Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กรกฎาคม 2529








 
นิตยสารผู้จัดการ กรกฎาคม 2529
ที่นี่จะเป็นโรงงานเซรามิกแห่งใหม่ สร้างและดำเนินงานโดยสุรีย์พร นิมมานเหมินท์             
 


   
search resources

Ceramics
สุรีย์พร นิมมานเหมินท์




ลึกเข้าไปในซอยแคบๆ ชื่อ “นวลทอง” ซึ่งแยกจากถนนเศรษฐกิจ 1 ก่อนถึงโรงงานของกลุ่มอุตสาหกรรมเสถียรภาพเพียงไม่เกิน 100 เมตร ด้านซ้ายมือริมซอยบนที่ดินขนาด 7 ไร่เศษๆ ที่ครั้งหนึ่งไม่ถึงเดือนมานี้เคยเป็นร่องสวนรกๆ บัดนี้ดินได้รับการถมและปรับอย่างเรียบร้อย มีร่องรอยการวางศิลาฤกษ์แล้วและคนงานกำลังตอกเสาเข็มกันอย่างขมีขมัน

ชาวบ้านย่านนั้นทราบกันเกือบทุกคนว่าที่ตรงนี้จะใช้สร้างเป็นโรง “ถ้วยชาม” เหมือนๆ กับโรงงานของกลุ่มอุตสาหกรรมเสถียรภาพซึ่งก็คงจะหมายถึงโรงงานเซรามิก และก็ทราบด้วยว่าผู้ที่ดำเนินงาน ตั้งแต่ซื้อที่ถมที่ไปจนการควบคุมการก่อสร้างอย่างใกล้ชิดนั้นเป็นลูกสาวเจ้าของโรงงานกลุ่มอุตสาหกรรมเสถียรภาพ

ชาวบ้านเรียกเธอว่า “คุณยุ้ย” หรือชื่อจริงของเธอก็คือสุรีย์พร นิมมานเหมินท์ อดีตกรรมการผู้จัดการกลุ่มอุตสาหกรรมเสถียรภาพ คนที่สร้างหนี้สินร่วมกับแม่-อุบล จุลไพบูลย์ ไว้ถึงเกือบ 1,600 ล้านบาท ก่อนจะสะบัดก้นลาออกจากตำแหน่งอย่างไม่ยี่หระกับเสียงครหาที่ดังมาตามหลัง

นับตั้งแต่สุรีย์พรหรือยุ้ยลาออกจากตำแหน่งนั้นก็มีข่าวติดตามมาในทันทีว่าเธอเดินทางไปต่างประเทศ เจ้าหนี้หลายรายที่อยากเจรจาวิสาสะด้วยก็ต้องผิดหวังไปตามๆ กันจวบจนทุกวันนี้ก็ยังพูดกันไม่ขาดปากว่า “คุณยุ้ย” ยังไม่กลับ และก็คงจะไม่กลับอีกเป็นเวลานานนัก

แต่ก็มีไม่น้อยคนอีกเหมือนกันที่เชื่อว่าสุรีย์พรยังอยู่ในเมืองไทย และไม่น้อยคนนี้ถึงจะพูดไปโดยไม่มีอะไรมายืนยัน แต่ก็ปรากฏว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

“คุณยุ้ย” นั้นไม่ได้หนีหน้าไปไหน (ยกเว้นเจ้าหนี้)!!

ว่ากันว่าช่วงแรกๆ ที่จำเป็นต้องเก็บเนื้อเก็บตัวบ้างก็เพราะเผอิญมีคดีอาญาเกี่ยวกับเช็คกับบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์สินเอเซีย และอีก 2-3 สถาบันการเงิน ซึ่งจำนวนเงินก็แค่รายละ 2-3 ล้านบาท ครั้นคดีที่ว่านี้สามารถตกลงประนีประนอมกันได้โดย “ยอดสามี” ศิรินทร์ นิมมานเหมินท์ เป็นผู้เจรจาขอร้องให้ สำหรับสุรีย์พรนั้นก็คงจะทราบดีว่า ต่อไปนี้เธอไม่จำเป็นต้องไปเกรงกลัวหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆ แล้ว เพราะอย่างมากก็เจอคดีแพ่ง หรือถ้าจะฟ้องล้มละลายถึงขั้นต้องปิดโรงงานเสถียรภาพสุรีย์พรก็คงจะไม่กลัวเนื่องจากเธอรวยแล้ว…ประทานโทษ…เธอไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับกิจการของแม่ (อุบล จุลไพบูลย์) อีกต่อไปแล้วนั่นเอง

