|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
การได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการธนาคารพาณิชย์ท้องถิ่นในจีนของธนาคารกรุงเทพ และความร่วมมือในการปล่อยสินเชื่อให้กับเอสเอ็มอีในจีนของธนาคารกสิกรไทยกับธนาคารหมินเซิง
ถือเป็นก้าวรุกอันสำคัญยิ่งอีกก้าวหนึ่งของธนาคารพาณิชย์ ไทย ในการเกาะเกี่ยวการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของสาธารณรัฐ ประชาชนจีน ที่ยังมีแนวโน้มว่ายังไม่ถึงจุดสูงสุด
เป็นก้าวรุกที่แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการอย่างต่อเนื่องของธุรกิจธนาคารพาณิชย์ในไทย ในรอบเกือบ 2 ทศวรรษมานี้
ที่ผ่านมาธนาคารพาณิชย์ของไทยเคยหลงระเริงกับเศรษฐกิจ ในยุคฟองสบู่ในปี 2537-2538 ต้องดิ้นรน กระเสือกกระสนเพื่อให้อยู่รอดจากภาวะวิกฤติในประเทศเมื่อปี 2540-2542 และต้องประคองตัวให้ผ่านพ้นวิกฤติเศรษฐกิจโลกในช่วงปี 2551-2552
ทั้งธนาคารกรุงเทพ และกสิกรไทย ล้วนมีประสบการณ์จากปรากฏการณ์เหล่านั้น และเริ่มมองไปถึงอนาคตในวันข้างหน้า ทั้ง 2 ธนาคารเริ่มก้าวขาเข้าไปในจีน ในแบบที่มีการวางแผนเอาไว้ อย่างดี และเป็นระบบมิใช่การตามแห่เข้าไปแบบเป็นแฟชั่นเหมือน ธุรกิจอื่นๆ
แรงบันดาลใจและเป้าหมายในการทำธุรกิจในจีนของธนาคารพาณิชย์ไทยทั้ง 2 ธนาคารนั้น ไม่แตกต่างกัน นั่นคือการจับกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการในจีน ในขนาดธุรกิจที่ไม่ใช่เป็น Big Corporate
เป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ทั้ง 2 ธนาคารถนัด และธุรกิจใน จีนทุกวันนี้ยังพอจะมีช่องว่างเหลืออยู่ให้สามารถสอดแทรกเข้าไปได้
ที่มาที่ไปในการรุกเข้าไปในจีนของทั้ง 2 ธนาคารนั้นมีความต่างกันอยู่บ้าง
ธนาคารกรุงเทพมองเรื่องจีนไว้ตั้งแต่ยุคของนายห้างชิน โสภณพนิช มีการวางเครือข่ายธุรกิจเอาไว้อย่างกว้างขวาง ทั้งในฮ่องกง ไต้หวัน และจีนแผ่นดินใหญ่
ขณะที่ธนาคารกสิกรไทย บัณฑูร ล่ำซำยอมรับว่าเริ่มให้ความสนใจจีนเมื่อประมาณ 7 ปีที่ผ่านมานี้เอง
แต่บัณฑูรก็ให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจในจีนเป็นอย่างมาก ถึงขนาดที่เอ่ยปากออกมาว่า "ชีวิตที่เหลือของผม คือในเมือง จีน"
และเป้าหมายสูงสุดของธนาคารกสิกรไทยในจีน ก็มิได้หยุดไว้เพียงแค่การเปิดเป็นเพียงสาขาของธนาคารไทย
ธนาคารกสิกรไทยก็ต้องการได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการธนาคารพาณิชย์ท้องถิ่น เหมือนกับธนาคารกรุงเทพ
ปัจจุบันหากนับจำนวนธนาคารพาณิชย์ที่มีอยู่ในไทย ธนาคารที่เป็นของคนไทยจริงๆ แล้วเหลือเพียง 4 แห่ง
ในจำนวนนี้เป็นธนาคารพาณิชย์ของเอกชนล้วนๆ เพียง 2 แห่ง คือธนาคารกรุงเทพ และกสิกรไทย
ส่วนธนาคารกรุงไทยก็เป็นธนาคารรัฐวิสาหกิจ ขณะที่ธนาคารไทยพาณิชย์ กลุ่มผู้ถือหุ้นหลักเป็นสถาบัน
กลุ่มตระกูลผู้ก่อตั้งทั้งของธนาคารกรุงเทพ และกสิกรไทย ล้วนมีเชื้อสายจีน
ความที่มีเชื้อสายจีน ถือเป็นใบเบิกทางสำคัญในการรุกเข้า ไปปักธงในประเทศที่มีผืนแผ่นดินกว้างใหญ่แห่งนี้
ที่สำคัญที่สุด...หากทั้งธนาคารกรุงเทพ และกสิกรไทย ประสบความสำเร็จในการรุกธุรกิจเข้าไปในจีน
โอกาสที่ธนาคารในจีนจะเติบโตจนมีขนาดใหญ่กว่าธนาคาร แม่ในไทยนั้นมีอยู่สูงมาก
เรื่องราวในจีนของทั้งธนาคารกรุงเทพ และกสิกรไทย จึงเป็นเรื่องที่มีสีสันที่น่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง
|
|
|
|
|