Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กรกฎาคม 2529








 
นิตยสารผู้จัดการ กรกฎาคม 2529
จากนัดดา ผ่องศรี ถึงโจรเรียกค่าไถ่ สองชีวิตที่ต้องจากไปพร้อมกับปริศนา             
 


   
search resources

เสถียรภาพอุตสาหกรรม, หจก.
นัดดา ผ่องศรี




นัดดา ผ่องศรี (หน่อย) เป็นลูกบุญธรรมของอุบล จุลไพบูลย์ เจ้าของกลุ่มอุตสาหกรรมเสถียรภาพ นัดดาได้รับอุปถัมภ์ค้ำชูมาแต่อ้อนแต่ออกจากอุบล ได้รับการส่งเสียให้เล่าเรียนจนสำเร็จปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง (ในขณะที่พี่ๆ บุญธรรมทุกคนจบจากนอก) และได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการเงินของทุกบริษัทในเครือ (ซึ่งไม่มีอำนาจแท้จริง เพราะอำนาจแท้จริงอยู่ที่อุบลกับสุรีย์พร) จนภายหลังการประกาศลาออกจากตำแหน่งของพี่สาวบุญธรรม สุรีย์พร จุลไพบูลย์ นิมมานเหมินท์ (สุรีย์พร ชอบเอานามสกุลเดิมวางไว้ตรงกลางพ่วงท้ายด้วยนามสกุลสามี-ศิรินทร์เช่นนี้) นัดดาถูกเชิดจากอุบลให้เข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการแทนสุรีย์พร โดยหน้าที่หลักก็คือคอย “รับหน้า” บรรดาเจ้าหนี้ทั้งหลาย เนื่องจากช่วงนั้นกิจการของกลุ่มอุตสาหกรมเสถียรภาพเริ่ม “เป๋” แล้ว

นัดดาเข้ารับหน้าที่เป็น “หนังหน้าไฟ” เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2528 ช่วงที่สุรีย์พรกลับอุบลเริ่มหายหน้าหายตาไปจากวงสังคมและแวดวงสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ทั้งหลาย

อย่างที่ใครก็คงไม่คาดคิด วันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายนอีกราวๆ หนึ่งเดือนต่อมา นัดดา ผ่องศรีตัดสินใจจบชีวิตตัวเองด้วย .38 รีวอลเวอร์ยี่ห้อสมิธแอนด์เวสสัน นัดดาที่ปกติเป็นคนสุภาพอ่อนโยนยิงตัวตายขณะที่อายุเพิ่งจะ 28 ปี เป็นโสด ท่ามกลางคำถามว่าอะไรเป็นสาเหตุของการคิดสั้นเช่นนั้น?

หนึ่งชีวิตได้จากไปแล้วพร้อมๆ ปริศนา?

และถัดมาอีกราวๆ 8 เดือน ก็มีอีกหนึ่งชีวิตที่ต้องจากไปด้วยกระสุนปืนเป็นศพที่สอง

จ่านายสิบตำรวจสมพล จันทรเมฆา อายุ 35 ปี อดีตตำรวจสถานีตำรวจภูธรอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ที่ทิ้งเครื่องแบบผู้พิทักษ์สันติราษฎร์มาใช้ชีวิตเป็นโจรเรียกค่าไถ่

จ่านายสิบตำรวจสมพลกับเพื่อนร่วมแก๊งอีกจำนวนหนึ่งได้ก่อคดีอุกอาจตามรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับประจำวันเสาร์ที่ 19 เมษายน 2529 นี้คือ เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2529 พวกเขาได้ร่วมกันลักพาตัวนายดุลย์ จุลไพบูลย์ กับนางสาวนุชนารถ จุลไพบูลย์ 2 พี่น้องทายาทเจ้าของกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมเสถียรภาพ (เป็นลูกของอุบล และเป็นน้องชายน้องสาวของสุรีย์พร) และเรียกค่าไถ่เป็นเงิน 4 ล้านบาท ขณะต่อรองค่าไถ่ตัวนั้นฝ่ายเจ้าทุกข์ปิดปากเงียบไม่ยอมให้เรื่องแพร่งพรายเข้าหูตำรวจ ส่วนฝ่ายคนร้ายก็ได้นำ 2 พี่น้อง “จุลไพบูลย์” ไปกักขังไว้ในกระท่อมร้างแห่งหนึ่งในเขตอำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี

แต่ตำรวจก็รู้จนได้ อีก 20 วันต่อมาทีมล่าตัวโจรเรียกค่าไถ่ก็ลงมือปฏิบัติการชิงตัวประกันได้สำเร็จทั้งดุลย์และนุชนารถปลอดภัย และจ่านายสิบตำรวจสมพล จันทรเมฆา คนร้ายซึ่งตามข่าวบอกว่ายิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกเป่าดิ้นสิ้นชีวิต มีปืนพกขนาด 11 มม. ปืนลูกซองสั้นกับระเบิดมืออีก 1 ลูกตกอยู่ข้างๆ ศพ

การตายของอดีตตำรวจ สภ.อ. สามพราน อย่าง จ.ส.ต. สมพลนั้น ถ้าจะว่าไปก็คงจะไม่มีอะไรที่ต้องตั้งคำถาม แต่คดีลักพาตัวเรียกค่าไถ่นี้สำหรับผู้อยู่ในวงในหลายคนกลับเห็นว่าเป็นปริศนามาก

เพราะเผอิญมันเป็นคดีที่เกิดขึ้นในช่วงที่กลุ่มอุตสาหกรรมเสถียรภาพกำลังยุ่งๆ อยู่พอดีด้วย

“มันเป็นช่วงเวลาที่ตัวแม่คุณอุบลทะเลาะกับลูกสาวคือคุณสุรีย์พร เป็นช่วงที่เจ้าหนี้พยายามตามหาตัวลูกหนี้ แล้วจู่ๆ ก็ได้รับคำตอบว่าดุลย์กับนุชนารถซึ่งก็เป็นผู้บริหารอยู่ด้วยถูกจับตัวเรียกค่าไถ่หายหน้าหายตาไปพร้อมๆ กับแม่และพี่สาว เขาก็งงมากว่ามันอะไรกัน ส่วนขวัญและกำลังใจของคนงานก็กระทบกระเทือนมากเพราะส่วนมากก็เป็นคนของสุรีย์พร ที่จู่ๆ ประกาศลาออกจากตำแหน่ง…” แหล่งข่าวที่อยู่วงในคนหนึ่งเปิดเผยกับ “ผู้จัดการ”

ช่วงแรกๆ บรรดาเจ้าหนี้หลายรายก็เลยอดคิดไม่ได้ว่ามันเป็นเรื่องตลก ซึ่งถ้าไม่กลายเป็นข่าวใหญ่บนหน้าหนังสือพิมพ์แล้วทุกคนก็คงจะไม่เชื่อ

และถึงแม้ว่าจะต้องเชื่อก็ยังมีเงื่อนปมให้คลางแคลงใจอีกนั่นแหละ

จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้คลี่คลายคดีนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปักใจเชื่อโดยพยานหลักฐานหนาแน่นว่า แก๊งโจรจับคนเรียกค่าไถ่นี้มีหัวหน้าแก๊งชื่อร้อยตำรวจโทประจวบ จันทรเมฆา อดีตนายตำรวจประจำอยู่กองตรวจภาษี ซึ่งถูกไล่ออกจากราชการเพราะมั่วสุมการพนันเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว

ร้อยตำรวจโทประจวบเป็นญาติกับจ่านายสิบตำรวจสมพลที่ถูกยิงเสียชีวิตเพราะต่อสู้ขัดขืนการจับกุม และที่สำคัญยิ่งกว่านั้น เขามีภรรยาทำงานอยู่ในบริษัทอุตสาหกรรมเสถียรภาพ มีตำแหน่งเป็นหัวหน้าฝ่ายธุรการ

และทุกคนในโรงงานเซรามิกนี้ล้วนทราบดีว่า ภรรยาของร้อยตำรวจโทประจวบเป็นคนสนิทของสุรีย์พร