ดูเหมือนฝ่ายเจ้าหนี้ต่างหากที่จะต้องกลัวเพราะขืนบุ่มบ่ามไม่ดูตาม้าตาเรือก็คงจะต้องเตรียมตั้งสำรองหนี้สูญเอาไว้ล่วงหน้า

เมื่อไม่ต้องกลัวหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆ สุรีย์พรในช่วงเดือนกว่าๆ มานี้ก็จัดการติดต่อซื้อที่ดินจากชาวบ้านย่านใกล้ๆ โรงงานเก่าของเธอเป็นจำนวน 7 ไร่เศษ ราคาซื้อขายก็ 1 ล้าน 2 แสนบาทเศษอีกนิดหน่อย (เจ้าของบอกกับ “ผู้จัดการ” ว่าขายให้คุณยุ้ยในราคาไร่ละ 1 แสน 8 หมื่นบาท) จัดการเช่าอาคารพาณิชย์ใกล้ๆ กับบริเวณที่ดินเอาไว้ 2 คูหาทำเป็นสำนักงานชั่วคราว ถมที่ดินทันทีหลังจากชำระเงินซื้อขายกัน เสร็จแล้วก็ลงมือก่อสร้างโรงงานเซรามิก

เดือนเศษๆ มานี้สำหรับสุรีย์พรแล้วก็คงจะมีงานยุ่งเป็นพิเศษ และก็ต้องเข้ามาตรวจตราการก่อสร้างโรงงานอย่างน้อยที่สุดก็ 2 วันครั้ง

“แหม คุณคลาดกับคุณยุ้ยนิดเดียว ถ้ามาเร็วกว่านี้ก็พบกันแล้ว” เจ้าของร้านขายเครื่องดื่มหน้าโรงงานที่กำลังสร้างพูดกับ “ผู้จัดการ”

มีข่าวที่พูดกันระดับวงในว่า โรงงานแห่งนี้ยื่นขออนุญาตตั้งจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมในนาม มณฑา พานิชวงศ์ น้าสาวของสุรีย์พร แต่ไม่มีใครทราบว่าได้ยื่นขอรับการส่งเสริมจากบีโอไอแล้วหรือไม่ “คือถ้าไม่ได้บีโอไอนี่ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะการตั้งโรงงานเซรามิกถ้าจะแข่งขันได้มันต้องได้รับการส่งเสริมและคุ้มครองจากรัฐบาลด้วย…” กรรมการผู้จัดการบริษัทการเงินแห่งหนึ่งตั้งปุจฉา

และก็มีข่าวแพร่สะพัดไม่แพ้กันว่า คนงานของโรงงานใหม่นี้ส่วนใหญ่จะเป็นคนงานที่ลาออกมาจากโรงงานของกลุ่มอุตสาหกรรมเสถียรภาพ รวมทั้งระดับบริหารบางตำแหน่งด้วย

“ซึ่งตอนนี้ก็มีหลายคนเริ่มทยอยลาออกไปบ้างแล้ว และก่อนหน้านี้คนงานจำนวนหนึ่งที่ภักดีกับคุณยุ้ยก็พูดกันให้แซดว่า เขาเชื่อว่าคุณยุ้ยต้องไม่วางมือจากวงการนี้ง่าย ๆ” คนที่รู้ความเป็นไปภายในโรงงานเสถียรภาพเล่าให้ฟัง

ก็อาจจะยืนยันได้อย่างแน่ชัดว่าสุรีย์พรนั้นมีเลือดของความเป็นนักประกอบการอยู่เต็มตัว

นักประกอบการนั้นมักจะมีอยู่ 2 ประเภทเมื่อกิจการเจ๊ง

ประเภทแรก เจ๊งเพราะปัจจัยบางประการ แต่ยังมีคุณธรรมและความรับผิดชอบพอที่จะทำให้เจ้าหนี้หรือวงสังคมยังให้ความเชื่อถือ คนประเภทนี้ถึงล้มก็ยังมีคนอยากช่วยค้ำชูให้ลุกขึ้นอีกครั้ง

ประเภทที่สอง เจ๊งแล้วรวย ก็คงไม่ต้องบอกก็ได้กระมังว่าระดับคุณธรรมนั้นมีอยู่แค่ไหน สำหรับสุรีย์พร นิมมานเหมินท์ นั้น หลายคนกำลังเฝ้ามองอยู่ว่าเธอจะเป็นนักประกอบการประเภทไหนกันแน่?

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us