"กชกร สถาปิตานนท์" แม่ทัพหญิงการตลาดคนใหม่ของโนเกียเปิดวิชั่นครั้งแรกหลังเข้ารับตำแหน่งนานกว่า 6 เดือน เน้นย้ำทิศทางการตลาดของโนเกียต้องทำสิ่งใหม่ๆ ให้เป็นเทรนด์เซ็ตเตอร์ของตลาดต่อไป ฉีกหนีรูปแบบเดิมๆ ของบริษัทพร้อมกับฉีกหนีตัวเองห่างจากคู่แข่งขันในตลาด ยอมรับงานใหม่กดดันรอบด้าน แต่ถือเป็นความท้าทาย มั่นใจรูปแบบการทำงานเป็นทีม นำโนเกียรักษาความเป็นผู้นำตลาดและแบรนด์ที่ได้รับชื่นชอบสูงสุดในไทย

นางสาวกชกร สถาปิตานนท์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด โนเกียโมบายโฟนส์ บริษัท โนเกีย (ประเทศไทย) จำกัด เปิดให้สัมภาษณ์อย่างเป็นทางการครั้งแรกหลังจากเข้ามารับผิดชอบดูแลงานด้านการตลาดผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือโนเกีย รวมทั้งกิจกรรมส่งเสริมตลาดและการขาย และการสื่อสารของโนเกียโมบายโฟนส์ ประเทศไทย ว่าที่ผ่านมาตลอด 6 เดือนที่เข้าร่วมงานกับโนเกีย ต้องอาศัยช่วงระยะเวลาในการเข้ามาเรียนรู้งานต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำความรู้จักกับธุรกิจและสินค้าโทรคมนาคม รวมทั้งการปรับตัวให้เข้ากับองค์กรวัฒนธรรมใหม่ๆ ในโนเกียด้วย

ก่อนหน้าที่จะเข้ามาอยู่กับโนเกียในครั้งนี้เธอมีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญด้านการตลาดเพื่อการสร้างแบรนด์ การวางแผนการตลาด การส่งเสริมการขาย รวมทั้งการพัฒนาพนักงานในแผนก โดยได้นำความสำเร็จมาสู่ผลิตภัณฑ์ที่รับผิดชอบ ซึ่งในปี 2546 เคยดำรงตำแหน่ง Senior Trade Category Manager บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด ดูแลงานด้านการตลาดร้านค้าของกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิว การพัฒนาธุรกิจ และการสนับสนุนคู่ค้าในด้านกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ และเคยดำรงตำแหน่งผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์พอนด์ ระหว่างปี 2540-2544

นอกจากนี้ เธอยังมีประสบการณ์การทำงานด้านสินเชื่อและการเงินกับบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด(มหาชน) และธนาคารไทยทนุ จำกัด (มหาชน)

"ถือเป็นความท้าทายใหม่ที่อยากทดลองทำงานทางด้านเทเลคอม จึงตัดสินสมัครกับโนเกีย ซึ่งถือเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในตลาด โดยอาศัยประสบการณ์ทางด้านคอนซูเมอร์โปรดักต์เข้ามาประยุกต์ใช้ เนื่องจากในปัจจุบันมือถือถือเป็นส่วนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับชีวิตผู้บริโภคทุกกลุ่ม ไม่แตกต่างจากสินค้าคอนซูเมอร์อื่นๆ"

อย่างไรก็ตามในช่วงก่อนหน้านี้มีผู้บริหารในสายคอนซูเมอร์หลายด้าน เปลี่ยนมาทำงานในสาย โทรคมนาคม ซึ่งส่วนใหญ่จะประสบความล้มเหลว นางสาวกชกร กล่าวว่าแต่ละบุคคลย่อมมีจุดเด่นจุดแข็ง หรือว่ามีจุดอ่อนที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับคนนั้นว่าจะสามารถปรับเปลี่ยนสไตล์การทำงาน ให้เข้ามางานโทรคมนาคมได้มากน้อยกว่ากันเพราะโดยส่วนตัวคิดว่าเป็นธุรกิจที่มีความท้าทายสูง มีความกดดันในหลายรูปแบบ แต่ไม่ลำบากใจที่ต้องเข้ามารับผิดชอบงานในตำแหน่งนี้

ที่สำคัญในองค์กรโนเกียจะเน้นการทำงานเป็นทีม และในส่วนการตลาดเป็นการร่วมงานในลักษณะของทีมเช่นกัน มีการซัปพอร์ตจากทุกคนที่เกี่ยวข้อง มีกลุ่มพันธมิตรทางธุรกิจคอยให้การช่วยเหลือ จุดนี้ถือเป็นจุดแข็งสำคัญที่ทำให้การเข้ามาดูแลการตลาดของโนเกียไม่ใช่เรื่องที่ยาก