ในช่วงที่ร้อยตำรวจโทประจวบถูกจับกุมตัวในฐานะหัวหน้าแก๊งคนร้ายนั้น หัวหน้าฝ่ายธุรการคนนี้หายหน้าหายตาไปจากโรงงานพักหนึ่ง โดยอ้างว่ามีธุรกิจส่วนตัวที่จะต้องดำเนินการ หลังจากนั้นก็กลับเข้ามาทำงานตามปกติ

ก็นั่งทำงานประจันหน้ากับเหยื่อโจรค่าไถ่ทั้งดุลย์และนุชนารถอย่างไม่สะทกสะท้านท่ามกลางความงุนงงของพนักงานทุกคนในโรงงาน

“ผมทราบแล้วก็มึนไปหมด ไม่รู้ว่ามันอะไรกันแน่…” แม้แต่เจ้าหนี้ของกลุ่มเสถียรภาพรายหนึ่งก็อดงุนงงไปด้วยไม่ได้

ถ้าจะว่าไปก็คงเป็นเรื่องที่เต็มไปด้วยปริศนาไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการฆ่าตัวตายของนัดดา ผ่องศรี ซึ่งวิจารณ์กันมากว่าสาเหตุเพราะถูกกดดันอย่างหนักจากครอบครัว โดยเฉพาะแม่เลี้ยง “เท่าที่ทราบลูกเลี้ยงคนนี้รับรู้เรื่องราวไว้มากพอสมควร แม่กับพี่สาวทำอะไรรู้หมด ก็เป็นได้ที่อาจจะไม่พอใจการกระทำหลายๆ อย่าง แต่ต้องเก็บกดไว้เพราะเกรงใจผู้มีพระคุณ อีกอย่างก็เป็นคนหงิมๆ ไม่ค่อยมีปากมีเสียงและขี้ใจน้อยอยู่ด้วย เท่าที่ฟังมาก็มีสภาพเช่นนี้เป็นพื้นฐาน…” ผู้รู้ระดับวงในคนหนึ่งสาธยายให้ฟัง

ว่ากันว่าจุดระเบิดที่ทำให้นัดดาตัดสินใจคิดสั้นนั้น เป็นช่วงที่นัดดาถูกเชิดให้อยู่ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการแทนพี่บุญธรรม ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เจ้าหนี้หลายรายพยายามส่งคนเข้ามาศึกษาข้อมูลเพื่อจะหาคำตอบว่าอะไรเป็นสาเหตุที่กลุ่มอุตสาหกรรมเสถียรภาพไม่สามารถชำระหนี้ได้

แหล่งข่าวจากหลายสายระบุว่า นัดดาจะด้วยเจตนาเช่นใดไม่ทราบ ได้นำข้อมูลภายในบางอย่างไปบอกกับเจ้าหนี้ “เธออาจจะยังอ่อนหัดอยู่ด้วยก็ได้ เลยทำไปเช่นนั้น” บางคนวิจารณ์ และผลก็คือนัดดา ถูกด่าว่าอย่างสาดเสียเทเสียจากแม่เลี้ยง

หลังจากนั้นไม่นานนัดดาก็ยิงตัวตาย!!

สำหรับเจ้าหนี้ทั้งหลายนั้นรับทราบข่าวการตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเองของนัดดาด้วยความรู้สึกที่สลดใจเอามากๆ แรกๆ หลายคนก็อดคิดไม่ได้ว่าจะเป็นเพราะการบีบรัดเรื่องหนี้สินที่ทำลงไปหรือไม่ แต่เมื่อได้ข้อมูลเข้ามาบ้างแล้วว่าอะไรเป็นอะไรนั่นแหละจึงค่อยสบายใจขึ้น

“ผมว่าเรื่องนี้ก็น่าจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่เจ้าหนี้หลายรายรู้สึกขยาดไปอยากไปแตะต้องกลุ่มนี้มาก…” เจ้าหนี้รายหนึ่งพูดกับ “ผู้จัดการ”

แต่สำหรับผู้เป็นต้นเหตุล่ะ… จะรู้สึกสำนึกถึงบาปบ้างหรือไม่ และนี่ก็คือปริศนาสุดท้ายสำหรับการตายของคนสองคนที่อีกสักพักทุกคนก็คงจะลืมๆ กันไป

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us