ขณะที่ผลกระทบความตกลงการค้าอาเซียน (AFTA) อาจสร้างความกังวลใจให้อุตสาหกรรมน้อยใหญ่จำนวนไม่น้อย จากผลของความไม่ชัดเจนในเชิงยุทธศาสตร์และนโยบายจากภาครัฐ

แต่สำหรับผู้คนในอุตสาหกรรมน้ำตาลทราย มิติมุมมองของพวกเขากลับต่างออกไป โดยล่าสุด 3 สมาคม โรงงานน้ำตาล ทราย (สมาคมโรงงานน้ำตาลไทย สมาคมการค้าผู้ผลิตน้ำตาล สมาคมการค้าอุตสาหกรรมน้ำตาล) ได้สร้างประวัติการณ์ครั้งใหม่ ด้วยการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับคู่ค้ารายใหญ่ Indonesian Refined Sugar Association เพื่อร่วมกันพัฒนาอุตสาหกรรมน้ำตาลในเชิงการค้า

"การลงนาม MOU ในครั้งนี้ถือเป็นครั้งประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมน้ำตาลทรายไทย เพราะเป็นครั้งแรกที่ไทยจะขยายขอบเขตความร่วมมืออย่างชัดเจนในการพัฒนาอุตสาหกรรมน้ำตาล ทรายทั้งข้อมูลด้านการค้า ราคาน้ำตาล และประเด็นปัญหา อุปสรรค ในการค้าน้ำตาลระหว่างกัน รวมถึงจะมีการสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนและการประชุมระหว่าง 2 ประเทศอย่างต่อเนื่อง" วิบูลย์ ผาณิตวงศ์ รองประธานคณะกรรมการประสานงาน 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทรายระบุ

สำหรับรายละเอียดภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจดังกล่าว จะครอบคลุมในเรื่องของความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลและความคิดเห็น รวมถึงการร่วมผลักดันการทำข้อตกลงเสรีการค้า โดยผ่านการหารือในระดับพหุภาคีและทวิภาคี

ทั้งนี้ ได้ตกลงที่จะมีการร่วมประชุมหารือกันอย่างเป็นทางการระหว่างไทยและอินโดนีเซียอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการพัฒนาอุตสาหกรรมน้ำตาลทรายของทั้ง 2 ประเทศในอนาคตอย่างต่อเนื่อง

สำหรับประเทศอินโดนีเซียถือเป็นตลาดผู้ซื้อน้ำตาลอันดับหนึ่งของไทย ซึ่งการร่วมมือในครั้งนี้จะเกิดผลประโยชน์กับ อุตสาหกรรมน้ำตาลทรายของไทยอย่างมหาศาล โดยในปี 2551 ไทยส่งออกน้ำตาลไปอินโดนีเซียเป็นอันดับหนึ่งถึง 1.642 ล้านตัน มูลค่า 449.727 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 14,865 ล้านบาท และในปี 2552 ไทยส่งออกน้ำตาลไปอินโดนีเซีย 1.035 ล้านตัน มูลค่า 360.127 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 12,276 ล้านบาท ขณะเดียวกันความตกลงการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) จะทำให้สินค้า ส่งออกของไทยโดยเฉพาะน้ำตาลมีความสามารถแข่งขันดีขึ้นในตลาดอินโดนีเซีย

ไม่ว่าธุรกิจอุตสาหกรรมอื่นจะได้รับผล และประเมิน AFTA ในด้านบวกหรือลบอย่างไร ดูเหมือนว่า 3 สมาคมโรงงานน้ำตาล ทราย จะทำให้น้ำตาลไทยหวานได้มากขึ้นอีกไม่น้อยเลย