Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา เมษายน 2553
พิพิธภัณฑ์บาร์โทลดี             
โดย สุภาพิมพ์ ธนะพรพันธุ์
 


   
search resources

Museum




กอลมาร์ (Colmar) เป็นถิ่นกำเนิดของคนดังหลายคน ในจำนวนนั้นมีโอกุสต์ บาร์โทลดี (Auguste Bartholdi) เจ้าของผลงานเทพีเสรีภาพอันเลื่องชื่อ

เฟรเดริก โอกุสต์ บาร์โทลดี (Frederic Auguste Bartholdi) เกิดที่กอล มาร์ ในปี 1834 พ่อซึ่งเป็นที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัด เสียชีวิตขณะที่เขาอายุเพียง 5 ขวบ แม่จึงพาเขาและพี่ชายไปพำนักที่กรุงปารีส โอกุสต์ บาร์โทลดีเรียนที่โรงเรียน Lycee Louis-le-Grand และ Ecole des beaux-arts พร้อมกับเรียนวาดรูปกับอารี เชฟแฟร์ (Ary Scheffer) ด้วย ซึ่งเป็นผู้ทำให้เขาตระหนักว่ามีพร สวรรค์ด้านประติมากรรม รูปปั้นสามรูปแรกคือ Le Bon Samaritain (1853) Francoise de Rimini (1854) และ La legande de sept Souabes (1855) อยู่ที่พิพิธภัณฑ์บาร์โทลดีที่เมืองกอลมาร์

โอกุสต์ บาร์โทลดีออกแบบรูปปั้นนายพลรัปป์ (General Rapp) ให้แก่เมืองกอลมาร์ในปี 1856 เขาเดินทางไปอียิปต์และเยเมนในปี 1857 ในปีเดียวกันนี้ เขาชนะการออกแบบรูปปั้นให้เมืองบอร์โดซ์ (Bordeaux) หากผู้บริหารบอร์โดซ์ไม่ชอบ ใจนัก จึงไม่ได้มีการสร้าง ต่อมาเมืองบอร์ โดซ์ขายต่อให้เมืองลิอง (Lyon) รูปปั้น La Saone emportant ses affluents จึงตั้งตระหง่านที่ Place des Terreaux ในเมืองลิอง

โอกุสต์ บาร์โทลดีเดินทางไปอียิปต์ อีกครั้งหนึ่งในปี 1869 เขาออกแบบประภาคารสำหรับ สุเอซ เรียกชื่อว่า L'Egypte eclairant l'Orient หรือ L'Egyte apportant la lumiere a l'Asie หากรัฐบาลอียิปต์ไม่เห็นชอบ จึงไม่มีการสร้าง รูปแบบประภาคารนี้เป็นที่มาของรูปปั้นเทพีเสรีภาพ ในปี 1870 ฝรั่งเศสทำสงครามกับปรัสเซีย โอกุสต์ บาร์โทลดีไปเป็นนายทหารติดต่อ สงครามนี้ทำให้ฝรั่งเศสเสียดินแดนอัลซาส (Alsace) และลอแรน (Lorraine)

ในปี 1871 เอดูอารด์ เลอแฟบร์ เดอ ลาบูเลย์ (Edouard Lefebre de Laboulaye) อยากมอบของขวัญให้ชาวอเมริกันในวาระที่สหรัฐอเมริกาประกาศอิสรภาพครบ 100 ปี (1776-1876) จึงขอให้โอกุสต์ บาร์โทลดีออกแบบอนุสาวรีย์ที่จะเป็นประจักษ์พยานในสัมพันธภาพระหว่างฝรั่งเศสและสหรัฐอเมริกา โอกุสต์ บาร์โทลดีต้องเดินทางสหรัฐอเมริกาเพื่อเลือกสถานที่ที่จะตั้งอนุสาวรีย์ La liberte eclairant le monde และเลือกเกาะเบดโล (Bedloe's Island) ที่นิวยอร์ก ปัจจุบันคือ Liberty island

