorraine)
ในปี 1871 เอดูอารด์ เลอแฟบร์ เดอ ลาบูเลย์ (Edouard Lefebre de Laboulaye) อยากมอบของขวัญให้ชาวอเมริกันในวาระที่สหรัฐอเมริกาประกาศอิสรภาพครบ 100 ปี (1776-1876) จึงขอให้โอกุสต์ บาร์โทลดีออกแบบอนุสาวรีย์ที่จะเป็นประจักษ์พยานในสัมพันธภาพระหว่างฝรั่งเศสและสหรัฐอเมริกา โอกุสต์ บาร์โทลดีต้องเดินทางสหรัฐอเมริกาเพื่อเลือกสถานที่ที่จะตั้งอนุสาวรีย์ La liberte eclairant le monde และเลือกเกาะเบดโล (Bedloe's Island) ที่นิวยอร์ก ปัจจุบันคือ Liberty island
La liberte eclairant le monde นั้นปรับปรุงจากแบบ L'Egypte eclairant l'Orient ซึ่งโอกุสต์ บาร์โทลดีออกแบบสำหรับคลองสุเอซ ชาวฝรั่งเศสออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ยกเว้นค่าก่อสร้างฐานที่ตั้งซึ่งออกแบบโดยชาวอเมริกัน เพื่อรวบรวมเงิน สำหรับโครงการนี้ มีการนำชิ้นส่วนที่สร้าง เสร็จออกแสดงและเก็บเงินค่าเข้าชม มือและเปลวไฟไปแสดงที่เอ็กซ์โปนานาชาติที่ฟิลาเดลเฟียในปี 1876 ตามด้วยที่เมดิสันสแควร์ (Madison Square) ในนิวยอร์ก ส่วนศีรษะนำออกแสดงที่เอ็กซ์โปนานาชาติ ที่ปารีสในปี 1878 ต่อมาในปี 1884 ทำพิธี มอบเทพีเสรีภาพอย่างเป็นทางการแก่สหรัฐอเมริกาที่กรุงปารีส และชิ้นส่วนทั้งหมดลงเรือ L'Isere ไปนิวยอร์กในเดือน กรกฎาคม 1886 ทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 1886 จารึกบนเทพีเสรีภาพว่า 4 juillet 1776, jour de l'independance americaine-4 กรกฎาคม 1776 วันประกาศอิสรภาพของสหรัฐอเมริกา วิศวกรผู้ออกแบบโครงสร้างของเทพีเสรีภาพคือ เออแจน วีโอลเลต์-เลอ-ดุก (Viollet-le-Duc) ทว่าเขาเสียชีวิต ก่อนในปี 1879 วิศวกรโครงสร้างคนใหม่คือ กุสตาฟ เอฟเฟล (Gustave Eiffel) ผู้สร้าง หอเอฟเฟล (Tour Eiffel) นั่นเอง
โอกุสต์ บาร์โทลดีมีผลงานมากมาย ในสหรัฐอเมริกา เช่น รูปปั้นนายพลลา ฟาแยต (La Fayette) ที่ยูเนียนสแควร์ (Union Square) ในนิวยอร์ก และ The Bartholdi Fountain ใน Bartholdi Park ในวอชิงตัน เป็นต้น เขาปั้นรูปคริสโตเฟอร์ โคลัมบัสสำหรับงานเอ็กซ์โปนานาชาติที่ชิคาโกในปี 1893 รูปปั้นรูเจต์ เดอ ลิส์ล (Rouget de Lisle) ผู้แต่งเพลงชาติฝรั่งเศส La Marseillaise รูปปั้นลา ฟาแยตและจอร์จ วอชิงตัน ซึ่งตั้งที่ Place des Etats-Unis ในปารีส รูปปั้นแวร์แซงเจโตริกซ์ (Vercingetorix) ผู้นำชาวโกลัวส์ (Gaulois) ที่ทำสงครามต่อต้านกองทัพโรมัน อยู่ที่เมืองแคลร์มงต์-แฟรองด์ (Clermont-Ferrand) รูปปั้น Lion de Belfort เป็นต้น
ในเมืองกอลมาร์มีผลงานของโอกุสต์ บาร์โทลดี 7 ชิ้น เช่น Fontaine Schongauer, Fontaine Bruat, Fontaine Schwendi และ Jeune vigneron alsacien
โอกุสต์ บาร์โทลดีถึงแก่กรรมในปี 1904 ที่กรุงปารีส มีการสร้างอนุสาวรีย์เพื่อรำลึกถึงเขาในสวนของชาโต-โด (Chateau d'eau) ที่กอลมาร์ นอกจากนั้นภรรยาม่ายของเขายกบ้านที่กอลมาร์ พร้อมเครื่องเรือน หนังสือ งานศิลป์และสิ่งละอันพันละน้อยอันพึงมีแก่เมืองกอลมาร์ ระหว่างนั้นฌาน-เอมิลี บาร์โทลดี (Jeanne-Emilie Bartholdi) ได้ย้ายสมบัติบางส่วนจากบ้านพักในกรุงปารีส มายังบ้านที่กอล มาร์ ซึ่งภายหลังทำเป็นพิพิธภัณฑ์บาร์โทลดี (Musee Bartholdi) ผลงานของโอกุสต์ บาร์โทลดีที่แสดงในพิพิธภัณฑ์อุนเตอร์ลินเดน (Musee Unterlinden) ในกอลมาร์ย้ายมาที่พิพิธภัณฑ์บาร์โทลดีด้วย ซึ่งเปิดในปี 1922
เพียงเข้ามาในพิพิธภัณฑ์บาร์โทลดี รูปปั้นผลงานของโอกุสต์ บาร์โทลดี Grands soutiens du monde ตั้งเด่นในลาน ภาย ในมีรูปปั้นปูนปลาสเตอร์ที่ทำเป็นโครงคร่าวๆ ของรูปปั้นที่จะปั้นจริงมากมาย เช่น เทพีเสรีภาพ ลา ฟาแยตและวอชิงตัน นายพลรัปป์ ชองโปลลิอง (Champollion) สิงโต แห่งเบลฟอรต์ (Lion de belfort) มาร์แตง เชินกาวเออร์ (Martin Schongauer) เป็นต้น ทั้งยังมีเครื่องเรือน ตู้หนังสือ ภาพเขียนที่โอกุสต์ บาร์โทลดีวาดเอง
รูปปั้นจำลองเทพีเสรีภาพมีหลายชิ้นด้วยกัน ชิ้นหนึ่งตั้งที่ Ile des Cygnes ในปารีส อีกชิ้นหนึ่งตั้งตรงทางเข้าเมืองกอลมาร์
|
|
|
|
|