นอกจากนี้ โนเกียถือเป็นบริษัทโกลบอลทิศทางการตลาดในระดับโลกและระดับประเทศมีความ ชัดเจน ปัจจุบันโนเกียไม่ได้คิดเพียงแต่การเป็นผู้ผลิตมือถือเท่านั้น แต่โนเกียกำลังจะพัฒนาตลาดของบริษัทไปสู่การเป็นคอนเวอร์เจนดิจิตอลอินดัสทรี ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแบบเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเกมมิ่ง เอ็นเตอร์ไพรส์โซลูชั่น อิมเมจจิ้นโฟน สิ่งเหล่านี้ถือเป็นการพัฒนาการตลาดของบริษัทไปในทิศทางชัดเจน

"เราจะต้องฉีกหนีรูปแบบเดิมๆ ของโนเกียตลอดเวลา ในเวลาเดียวกันก็ต้องฉีกหนีคู่แข่งขันในตลาดออกไปเรื่อยๆ ด้วยการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้กับตลาด การนำเสนอเทรนด์ใหม่ รวมทั้งการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น"

เธอกล่าวว่าแบรนด์โนเกียถือเป็นจุดแข็งสำคัญที่สุดสำหรับการทำตลาด เนื่องจากการได้รับความนิยมสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นในประเทศไทยหรือทั่วโลก หน้าที่หลักในการผลักดันตลาดจึงอยู่การตีโจทย์เรื่องของความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่กระจายกันอยู่ในแต่ละเซกเมนต์ การที่โนเกียจะนำเทคโนโลยีมือถือเข้ายังกลุ่มเป้าหมายเหล่านั้น จึงเป็นหน้าที่ของฝ่ายการตลาดที่จะต้องมาวิเคราะห์ หาแนวทาง เพื่อให้การตลาดประสบผลสำเร็จ

สิ่งที่ฝ่ายการตลาดกำลังให้ความสำคัญเป็นพิเศษก็คือเรื่อง ของวิธีการสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่มที่จะต้องมีความแตกต่างกัน เน้นการหาสื่อในวงกว้างแต่จะต้องลงลึกเข้าไปยังกลุ่มลูกค้า โดยพิจารณาความเหมาะสมระหว่างไลฟ์สไตล์ของลูกค้า กับโทรศัพท์รุ่นต่างๆ ของโนเกียที่เปิดตัวหรือว่าขายอยู่ในขณะนี้ เพราะวันนี้โนเกียมีสินค้าที่หลากหลายมาก ความซับซ้อนของผลิตภัณฑ์และกลุ่มลูกค้าจึงต้องแยกให้ออกและนำเสนอได้อย่างตรงจุด

"เราต้องการเป็นแบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาดในประเทศไทย และเป็นแบรนด์ที่ได้รับความชื่นชอบสูงสุดจากผู้ใช้"

สำหรับภาวะการแข่งขันทางด้านธุรกิจ เธอกล่าวว่าตลาดในขณะนี้ถือเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูงมาก เป็นตลาดที่ไดนามิก ผู้บริโภคมีทางเลือกค่อนข้างมาก จึงเป็นที่มาของการตลาดของโนเกียที่จะต้องสร้างความแตกต่าง จะเห็นได้ว่าช่วงที่ผ่านมา โนเกียจะเน้นเรื่องของอีเวนมาร์เกตมากขึ้น จากการจัดคอนเสิร์ตเปิดตัวโนเกียรุ่น 3300 ซึ่งเป็นมิวสิคโฟน การจัดการแข่งขันเกมกับในช่วงทำตลาดเปิดตัวโนเกียเอ็นเกจ หรือการจัดงานเปิดตัวโนเกีย 6600 ที่เป็นบิสซิเนสโฟนกับกลุ่มนักธุรกิจ ล่าสุดเน้นไปที่ตลาดแฟชั่นในการเปิดตัว 7600 และ 3200

ส่วนเรื่องของเทรนด์โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ๆ ที่กำลังจะมาทั้งในปีนี้และปีหน้านั้น นางสาวกชกร ให้ความเห็นว่าโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาในตลาด จะเน้นการใช้งานทางด้านนอนวอยซ์ค่อนข้างมาก ส่วนสำคัญเป็นผลมาจากการผลักดันอย่างมากของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศ ซึ่งในส่วนของโนเกียต้องการที่จะรักษาความเป็นผู้นำในตลาด ทำให้มือถือรุ่นใหม่ที่เปิดตัวมีการเพิ่มฟีเจอร์ฟังก์ชั่นเพื่อการ ใช้งานทางด้านนอนวอยซ์เพิ่มมากขึ้นด้วย