La liberte eclairant le monde นั้นปรับปรุงจากแบบ L'Egypte eclairant l'Orient ซึ่งโอกุสต์ บาร์โทลดีออกแบบสำหรับคลองสุเอซ ชาวฝรั่งเศสออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ยกเว้นค่าก่อสร้างฐานที่ตั้งซึ่งออกแบบโดยชาวอเมริกัน เพื่อรวบรวมเงิน สำหรับโครงการนี้ มีการนำชิ้นส่วนที่สร้าง เสร็จออกแสดงและเก็บเงินค่าเข้าชม มือและเปลวไฟไปแสดงที่เอ็กซ์โปนานาชาติที่ฟิลาเดลเฟียในปี 1876 ตามด้วยที่เมดิสันสแควร์ (Madison Square) ในนิวยอร์ก ส่วนศีรษะนำออกแสดงที่เอ็กซ์โปนานาชาติ ที่ปารีสในปี 1878 ต่อมาในปี 1884 ทำพิธี มอบเทพีเสรีภาพอย่างเป็นทางการแก่สหรัฐอเมริกาที่กรุงปารีส และชิ้นส่วนทั้งหมดลงเรือ L'Isere ไปนิวยอร์กในเดือน กรกฎาคม 1886 ทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 1886 จารึกบนเทพีเสรีภาพว่า 4 juillet 1776, jour de l'independance americaine-4 กรกฎาคม 1776 วันประกาศอิสรภาพของสหรัฐอเมริกา วิศวกรผู้ออกแบบโครงสร้างของเทพีเสรีภาพคือ เออแจน วีโอลเลต์-เลอ-ดุก (Viollet-le-Duc) ทว่าเขาเสียชีวิต ก่อนในปี 1879 วิศวกรโครงสร้างคนใหม่คือ กุสตาฟ เอฟเฟล (Gustave Eiffel) ผู้สร้าง หอเอฟเฟล (Tour Eiffel) นั่นเอง

โอกุสต์ บาร์โทลดีมีผลงานมากมาย ในสหรัฐอเมริกา เช่น รูปปั้นนายพลลา ฟาแยต (La Fayette) ที่ยูเนียนสแควร์ (Union Square) ในนิวยอร์ก และ The Bartholdi Fountain ใน Bartholdi Park ในวอชิงตัน เป็นต้น เขาปั้นรูปคริสโตเฟอร์ โคลัมบัสสำหรับงานเอ็กซ์โปนานาชาติที่ชิคาโกในปี 1893 รูปปั้นรูเจต์ เดอ ลิส์ล (Rouget de Lisle) ผู้แต่งเพลงชาติฝรั่งเศส La Marseillaise รูปปั้นลา ฟาแยตและจอร์จ วอชิงตัน ซึ่งตั้งที่ Place des Etats-Unis ในปารีส รูปปั้นแวร์แซงเจโตริกซ์ (Vercingetorix) ผู้นำชาวโกลัวส์ (Gaulois) ที่ทำสงครามต่อต้านกองทัพโรมัน อยู่ที่เมืองแคลร์มงต์-แฟรองด์ (Clermont-Ferrand) รูปปั้น Lion de Belfort เป็นต้น

ในเมืองกอลมาร์มีผลงานของโอกุสต์ บาร์โทลดี 7 ชิ้น เช่น Fontaine Schongauer, Fontaine Bruat, Fontaine Schwendi และ Jeune vigneron alsacien

โอกุสต์ บาร์โทลดีถึงแก่กรรมในปี 1904 ที่กรุงปารีส มีการสร้างอนุสาวรีย์เพื่อรำลึกถึงเขาในสวนของชาโต-โด (Chateau d'eau) ที่กอลมาร์ นอกจากนั้นภรรยาม่ายของเขายกบ้านที่กอลมาร์ พร้อมเครื่องเรือน หนังสือ งานศิลป์และสิ่งละอันพันละน้อยอันพึงมีแก่เมืองกอลมาร์ ระหว่างนั้นฌาน-เอมิลี บาร์โทลดี (Jeanne-Emilie Bartholdi) ได้ย้ายสมบัติบางส่วนจากบ้านพักในกรุงปารีส มายังบ้านที่กอล มาร์ ซึ่งภายหลังทำเป็นพิพิธภัณฑ์บาร์โทลดี (Musee Bartholdi) ผลงานของโอกุสต์ บาร์โทลดีที่แสดงในพิพิธภัณฑ์อุนเตอร์ลินเดน (Musee Unterlinden) ในกอลมาร์ย้ายมาที่พิพิธภัณฑ์บาร์โทลดีด้วย ซึ่งเปิดในปี 1922

เพียงเข้ามาในพิพิธภัณฑ์บาร์โทลดี รูปปั้นผลงานของโอกุสต์ บาร์โทลดี Grands soutiens du monde ตั้งเด่นในลาน ภาย ในมีรูปปั้นปูนปลาสเตอร์ที่ทำเป็นโครงคร่าวๆ ของรูปปั้นที่จะปั้นจริงมากมาย เช่น เทพีเสรีภาพ ลา ฟาแยตและวอชิงตัน นายพลรัปป์ ชองโปลลิอง (Champollion) สิงโต แห่งเบลฟอรต์ (Lion de belfort) มาร์แตง เชินกาวเออร์ (Martin Schongauer) เป็นต้น ทั้งยังมีเครื่องเรือน ตู้หนังสือ ภาพเขียนที่โอกุสต์ บาร์โทลดีวาดเอง

รูปปั้นจำลองเทพีเสรีภาพมีหลายชิ้นด้วยกัน ชิ้นหนึ่งตั้งที่ Ile des Cygnes ในปารีส อีกชิ้นหนึ่งตั้งตรงทางเข้าเมืองกอลมาร์   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us